เมื่อเห็นว่าอุลบาพุ่งหาตัวเองเหมือนคนเสียสติแบบนี้ ต้วนไคก็รู้สึกงุนงงอยู่ในใจ
นี่เขาบ้าไปแล้วงั้นเหรอ?
เขาบอกกับอุลบาไปแล้วว่าดาบในมือของเขาทั้งสองมันคมเป็นอย่างมาก มันคมถึงขนาดที่สามารถฟันอาวุธระดับสวรรค์ให้ขาดสองท่อนก็ยังได้ แต่ทำไมอุลบาที่รู้อยู่แล้วแท้ ๆ กลับพุ่งเข้ามาหาราวกับว่าไม่กลัวดาบของเขาแบบนี้?
ต่อให้ไอ้เจ้าต้นไม้นั่นจะเป็นคนรักของเจ้า แต่ข้าแค่ทำให้นางบาดเจ็บเท่านั้น ข้าไม่ได้ฆ่านางสักหน่อย ทำไมเจ้าถึงโกรธแค้นอะไรได้ขนาดนี้?
เมื่อไม่เข้าใจในการกระทำของอุลบาสักเท่าไหร่ ต้วนไคจึงถอยหนีก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง เพราะเขาไม่อยากที่จะเสี่ยงชีวิตกับอุลบาหากไม่จำเป็น
แต่แล้วเมื่อต้วนไคถอยเว้นระยะห่าง อุลบากลับยิ่งดูเหมือนบ้าคลั่งยิ่งขึ้น
ในความคิดของอุลบา การที่เขาเผชิญกับคู่ต่อสู้เช่นต้วนไค เขามีแค่เพียงทางเลือกเดียวคือการโจมตีไม่ใช่การป้องกัน
ดังนั้นเขาจึงพุ่งเข้าใส่ต้วนไคราวกับว่าเขาไม่เห็นอันตรายใด ๆ อยู่ในสายตา
หลายครั้งที่ในระหว่างถอยหนี ต้วนไคเองก็อยากจะใช้ดาบฟันสวนออกไปเหมือนกัน แต่ทุก ๆ ครั้งเขาก็ถูกความบ้าคลั่งของอุลบาทำให้เขาลังเลที่จะฟันดาบออกไป
ต้วนไครู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่า ตอนนี้อุลบาดูไม่ปกติเป็นอย่างมาก เพราะมันไม่มีใครที่ไหนที่จะอยากตายวิ่งเข้ามาหาคมดาบแบบนี้
หรือว่าจะเป็นไปได้ไหมที่ร่างกายของอุลบาจะแข็งแกร่งจริง ๆ จนถึงขนาดที่ดาบของเขาจะฟันไม่เข้า?
ต้วนไคอดไม่ได้ที่จะคิดแบบนี้ เพราะไม่ว่าเขาจะมองยังไงอุลบาก็ดูไม่ใช่คนที่จะวอนหาเรื่องตายแบบโง่ ๆ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็เริ่มที่จะระแวงมากกว่าเดิม เขากลัวว่าหากดาบของเขาฟันร่างของอุลบาไม่เข้าใจจริง ๆ มันจะเป็นเขาเองที่ถูกอุลบาคว้าร่างได้ และโดนฉีกออกเป็นชิ้น ๆ
ดังนั้นต้วนไคจึงคิดทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกายอุลบาโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงมากเกินไปก็คือ การส่งปราณดาบพุ่งไปที่ร่างของอุลบาจากระยะห่างก่อน
ถึงแม้ว่าปราณดาบจะมีความคมไม่เท่ากับดาบของเขา แต่ด้วยระดับความเข้าใจในเต๋าดาบของเขาบวกกับอำนาจของดาบในมือ ซึ่งเป็นสมบัติแห่งชะตาชีวิตของเขา ปราณดาบที่เขาส่งออกไปมันจึงคมได้พอ ๆ กับดาบระดับสวรรค์ทั่วไปเลยทีเดียว
ปราณดาบที่ต้วนไคปล่อยออกมานั้นโดนแขนของอุลบาที่ยกขึ้นมาป้องกันเต็ม ๆ ซึ่งส่งผลให้ผิวหนังที่แขนของเขาถูกเฉือนลึก และเลือดสีน้ำตาลดำก็พรั่งพรูออกมา
ต้วนไค เมื่อเห็นว่าการโจมตีของเขาได้ผล เขาก็รู้สึกผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก ในเมื่อปราณดาบของเขายังใช้ได้ผล ถ้าอย่างนั้นดาบของเขาก็ต้องยิ่งได้ผลดีมากกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้มันก็ไม่ยากเท่าไหร่ที่เขาจะฟันหัวอุลบาให้หลุดออกจากบ่า
ทางด้านของอุลบา เมื่อถูกโจมตีแบบนี้เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเช่นกัน เนื่องจากในตอนแรกเขาไม่แน่ใจว่าร่างวิญญาณของเขาที่ถูกปกคลุมด้วยผิวหนังสีดำเงาจะเสียหายหรือเปล่าถ้าหากถูกฟัน
แต่แล้วเมื่อปราณดาบของต้วนไคถูกปล่อยมาหาเขา เขาจึงจงใจลองรับการโจมตีนี้โดยไม่หลบหลีกและยกแขนขึ้นมาป้องกันเพื่อทดสอบว่ามันจะเป็นยังไง ซึ่งผลที่ได้เขาก็พึงพอใจมาก เพราะถึงแม้หนังของเขาจะถูกเฉือนลึกเข้าไปถึงร่างวิญญาณ แต่ร่างวิญญาณของเขากลับไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย แถมเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยังคงปกปิดร่างวิญญาณไม่ให้ถูกเห็นอีกต่างหาก
เมื่อรู้เช่นนี้ อุลบาก็ไม่เกรงกลัวต้วนไคอีกต่อไป และเพิ่มความเร็วพุ่งเข้าหาต้วนไคเพื่อปล่อยหมัดเข้าหน้าอกของต้วนไคทันที
ทางด้านของต้วนไค ในตอนนี้เขาก็ไม่ถอยหนีแล้วเช่นกัน เพราะเขาเข้าใจว่าดาบของเขาจะได้ผลแน่นอน เขาตะโกนขึ้นดังลั่นว่า “ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก งั้นข้าจะสนองความต้องการให้เจ้าเดี๋ยวนี้!”
เมื่อพูดจบ ต้วนไคหยุดอยู่กับที่เพื่อปักหลักและควงดาบคู่ในมือออกกระบวนท่าฟันตามขวาง ดาบซ้ายฟันคอดาบขวาฟันหน้าอกสวนอุลบาที่กำลังพุ่งเข้ามาหา
แต่แล้วในวินาทีที่ดาบทั้งสองฟันถึงตัวของอุลบา จู่ ๆ ส่วนลำคอและส่วนหน้าอกของอุลบากลับหายไปในพริบตาซะอย่างนั้น ส่งผลให้ดาบของต้วนไควาดผ่านไปโดยเหมือนกับฟันไม่ถูกอะไรเลย
จากนั้นในพริบตาเมื่อดาบของต้วนไควาดผ่านไป ร่างของอุลบาก็กลับมาเห็นได้สมบูรณ์ครบทุกส่วนเหมือนเดิมอีกรอบ และในเวลาเดียวกันนั้นหมัดซ้ายของอุลบาก็ปะทะเข้ากับหน้าอกของต้วนไคเข้าอย่างจัง แต่ก่อนที่ร่างของต้วนไคจะลอยละลิ่วออกไป มือขวาของอุลบาก็รีบคว้าแขนซ้ายของต้วนไคเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)