หลิงตู้ฉิงมองไปที่เหล่าภูตดินด้วยสีหน้าจนใจ และไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี
หากภูตดินเหล่านี้ต่อต้านเขาต่อ เรื่องมันจะจบลงง่ายมากเพราะเขาก็แค่ฆ่าพวกภูตดินเหล่านี้ให้ตาย ๆ ไปซะให้หมดก็แค่นั้น
ตอนนี้ไม่ใช่แค่บรรดาภูตดินเหล่านี้ไม่ต่อต้านเขา เหล่าภูตดินกลับกลายเป็นแสดงท่าทีเคารพและสุภาพต่อเขาราวกับว่าเขาเป็นพระเจ้ายังไงหยั่งงั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจะลงมือต่อได้ยังไง?
ที่สำคัญด้วยความสามารถเต๋าอารมณ์ของเขา เขากลับบอกได้อีกว่าภูตดินเหล่านี้ไม่ได้โกหกเขาเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังสับสนอยู่ดีว่าไอ้ผู้ส่งสาสน์ของพระเจ้าที่เหล่าภูตดินพูดถึงและนับถือนักนับถือหนามันคืออะไร?
หลังจากครุ่นคิดอยู่ได้สักพัก หลิงตู้ฉิงจึงพูดขึ้นว่า “อันดับแรกพาข้าไปสถานที่ที่มีพลังธาตุดินหนาแน่นที่สุดก่อน ข้าต้องการที่จะบ่มเพาะร่างกายของข้า!”
ไม่ว่าผู้ส่งสาสน์นั่นมันคืออะไร อันดับแรกเขาต้องบ่มเพาะร่างกายของเขาให้เสร็จก่อน
เหล่าภูตดินรีบตอบกลับทันที “เชิญตามพวกเรามาได้เลยท่านผู้ส่งสาสน์ สถานที่ที่มีพลังธาตุดินอยู่หนาแน่นที่สุดก็คือวิหาร ซึ่งอยู่ใจกลางอาณาเขตเหยาชานของพวกเรา!”
“อืม งั้นจงนำทางข้าไปเดี๋ยวนี้!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น
เมื่อได้ยินคำสั่งของหลิงตู้ฉิง บรรดาภูตดินก็รีบกุลีกุจอนำทางหลิงตู้ฉิงไปยังวิหารของพวกเขาในทันที โดยใช้พลังธาตุดินเคลื่อนแผ่นดินที่พวกเขายืนอยู่มุ่งหน้าไปที่วิหารด้วยความเร็วที่เร็วเหนือกว่าหลงเฉินบินซะอีก
ไม่นานต่อมาทุกคนก็เดินทางมาถึงเนินดินสูง ซึ่งมีวิหารสีทองอร่ามตั้งอยู่บนยอดอย่างโดดเดี่ยว
“ท่านผู้ส่งสาสน์ สถานที่แห่งนี้นับได้ว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราเผ่าภูตดิน วิหารที่ท่านเห็นอยู่บนยอดเนินดินนั้นคือสถานที่ที่มีพลังธาตุดินหนาแน่นที่สุดในอาณาเขตเหยาชาน!” ภูตดินชราหรือก็คือผู้นำของเผ่าภูตดิน อธิบายสถานที่ด้วยท่าทีเคารพ
“อืม!” หลิงตู้ฉิงมองไปยังวิหารที่อยู่บนเนินดินสูงราวกับภูเขาและพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เพราะเขาสัมผัสได้เช่นกันว่าสถานที่แห่งนี้มีพลังธาตุดินสถิตอยู่หนาแน่นจริง ๆ จากนั้นเขาหันมาพูดกับภูตดินชราว่า “ว่าแต่เจ้าชื่ออะไร?”
ภูตดินชรารีบตอบกลับทันที “เรียนท่านผู้ส่งสาสน์ ข้าผู้ต่ำต้อยมีนามว่า ซวนหยวนตู่! สมาชิกเผ่าภูตดินทั้งหมดล้วนใช้แซ่เดียวกันหมดคือ ซวนหยวน และตอนนี้สมาชิกเผ่าของพวกเราทุกตนล้วนอาศัยอยู่แต่ในอาณาเขตเหยาชาน ซึ่งถ้านับตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษมาพวกเราอาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่าล้านปีแล้ว และเพื่อคงความบริสุทธิ์ของเผ่าพันธุ์ พวกเราจึงไม่เคยที่จะมีคู่เป็นสายพันธุ์อื่น ๆ มาก่อน”
“ตั้งแต่ข้าเกิดมามีจำนวนนับครั้งได้ที่คนของเผ่าข้าจะเดินทางออกไปติดต่อกับเผ่าอื่นเพื่อทำธุระที่จำเป็น และถ้าหากไม่ใช่ธุระที่คอขาดบาดตายจริง ๆ พวกเราก็จะไม่อนุญาตให้คนนอกย่างกรายเข้ามาในดินแดนของพวกเราเด็ดขาด แต่แน่นอนว่าสำหรับท่านผู้ส่งสาสน์และคณะของท่านย่อมเป็นข้อยกเว้นที่พวกเราเต็มใจ”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวด้วยสีหน้าจนใจและถามว่า “ข้าไม่เคยมาเยือนดินแดนของเจ้าหรือเคยเจอบรรพบุรุษของพวกเจ้าเลยสักครั้ง ดังนั้นข้าขอถามเจ้าหน่อย ทำไมเจ้าถึงมั่นใจนักว่าข้าเป็นผู้ส่งสาสน์อะไรนั่น?”
ในมุมมองของหลิงตู้ฉิง หากเขาจะเป็นผู้ส่งสาสน์หรือผู้กอบกู้ของภูเขาฟีนิกซ์หรือกองกำลังอื่น ๆ ที่เขาเคยเดินทางไปในอดีตมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่สำหรับภูตดินเหล่านี้ที่เขาไม่เคยรู้จักเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจะกลายมาเป็นผู้ส่งสาสน์ของภูตเหล่านี้ได้ยังไง? และที่สำคัญการปรากฏตัวของเขามันช่างประจวบเหมาะกับในเวลาที่ภูตดินเหล่านี้กำลังจะสูญพันธุ์อีกต่างหาก
Aileen-novel
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)