บทที่ 82 ฝ่ามือเพลิงวายุ[รีไรท์]
บทที่ 82 ฝ่ามือเพลิงวายุ[รีไรท์]
หลังจากเด็กร่างอ้วนพ่ายแพ้ลงไปอย่างรวดเร็ว บรรดาผู้ท้าชิงคนอื่น ๆ ก็มองหน้ากัน ไม่มีใครเต็มใจที่จะก้าวออกมาท้าเหล่าคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามพวกเขา
ผู้ท้าชิงทุกคนต้องการท้าหลิงยู่ชานเนื่องจากหลิงยู่ชานผ่านการประลองรอบคัดเลือกมาก่อน ทำให้ข้อมูลระดับบ่มเพาะของเขาไม่เป็นความลับไม่เหมือนกับคนอื่นที่เหลือที่เป็นตัวแทนมาจากสถาบัน
ทุกคนล้วนได้รับข้อมูลว่าเมื่อตอนประลองรอบคัดเลือก หลิงยู่ชานนั้นอยู่ในระดับสามและถึงแม้ว่าวันนี้หลิงยู่ชานจะอยู่ในระดับที่สี่แล้วแต่เขาก็เพิ่งทะลวงระดับสำเร็จ
แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงรอให้เวลาการพักของหลิงยู่ชานสิ้นสุดลง พวกเขาถึงจะสามารถยื่นคำท้าประลองได้
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป…
ตอนนี้เหลือผู้ท้าชิงอยู่เพียง 4 คน พวกเขากำลังรอให้เวลาพักของหลิงยู่ชานหมดลงอย่างใจจดใจจ่อ
และเมื่อเวลาการพักของหลิงยู่ชานสิ้นสุดลง พวกผู้ท้าชิงที่เหลือทั้งสี่ก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นชี้ไปที่หลิงยู่ชานและตะโกน “ข้าขอท้าเขา!”
เมื่อเห็นผู้ท้าชิงทุกคนต่างแย่งกันท้าตนเอง หลิงยู่ชานมองไปที่หลินยู่เพื่อรอการตัดสินใจของเขา
หลินยู่ชี้ไปที่เด็กคนหนึ่งและบอกให้เขาก้าวออกมาสู้กับหลิงยู่ชาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่เห็นว่าตัวเองไม่ได้ถูกเลือกต่างคอตกและท้าทายคนที่เหลืออย่างหดหู่เพราะพวกเขาหมดโอกาสที่จะท้าหลิงยู่ชานอีกแล้ว
ผู้โชคดีที่ได้รับเลือกหัวเราะและพูดกับหลิงยู่ชาน “ข้าเห็นการเคลื่อนไหวของเจ้าชัดเจนเมื่อตอนที่เจ้าประลองรอบที่แล้ว ตอนนี้เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอย่างแน่นอน”
หลิงยู่ชานทำหน้ามุ่ย “เจ้าเห็นการเคลื่อนไหวของข้าชัดเจนหมดเลยงั้นเหรอ?”
หลิงยู่ชานเมื่อได้ยินคู่ต่อสู้ของเขาพูดเช่นนั้น เขาอยากจะบอกกลับไปเหลือเกินว่าเขาไม่ได้ออกกระบวนท่าวิชาอะไรเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่เขาทำกับคู่ต่อสู้คนอื่น ๆ ที่ผ่านมานั้นเขาเพียงแค่หลบหลีกไปตามจังหวะของคู่ต่อสู้ และสวนกลับไปด้วยหมัดธรรมดาเท่านั้นเอง
“มาเถอะรีบสู้ให้เสร็จ ๆ ข้าจะได้เข้าสู่รอบต่อไปสักที” หลิงยู่ชานพูด
ในใจหลิงยู่ชานนั้นคิดว่ารอบการต่อสู้ที่ผ่านมาจนถึงรอบนี้นั้นเป็นเพียงการอุ่นเครื่องเท่านั้น รอบถัดไปต่างหากที่จะเป็นของจริง
“ปากดีนักนะ ข้าจะให้แกเห็นความแข็งแกร่งของข้า!”
เมื่อหลิงยู่ชานเริ่มต่อสู้กับคู่ประลอง เจิ้นป่าเจ่าซึ่งนั่งอยู่ในบริเวณของแขกระดับสูงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างกระหยิ่มใจ
เขาได้เตรียมผู้เข้าร่วมที่แข็งแกร่งที่สุดสามคนไว้แล้ว และตอนนี้หลิงยู่ชานได้ประลองไปแล้วถึงสามรอบ ซึ่งมันต้องสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมากแน่นอน เมื่อเจอกับผู้เข้าร่วมที่เขาเตรียมไว้หลิงยู่ชานจะไปมีปัญญาต่อต้านอะไรได้
“แกตายแน่ไอ้เด็กเวร” เจิ้นป่าเจ่าพูดเสียงต่ำ
ในขณะเดียวกับที่การต่อสู้บนเวทียังคงดำเนินต่อไป
ส่วนในด้านของจ้าวเหมิงลู่ ตอนนี้นางใกล้จะถึงเมืองฟินิกซ์แล้ว
จ้าวเหมิงลู่ที่กำลังเร่งรีบเดินทาง ใบหน้าของนางนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น นางต้องการมอบจดหมายเชิญตัวของหลิงตู้ฉิงและหนังสือระเบียบการรับเข้าสถาบันของเด็ก ๆ ให้หลิงตู้ฉิงโดยเร็วที่สุด เมื่อนางนึกถึงหน้าของหลิงตู้ฉิงนางก็อดไม่ได้ที่จะเหม่อยิ้มออกมา
นอกเหนือจากจ้าวเหมิงลู่แล้วยังมีคนอีกผู้หนึ่งซึ่งกำลังเร่งรีบเดินทางมายังเมืองฟีนิกซ์ คนผู้นี้งคือหัวหน้ากลุ่มเสื้อคลุมโลหิต เสี่ยวเยว่เฟิง
ในเวลาเดียวกันพลังวิญญาณอันมหาศาลได้รวมตัวกันที่จุดตันเถียนของผู้อาวุโสหวู ซึ่งกำลังพยายามทะลวงขอบเขตอยู่อย่างสันโดษในเรือนของเขา
กลับมาที่ลานประลอง
ในท้ายที่สุดผลการประลองระหว่างคู่หลิงยู่ชานและเด็กผู้ท้าชิงก็ออกมา ผลปรากฎว่าหลิงยู่ชานได้รับชัยชนะไปอย่างไม่ยากเย็นอีกเช่นเคย
ตอนนี้เหลือผู้เข้าร่วมเพียง 9 คน ยืนอยู่บนลานประลอง
ตั้งแต่เริ่มการประลอง สามคนที่มาจากสถาบันฟินิกซ์ยังไม่ได้ประลองกับใครเลยสักครั้ง ส่วนอีก 6 คนที่เหลือรวมหลิงยู่ชานนั้นประลองไปแล้วคนละหลายรอบ และใน 6 คนนี้มีอยู่ 2 คนที่เป็นผู้เข้าร่วมที่อยู่ในระดับบ่มเพาะขอบเขตหลอมรวมลมปราณระดับ 3
ทั้งสองคนนี้รู้ดีว่า เส้นทางการประลองของพวกเขาทั้งคู่ในปีนี้ได้สิ้นสุดลงแค่ตรงนี้ รอบถัดไปต่อจากนี้คือรอบที่บรรดาอัจฉริยะที่แท้จริงจะต้องปะทะกัน ไม่มีโอกาสเลยที่จะใช้ดวงในการผ่านรอบนี้ไปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)