หลินหรูซวนสงสัยมาตลอดว่าหลิงตู้ฉิงเป็นใครกันแน่ แต่เมื่อนางได้ยินว่าเขาเป็นสหายของหลินฉีเฮงบรรพบุรุษของนาง นางจึงถามขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง “นี่เจ้าเป็นสหายของบรรพบุรุษข้าได้ยังไง? มันไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาดเพราะบรรพบุรุษข้าตายไปตั้งแต่เมื่อพันกว่าปีที่แล้ว และเจ้าเองก็เป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา เจ้าไม่มีทางมีอายุยืนได้มากขนาดนั้น!”
ในตอนแรกนางสงสัยอยู่แล้วว่าหลิงตู้ฉิงเป็นใคร ดังนั้นยิ่งหลิงตู้ฉิงพูดแบบนี้นางยิ่งสงสัยมากเข้าไปใหญ่
หลิงตู้ฉิงมองไปที่หลินหรูซวน และตอบว่า “สำหรับพวกเจ้าที่เป็นเผ่ามนุษย์อาจจะอยู่ไม่ถึงแต่ข้าคือเผ่ามังกร! ต่อให้ข้าจะไม่บ่มเพาะเลยข้าก็มีอายุขัยอยู่ได้อย่างต่ำก็ 6,000 ปี!”
หลิงตู้ฉิงคิดมาแล้วว่าเขาจะใช้ข้ออ้างที่เขาเป็นเผ่ามังกรมาอธิบายเรื่องนี้และเพื่อความสมจริงมากเข้าไปอีก เขาจึงเปลี่ยนมือของเขาให้เป็นอุ้งมือมังกรแสดงต่อหลินหรูซวน
ตัวตนนี้หลิงตู้ฉิงคิดมา 2 วันแล้วตั้งแต่มาอยู่ที่เกาะหนานชาน
หากเขาต้องการจะให้ตระกูลหลินอยู่กันได้อย่างสงบหลังจากที่เขาจากไป เขาจำเป็นต้องไม่เปิดเผยอดีตว่าเขาเกี่ยวข้องกับตระกูลหลินอย่างไร ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่แสร้งทำเป็นว่าเขาคือสหายของหนึ่งในบรรพบุรุษของตระกูลหลินแทน และด้วยสถานะนี้คนรุ่นปัจจุบันของตระกูลหลินตอนนี้จึงจำเป็นต้องเรียกเขาว่าบรรพบุรุษเช่นกันหากนับกันตามลำดับอาวุโส
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงสามารถเปลี่ยนมือของเขาให้เป็นกรงเล็บมังกรได้ หลินหรูซวนก็เริ่มเชื่อเขามากขึ้น จากนั้นนางจึงถามเขาต่อด้วยท่าทีที่สุภาพมากขึ้นว่า “ต่อให้ท่านจะเป็นสหายของบรรพบุรุษข้าและตระกูลของข้าจะมีปัญหาจริง ๆ แต่ปัญหาของเราที่ท่านพูดถึงมันก็คือเรื่องของพี่ชายข้าไม่ใช่รึไง ซึ่งข้าแน่ใจว่าพวกเราแก้ได้อยู่แล้ว ส่วนท่านเองก็เป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา ดังนั้นท่านจะช่วยอะไรตระกูลของข้าได้?”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ปัญหาของตระกูลเจ้าไม่ได้มีเพียงแค่นั้นหรอก ปัญหาของพวกเจ้าที่จะต้องเผชิญจริง ๆ มันใหญ่กว่านั้น เจ้าไม่รู้สึกเลยบ้างเหรอว่าไอ้เจ้าหนุ่มคนรักเจ้ามันแปลก ๆ?”
“หนุ่มคนรักอะไรกัน…” หลินหรูซวนพึมพำขึ้นด้วยสีหน้าอับอาย
“ก็ไอ้เจ้าหนุ่มนั่นที่เจ้าพามาหาให้ข้าเห็นไง!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นสวนโดยไม่ใส่ใจท่าทีของนาง “บนหอคอยเสียงสวรรค์ เจ้าไม่เห็นเหรอว่าเขาคิดอะไรอยู่? เจ้าคิดว่าความคิดเหล่านั้นของไอ้เจ้าหนุ่มนั่นที่เจ้าเห็นมันเป็นของปลอมงั้นเหรอ? นั่นมันคือภาพที่ฉายขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของเขาโดยอำนาจของหอคอยเสียงสวรรค์ และมันเป็นข้าเองที่ใช้ทักษะจิตรกรของข้าทำให้เจ้าเห็นความคิดทั้งหมดของเขาในเวลานั้น! ดังนั้นทุกอย่างมันคือเรื่องจริงและเจ้าควรหยุดสงสัยได้แล้ว!”
สีหน้าของหลินหรูซวนมืดหม่นลงทันทีเมื่อรู้ว่าทุกอย่างมันคือเรื่องจริง และนางก็รู้สึกกลัวหลิงตู้ฉิงอยู่หน่อย ๆ เพราะวิธีการของเขามันเหนือล้ำเกินไป
“ท่านทำได้ยังไง?” หลินหรูซวนถามกลับ
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบว่า “มันเป็นทักษะหนึ่งของจิตรกรอย่างข้า ซึ่งต่อให้ข้าอธิบายไปเจ้าก็ไม่มีวันเข้าใจ ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้และการที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่ก็เพราะข้าอยากจะล่อให้พวกตัวการต่าง ๆ มันออกมาจากที่ซ่อน ซึ่งข้าจะได้จัดการพวกมันได้ในอนาคต อันที่จริงหากว่ากันตามลำดับอาวุโส ตอนนี้เจ้าควรจะคำนับข้าและเรียกข้าว่าบรรพบุรุษได้แล้วจริงไหม?”
หลินหรูซวนขมวดคิ้ว “ถึงแม้ท่านจะเป็นสหายของบรรพบุรุษข้า แต่ท่านก็ไม่ใช่คนของตระกูลข้าอยู่ดี…”
“ข้าคือพี่น้องร่วมสาบานของบรรพบุรุษเจ้า!” หลิงตู้ฉิงตวาดกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “หากเจ้าไม่เชื่อข้า ข้ามีภาพวาดของบรรพบุรุษเจ้าอยู่กับข้าตรงนี้!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็หยิบภาพวาดของหลินฉีเฮงที่เขาเพิ่งวาดเมื่อคืนขึ้นมาแสดงให้หลินหรูซวนเห็น
หลินหรูซวนมองไปที่ภาพวาดบรรพบุรุษของนางด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน และหลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักนางก็ยอมคุกเข่าลงคำนับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าที่ยังคงแคลงใจและพูดว่า “หลินหรูซวนขอคารวะบรรพบุรุษ!”
หลังจากที่นางคิด ๆ ดูแล้ว ถึงแม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่มีสายเลือดเดียวกันกับนาง แต่เมื่อหลิงตู้ฉิงมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับบรรพบุรุษของนาง แถมเขายังอุตส่าห์ดั้นด้นมาที่นี่เพื่อมาดูว่าตระกูลของนางเรียบร้อยดีไหม ดังนั้นนางจึงตัดสินใจคุกเข่าคารวะเพราะอันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร
“ดีมาก!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะลั่นและพูดด้วยสีหน้าเบิกบาน “ลุกขึ้น ๆ ในเมื่อเจ้าเชื่อฟังข้าแบบนี้งั้นเดี๋ยวข้าจะให้รางวัลเจ้าสักหน่อย! มาเข้ามา ข้าจะถ่ายทอดวิธีการใช้งานหอคอยเสียงสวรรค์ให้กับเจ้าเดี๋ยวนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)