สมาชิกของตระกูลหลินทั้งหมดต่างเคยเห็นป้ายชื่ออันน่าแปลกประหลาดของบรรพบุรุษพวกเขาที่ไม่มีชื่อสลักมาแล้วกันทุกคน
ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าความลับของบรรพบุรุษผู้ไม่ถูกจารึกนามไว้จะเปิดเผยขึ้นก็ต่อมีคนในตระกูลที่สามารถทะลวงระดับไปถึงระดับนภาครามได้ ดังนั้นเมื่อตอนนี้หลิงตู้ฉิงหยิบเอาเรื่องนี้มาพูด มีหรือที่หลินจ้านเผิงจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร?
“นี่ท่านเป็นบรรพบุรุษผู้นั้นของข้างั้นเหรอ? ว่าแต่ท่านมีสิ่งใดมายืนยัน?” หลินจ้านเผิงพูดกับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าจับผิด
หลิงตู้ฉิงแสดงสีหน้าเหนื่อยใจและพูดว่า “หากเจ้าไม่ทะลวงระดับขึ้นมาถึงระดับนภาคราม ข้าก็ไม่มีวันจะบอกเจ้าแน่ว่าข้าเป็นใครเพราะอย่างน้อย ๆ ตอนนี้ถึงแม้ว่าเจ้าจะเผชิญกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชัน ถึงแม้ว่าเจ้าจะต้านทานผู้เชี่ยวชาญระดับนั้นที่สามารถค้นวิญญาณเจ้าไม่ได้ แต่อย่างน้อย ๆ เจ้าก็มีความสามารถที่จะฆ่าตัวตายได้ทัน! และอีกอย่างหากเจ้าไม่ใช่ทายาทของพี่ชายของข้า ข้าจะยอมเสียเวลาช่วยเหลือเจ้าแบบนี้ทำไม?”
หลินจ้านเผิงขมวดคิ้วไม่แน่ใจว่าเขาจะเชื่อคำพูดของหลิงตู้ฉิงดีหรือไม่ จากนั้นเมื่อเขาครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาจึงพูดว่า “ข้าจำเป็นต้องยืนยันสิ่งที่ท่านพูดโดยการไปเปิดความลับที่เหล่าบรรพบุรุษของข้าซ่อนเอาไว้ที่คฤหาสน์ก่อน ซึ่งถ้าหากท่านเป็นบรรพบุรุษของข้าจริง ๆ ข้าจะรีบกลับมาคุกเข่าคารวะท่านทันที!”
หลังจากพูดจบ หลินจ้านเผิงก็รอให้หลิงตู้ฉิงคลายม่านพลังที่ล้อมรอบหอคอยเสียงสวรรค์ออกก่อน จากนั้นเขาจึงค่อย ๆ เดินลงไปจากหอคอยเสียงสวรรค์
เมื่อเห็นว่าร่างกายของหลินจ้านเผิงนั้นเต็มไปด้วยพลังชีวิต หลินหงเหวินก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่ทะลวงระดับนั้นคือพ่อของเขาแน่นอน เขารีบพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านพ่อนี่ท่านกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนภาครามแล้วงั้นเหรอ? ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นข้างในนั้นเหรอท่านพ่อ?”
หลินจ้านเผิงตอบกลับด้วยสีหน้าเบิกบาน “ตอนนี้พ่อทะลวงระดับได้แล้วจริง ๆ แต่ตอนนี้พ่อมีเรื่องบางอย่างต้องไปทำก่อน ดังนั้นพ่อจึงยังคุยกับเจ้าไม่ได้หงเหวิน เจ้าจงเอาตราผู้นำตระกูลมาให้พ่อ พ่อจำเป็นต้องใช้มันเพื่อดูข้อมูลบางอย่าง”
หลินหงเหวินรีบส่งเหรียญตราผู้นำตระกูลให้กับพ่อของเขาทันที จากนั้นเขาเตรียมที่จะตามพ่อของเขาไปดูว่าพ่อของเขาอยากจะดูข้อมูลอะไรของตระกูล แต่เขากลับถูกหยุดไว้โดยหลินจ้านเผิง
“เจ้าไม่ต้องตามไป รอข้าตรงนี้ ข้าใช้เวลาไม่นานเดี๋ยวจะกลับมาที่นี่ใหม่!”
ในเมื่อเขากำลังจะเข้าไปดูความลับของตระกูลที่ถูกอนุญาตให้ผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะนภาครามขึ้นไปเท่านั้นที่ดูได้ ดังนั้นเขาจึงยังไม่อนุญาตให้ลูกชายของเขาตามไป
หลินจ้านเผิงรีบตรงดิ่งไปที่ห้องเก็บป้ายชื่อบรรพบุรุษ และจากนั้นเขาโคจรพลังวิญญาณของตนเองลงในเหรียญตราผู้นำตระกูลเพื่อเชื่อมมันกับป้ายชื่อที่ไม่มีชื่อสลักไว้
ตัดกลับมาที่ทางด้านกลุ่มคนของตระกูลหลินที่ยืนรายล้อมหอคอยเสียงสวรรค์อยู่
พวกพวกเขาทุกคนต่างแสดงสีหน้าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่บรรพบุรุษของพวกเขาไม่ตาย แต่ตอนนี้บรรพบุรุษของพวกเขากลับทะลวงระดับขึ้นไปถึงระดับนภาครามได้แล้ว ซึ่งมันสรุปได้ว่าตอนนี้บรรพบุรุษของพวกเขาคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาเขตหนานหัว และยิ่งไปกว่านั้นความลับของตระกูลกำลังจะเปิดเผย ซึ่งพวกเขาแน่ใจว่านับจากนี้ตระกูลของพวกเขาจะรุ่งโรจน์เหนือกว่าที่เคยเป็นมา!
จากนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าม่านพลังที่ปกคลุมหอคอยอยู่มันได้หายไปสักพักแล้ว พวกเขาจึงค่อย ๆ เดินกันขึ้นไปชั้นบนสุดของหอคอยเสียงสวรรค์ และจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาซับซ้อน
“เจ้าเป็นใครกันแน่?” หลินหงเหวินถามขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)