หลังจากแนะนำทุกอย่างให้กับหลิงยี่เทียนเรียบร้อยแล้ว เฉินสั่วหนานและหยิงเซียน หมิงจึงเดินออกจากท้องพระโรงทันที
หยิงเซียนหมิงมองไปที่เฉินสั่วหนานแล้วพูดว่า “นี่เจ้าคิดจะตามบรรพบุรุษเฉินหยูทงของเจ้าไปด้วยจริง ๆ งั้นเหรอ?”
เฉินสั่วหนานยิ้มอย่างขมขื่นและตอบกลับว่า “มันคงถึงเวลาแล้วที่บรรพบุรุษของข้าจะต้องออกมา ถึงแม้ว่าเขาจะแก่มากแล้วแต่พลังชีวิตของเขาก็ยังเหลืออยู่เยอะพอสมควร ดังนั้นการเดินทางไปทำเนียบราชันมนุษย์รอบนี้คงไม่มีปัญหาอะไรกับบรรพบุรุษของข้ามากนัก และด้วยการสนับสนุนของเขา มันน่าจะทำให้หลิงยี่เทียนมีโอกาสมากขึ้น!”
หยิงเซียนหมิงถอนหายใจ “ข้าหวังให้เป็นแบบนั้นก็แล้วกัน”
หลังจากนั้นเฉินสั่วหนานก็กลับไปปลุกบรรพบุรุษของเขาทันที และติดต่อไปหาสำนักต่าง ๆ ที่เขามีสัมพันธ์ด้วยเพื่อให้มาช่วยสนับสนุนหลิงยี่เทียน
ส่วนทางด้านหลิงยี่เทียนก็เตรียมตัวอยู่เช่นกัน
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าพ่อของเขาได้ไปถึงทำเนียบราชันมนุษย์แล้ว และคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับการคัดเลือกนี้ แต่เขาก็ยังจำเป็นต้องเตรียมพร้อมเพื่อแสดงคุณสมบัติของตัวเองให้กับคนอื่น ๆ ยอมรับเพื่อความภาคภูมิใจของตัวเขาเองและครอบครัว
คนแรกที่เขาไปหาคือหลิงว่านจุน “พี่สี่ ข้าคงต้องขอให้ท่านพากองทัพมังกรของท่านไปที่ทำเนียบราชันมนุษย์กับข้าด้วย และจากนั้นเมื่อเสร็จเรื่องที่ทำเนียบราชันมนุษย์แล้วพวกเราจะเดินทางไปที่สำนักเที่ยงธรรมด้วยกันทันที!”
หลิงว่านจุนพยักหน้า “ไม่มีปัญหา ข้าจะนำสมาชิกกองทัพมังกรที่แข็งแกร่งที่สุด 20,000 คนแรกไปช่วยเจ้าเอง!”
“ขอบคุณพี่สี่!” หลิงยี่เทียนหัวเราะ
จากนั้นหลิงยี่เทียนจึงส่งคนให้ไปตามเหลียนปู้ชิง ผู้ซึ่งได้รับการถ่ายทอดทักษะการสร้างสมบัติของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์ และหวงอี้เฟย ผู้ซึ่งได้รับการถ่ายทอดทักษะเกี่ยวกับโอสถของสำนักโอสถนิรันดร์ให้เข้ามาหา
“ฝ่าบาท ท่านประสงค์สิ่งใดให้พวกเรารับใช้งั้นหรือ?” เหลียนปู้ชิงและหวงอี้เฟยถามขึ้น
หลิงยี่เทียนหัวเราะ “ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่อาณาจักรจันทราจะได้ประกาศศักดาให้คนทั้งโลกเห็นว่าพวกเรามีดียังไง! ซึ่งในฐานะที่พวกท่านเป็นผู้สืบทอดมรดกตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์และสำนักโอสถนิรันดร์ ดังนั้นข้าจะพาพวกท่านไปที่ทำเนียบราชันมนุษย์กับข้าด้วย แน่นอนว่าการไปครั้งนี้ข้าแนะนำให้พวกท่านนำเหล่าโอสถและสมบัติวิเศษต่าง ๆ ที่พวกท่านสร้างขึ้นติดตัวไปด้วยให้มากที่สุด เพราะข้าคิดว่าคงมีหลายสำนักที่ต้องการจะแลกเปลี่ยนกับพวกท่านแน่!”
“พวกเรายินดีทำตามพระประสงค์ของฝ่าบาท!” เหลียนปู้ชิงและหวงอี้เฟยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “อันที่จริงหลายปีที่ผ่านมานี้พวกเรายังไม่ได้ขอบคุณในความเมตตาของฝ่าบาทเลยที่สนับสนุนพวกเราเรื่อยมาจนทำให้พวกเรามีทุกวันนี้ได้”
“ไม่ต้องคิดมาก ๆ ไม่ว่ายังไงพวกเราต่างก็ต้องพึ่งพากันและกัน!” หลิงยี่เทียนหัวเราะ
หลังจากเสร็จเรื่องกับเหลียนปู้ชิงและหวงอี้เฟย คนต่อไปที่หลิงยี่เทียนเรียกเข้าพบก็คือมี่ตั้วตั้ว “ท่านตามี่ ข้าต้องการให้ท่านช่วยข้าสักหน่อย!”
หลังจากแจ้งข่าวให้กับคนใกล้ชิดทั้งหมดแล้ว หลิงยี่เทียนจึงไล่ส่งคนไปที่ภูเขาฟีนิกซ์ สันเขาทรราช สำนักเต๋าสวรรค์ สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ เผ่าภูตนางฟ้า เผ่าภูตดิน แถมยังรวมไปถึงเผ่าปีศาจสมุทร
ปัจจุบันเผ่าปีศาจสมุทรได้กลายเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรจันทราเรียบร้อย เพราะเหตุผลที่ว่าหลิงตู้ฉิงนั้นได้มอบวิญญาณก้องกังวานและท่วงทำนองทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ ให้กับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นว่าหลิงตู้ฉิงเป็นเหมือนดั่งผู้มีพระคุณของพวกเขา จนพวกเขาส่งองค์หญิงของตนมาเป็นนางสนมของหลิงยี่เทียน
แน่นอนว่าเมื่อได้รับการแจ้งจากหลิงยี่เทียน ทุกกองกำลังต่างก็ตอบรับและรับมุ่งหน้ามาที่อาณาจักรจันทราในทันที
หวงซีเป็นผู้นำคณะของภูเขาฟีนิกซ์ด้วยตนเอง ซึ่งนางได้พาผู้อาวุโสขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดของเผ่าตามมาด้วย 2 คนเพื่อแสดงเจตจำนงที่หนักแน่นของภูเขาฟีนิกซ์
ทางด้านของสำนักอัขระศักดิ์สิทธิ์ เย่ชางคง ซึ่งเป็นเจ้าสำนักก็เดินทางมาด้วยตนเองเพื่อแสดงว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้แค่ไหน
แต่ทางฝั่งของสำนักเต๋าสวรรค์นั้น หลิงว่านถิงไม่ได้เดินทางมาด้วยเพราะสำนักเต๋าสวรรค์เป็นกังวลในเรื่องความปลอดภัยของนาง พวกเขาจึงให้โม่หลิงซี ซึ่งเป็นเจ้าสำนักมาเป็นตัวแทนพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิอีก 2 คน
ส่วนสันเขาทรราชนั้น เทียนซ่งเป็นคนมาปรากฏกายด้วยตัวเองเลย เพราะเขาตกลงปลงใจแล้วว่าเขาจะร่วมหัวจมท้ายไปกับหลิงตู้ฉิงจนถึงที่สุด
สำหรับฝั่งของอมนุษย์นั้น แน่นอนว่าซวนหยวนตู่เป็นผู้นำคณะเหล่าภูตดินด้วยตัวเอง แต่ในทางกลับกันจักรพรรดินีเผ่าภูตนางฟ้านางติดภารกิจ ดังนั้นจึงมาไม่ได้ด้วยตัวเอง อี้ลั่วเอ๋อจึงกลายเป็นตัวแทนไปโดยปริยาย และสุดท้ายเผ่าปีศาจสมุทรได้ส่งบรรพบุรุษชิวหมิงตงของพวกเขามาช่วยสนับสนุนหลิงยี่เทียน พร้อมกับปีศาจสมุทรขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดอีก 2 ตน
รวม ๆ แล้วจำนวนผู้สนับสนุนที่หลิงยี่เทียนมีในขณะนี้มันนับได้ว่ามากมายมหาศาล
เมื่อเฉินสั่วหนานและหยิงเซียนหมิงกลับมาที่อาณาจักรจันทราอีกรอบ พวกเขาก็ได้แต่ตกตะลึงกับภาพที่เห็น ซึ่งมันทำให้พวกเขามีความหวังมากขึ้น
แต่แล้วเมื่อพวกเขาได้ยินว่าหลิงยี่เทียนจะพากองทัพมังกรไปด้วยถึง 20,000 นาย พวกเขาก็ยิ้มอย่างขมขื่นและคิดในใจว่า ‘นี่เจ้าคิดว่าการเคลื่อนย้ายคนจำนวนมากขนาดนี้มันไม่มีค่าใช้จ่ายรึไงกัน?’
เมื่อเห็นสีหน้าของคนทั้งสอง หลิงยี่เทียนจึงพูดขึ้นว่า “หากผู้อาวุโสทั้งสองไม่สะดวกใจ ถ้างั้นเดี๋ยวข้าจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการใช้ประตูเคลื่อนย้ายเอง!”
เฉินสั่วหนานเลิกคิ้วขึ้นทันทีเมื่อเขาเห็นหลิงยี่เทียนแสดงท่าทีมั่งคั่งต่อหน้าเขาจนเกิดคำถามขึ้นในใจของเขาว่า
อาณาจักรจันทราตอนนี้ร่ำรวยแค่ไหนกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)