หลิงยี่เทียนไม่ได้สนใจกับสายตาเย้ยหยันของคนอื่น ๆ เลย
เพราะมันไม่ใช่ว่าเขาไม่มีปัญญาจะยึดอาณาเขตอื่น ๆ แต่เป็นเพราะหลิงตู้ฉิงนั้นห้ามเขาเอาไว้ไม่ให้ทำแบบนั้นต่างหาก ดังนั้นเขาจึงทนเก็บตัวอยู่แต่ในอาณาเขตนภามาเป็นเวลาหลายร้อยปี
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ไปบุกอาณาเขตอื่นเลย ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามสั่งสมกำลังเพิ่มอยู่ตลอดเวลาเพื่อรอวันที่หลิงตู้ฉิงอนุญาตให้เขาลงมือได้
เมื่อคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดของหลิงยี่เทียน พวกเขาต่างก็พยักหน้าทันทีโดยเฉพาะเจียงหวงที่พูดขึ้นว่า “ข้าได้ยินข่าวที่เจ้าส่งคนของเจ้ามาที่ตงซวนแล้วเช่นกัน”
ในระหว่างที่ผู้ที่มีสายเลือดราชันแห่งมวลมนุษย์ทั้งสี่กำลังประกาศจำนวนอาณาเขตกันอยู่นั้น หลิงตู้ฉิงเองก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ
“ไอ้หนู เจ้ามาที่นี่ทำไม?” หลิงตู้ฉิงส่งเสียงของเขาไปก้องอยู่ในดวงวิญญาณของเสี่ยหนานเทียน
ทางด้านของเสี่ยหนานเทียน เมื่อได้ยินเช่นนี้เขาเผยรอยยิ้มขมขื่นทันทีเพราะเขารู้ตัวว่าตอนนี้ปัญหาได้มาเยือนเขาแล้ว
ในเมื่อเขามากับฉินหวง ดังนั้นมันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าสำนักเบญจธาตุคือผู้สนับสนุนฉินหวงจริงไหม?
แต่สิ่งที่เขานึกไม่ถึงมาก่อนก็คือหนึ่งในผู้ที่มีสายเลือดราชันแห่งมวลมนุษย์กลับเป็นลูกชายของหลิงตู้ฉิง…
เมื่อคิดถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน เสี่ยหนานเทียนยิ้มอย่างขมขื่น และส่งสายตาไปหาหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าจนใจ เขาไม่มีความสามารถที่มหัศจรรย์เหมือนหลิงตู้ฉิง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถสื่อสารทางวิญญาณได้ ส่วนเรื่องการสื่อสารด้วยโทรจิตนั้นลืมไปได้เลยเพราะมันคงจะถูกตรวจจับได้แน่นอนโดยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิขึ้นไป ฉะนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกและได้แต่สื่อสารกับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเช่นนี้
หลิงตู้ฉิงรู้เช่นกันว่าเสี่ยหนานเทียนนั้นไม่สามารถสื่อสารกับเขาผ่านทางดวงวิญญาณได้ ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าตอบกลับไม่ได้ ดังนั้นเจ้าแค่พยักหน้าหรือส่ายหัวในการตอบคำถามของข้าก็พอ เอาล่ะคำถามแรกสำนักเบญจธาตุของเจ้าตั้งใจว่าจะสนับสนุนฉินหวงใช่ไหม?”
เสี่ยหนานเทียนพยักหน้า
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สำนักเบญจธาตุของเจ้าอยากอยู่ฝั่งตรงข้ามกับข้างั้นเหรอ?” หลิงตู้ฉิงถามต่อ
สีหน้าของเสี่ยหนานเทียนเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกทันที จากนั้นเขารีบส่ายหัว
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนยังอยู่ในความทรงจำของเขาเป็นอย่างดี ดังนั้นแน่นอนว่าเขาไม่ต้องการที่จะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของหลิงตู้ฉิงแน่นอน!
“อืม ถ้างั้นเจ้าจงเปลี่ยนฝั่งมาสนับสนุนลูกของข้าแทน” หลิงตู้ฉิงออกคำสั่งตรง ๆ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสี่ยหนานเทียนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าจนใจ จากนั้นเขาจึงค่อย ๆ พยักหน้า
เขาจะพูดอะไรมากได้ยังไง? ในตอนนี้เขาอยากจะหาเหตุผลดี ๆ สักเหตุผลเป็นอย่างมากเพื่อขอตัวกลับไปที่สำนักของเขา ไม่เช่นนั้นเขารู้ได้เลยว่าหลังจากนี้เขาจะต้องถูกบรรพบุรุษของเขาตำหนิแน่นอนที่จู่ ๆ ก็ย้ายฝั่ง!
เมื่อทำความเข้าใจกับเสี่ยหนานเทียนเสร็จเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงก็เปลี่ยนเป้าทันทีไปคุยกับชายชราผู้หนึ่ง “เจ้าคือคนของตำหนักเทพยุทธใช่ไหม? ไม่ต้องมองไปทางอื่น ข้านั่งอยู่บนบัลลังก์! แค่เจ้าพยักหน้าหรือไม่ก็ส่ายหัวก็พอในการตอบคำถามของข้า ข้าเข้าใจดีว่าเจ้าไม่มีความสามารถแบบข้า!”
ชายชราจ้องหลิงตู้ฉิงอยู่สักพัก จากนั้นเขาค่อย ๆ พยักหน้า
“เจ้ามาที่นี่เพราะมาสนับสนุนเจียงหวงรึเปล่า?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น “ว่าแต่กวนหลิงอู่ตายแล้วรึยัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)