เหลียนปู้ชิงเดินออกไปหาจี้กงซวน และพูดว่า “ในเมื่อผู้อาวุโสข้องใจในความสามารถของข้า ถ้างั้นท่านมามีส่วนร่วมในพิสูจน์ความจริงสักหน่อยเป็นไง?”
จี้กงซวนขมวดคิ้ว “ข้าต้องทำอะไรบ้าง?”
เหลียนปู้ชิงหัวเราะ “ผู้อาวุโสท่านมีสมบัติระดับสวรรค์ติดตัวบ้างไหม เอาแบบที่ท่านเชื่อมความเป็นนายกับมันแล้วยิ่งดี”
จี้กงซวนครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วพูดว่า “สมบัติชิ้นนี้คือสมบัติระดับนภาคราม ซึ่งข้าไม่ได้ใช้มันมานานมากแล้ว แต่ข้าได้เชื่อมความเป็นนายกับมันมาหลายพันปี เจ้าจะเอามันไปลองก็ได้”
เหลียนปู้ชิงมองไปที่ขลุ่ยที่อยู่ในมือของจี้กงซวน จากนั้นเขาหัวเราะ “ผู้อาวุโส ท่านไม่จำเป็นต้องยื่นมันให้ข้า แค่ท่านเปิดใช้งานมันก็พอ!”
จี้กงซวนขมวดคิ้ว จากนั้นเขาโคจรพลังวิญญาณของตนเองเข้าไปในขลุ่นจนมันลอยขึ้นไปบนอากาศ
แต่แล้วจู่ ๆ ในขณะที่ขลุ่ยกำลังลอยอยู่ แค่เพียงเหลียนปู้ชิงกวักมือเท่านั้น ขลุ่ยวิเศษกลับหลุดจากการควบคุมของจี้กงซวน และบินมาหาเหลียนปู้ชิงในทันที
หรือถ้าให้พูดสั้น ๆ ก็คือ เหลียนปู้ชิงขโมยขลุ่ยวิเศษไปจากจี้กงซวนได้อย่างง่ายดาย
บรรดาผู้คนที่เห็นเช่นนี้ต่างอุทานขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน “ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!”
เหล่าผู้คนต่างฮือฮากันใหญ่ เนื่องจากแค่เพียงการสาธิตนี้แค่อย่างเดียวก็ยืนยันได้แล้วว่า เหลียนปู้ชิงย่อมเป็นผู้สืบทอดมรดกของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์แน่นอน!
เหลียนปู้ชิงยิ้มและพูดว่า “นี่คือทักษะสูงสุดของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์ ทักษะสวรรค์มหาบงการ ซึ่งตอนนี้ข้าเพิ่งฝึกฝนไปได้แค่ระดับควบคุมสมบัติระดับสวรรค์เท่านั้น หากเป็นสมบัติระดับราชันขึ้นไปข้ายังคงไม่สามารถควบคุมได้ ผู้อาวุโส นี่ขลุ่ยของท่าน ข้าขอมอบคืนให้!”
จี้กงซวนโบกมือและพูดว่า “มันก็แค่สมบัติระดับนภาครามที่ข้าไม่ได้ใช้แล้ว เจ้าจงเก็บเอาไว้เถอะ คิดซะว่ามันเป็นของขวัญจากข้าเนื่องในโอกาสที่พวกเราได้มาเจอกัน”
เหลียนปู้ชิงส่ายหัว “ผู้อาวุโสท่านรับมันคืนไปเถอะ สำหรับข้าแล้วสมบัติระดับนี้มันไม่ได้มีค่าอะไรเลย”
ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะยังไม่สามารถสร้างสมบัติระดับนภาครามได้ แต่เหลียนปู้ชิงรู้ดีว่าเขาไม่ควรติดค้างจี้กงซวน ดังนั้นเขาจึงคืนมันไปและด้วยความสามารถของเขา เขาแน่ใจว่าในอนาคตอีกไม่นานเขาจะสามารถสร้างสมบัติระดับนี้ได้อยู่แล้ว
จี้กงซวนจ้องเขม็งไปที่เหลียนปู้ชิง จากนั้นเขาจึงรับขลุ่ยวิเศษคืนมา
ฉินหวงหัวเราะ และจากนั้นเขาพูดกับเหลียนปู้ชิงว่า “ในเมื่อปรมาจารย์เหลียนเป็นผู้สืบทอดมรดกของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นในอนาคตโลกของเราจะต้องพึ่งพาท่านเป็นอย่างมาก ดังนั้นข้าคิดว่าเพื่อให้ท่านยิ่งพัฒนาความสามารถได้เร็วยิ่งขึ้น ท่านควรจะมาอยู่กับอาณาจักรฉินของข้าจะดีกว่า ที่อาณาจักรของข้านั้นมีทรัพยากรมากมาย ซึ่งข้าให้สัญญากับท่านได้เลยว่าหากท่านต้องการสิ่งใดข้าจะจัดการให้ในทันที!”
เฉินสั่วหนาน เมื่อได้ยินเช่นนี้เขาตะโกนขึ้นแทรกด้วยสีหน้าไม่พอใจทันที “ฉินหวง ปรมาจารย์เหลียนเป็นคนของอาณาจักรจันทรา! ท่านโน้มน้าวคนต่อหน้าเราแบบนี้มันจะเสียมารยาทไปหน่อยไหม!”
หลิงยี่เทียนโบกมือปรามเฉินสั่วหนาน จากนั้นเขาพูดกับฉินหวงว่า “พี่ฉิน ตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์จะสามารถทำประโยชน์ต่อโลกได้มากที่สุดก็ต่อเมื่ออยู่ในอาณาจักรจันทราของข้าเท่านั้น”
เจียงหวงส่ายหัว แล้วพูดกับเหลียนปู้ชิงว่า “ปรมาจารย์เหลียน ท่านคิดว่าอาณาจักรจันทราจะสามารถตอบสนองความต้องการของท่านได้ทั้งหมดงั้นเหรอ? ให้ข้าพูดตามตรง หากเทียบกับอาณาจักรจันทราแล้วอาณาจักรของข้านั้นดีกว่าเป็นไหน ๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)