พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 863

สรุปบท บทที่ 863 หลอมรวมกระดานหมากชดใช้: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

ตอน บทที่ 863 หลอมรวมกระดานหมากชดใช้ จาก พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 863 หลอมรวมกระดานหมากชดใช้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ผลลัพธ์ที่ได้จากการตกลงกันในตอนท้ายคือ ฉินหวง และ เจียงหวง ยังคงจะดำเนินแผนการขยายอาณาเขตของพวกเขาเองต่อไปโดยทำในนามของหลิงยี่เทียน

ในทางกลับกัน ซ่งว่านหลุน ซึ่งไม่ได้บ่มเพาะเต๋าดวงใจจักรพรรดิ เขายอมที่จะสละอาณาเขตที่เขายึดได้ทั้งหมด แต่มีข้อแม้ว่าหลิงยี่เทียนจะต้องคอยส่งทรัพยากรต่าง ๆ ที่ได้จากอาณาเขตที่เขาสละให้มามอบให้กับเขา เพื่อที่เขาจะได้นำพวกมันมาบ่มเพาะตัวเขาเอง

ฟู่เซียน เมื่อเห็นว่าผู้ที่มีสายเลือดราชันแห่งมวลมนุษย์ทั้งสี่ตกลงกันได้ด้วยดีแบบนี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในตอนแรกเขากังวลเป็นอย่างมากว่า ฉินหวงและคนอื่น ๆ จะไม่ยอมถอยให้กับหลิงยี่เทียน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นแบบนั้นหลิงตู้ฉิงจะต้องลงมือทำอะไรบางอย่างที่มันรุนแรงแน่นอน แถมเขายังไม่สามารถขัดขวางได้อีกต่างหาก

แต่ถึงแม้ว่าผู้ที่มีสายเลือดราชันแห่งมวลมนุษย์ทั้งสี่จะตกลงกันได้ด้วยดีแล้ว ปัญหาอีกรูปแบบหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวของเขา เพราะพิธีการถัดมาคือพิธีการส่งตัวหลิงยี่เทียนขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์

แต่ว่าในตอนนี้บัลลังก์ดันมีใครบางคนนั่งอยู่เรียบร้อยแล้ว!

ฟู่เซียนเหล่มองไปที่หลิงตู้ฉิง พลางคิดในใจว่า ‘ในเมื่อเจ้าทำลายเจตจำนงราชันแห่งมวลมนุษย์รุ่นก่อน เมื่อถึงเวลาข้าอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าเจ้าจะแก้ปัญหายังไง เมื่อถึงตอนที่ลูกชายของเจ้าขึ้นไปนั่งบัลลังก์ แต่กลับไม่มีเจตจำนงราชันแห่งมวลมนุษย์รุ่นก่อนมาอวยพรให้เขา!’

จากนั้นฟู่เซียนขมวดคิ้วด้วยความลังเลว่าเขาควรจะประกาศให้หลิงยี่เทียนขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์เลยดีไหมหรือว่าจะทำยังไงต่อดี?

ทางด้านหลิงยี่เทียนก็มองไปที่พ่อของเขาเช่นกัน เพื่อพยายามส่งสายตาว่าเขาควรจะทำยังไงต่อ?

หลิงตู้ฉิง ซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์เขายิ้มให้กับทุกคนและพูดว่า “กระดานหมากล้อมนี้นับได้ว่าเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของเหล่ามวลมนุษย์เป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อให้คนรุ่นต่อ ๆ ไปสามารถเข้ามาศึกษามันได้ ข้าจะใช้อำนาจของข้าผนึกมันไว้ที่นี่ตลอดกาลและมันจะไม่มีวันถูกลบเลือนได้โดยใครทั้งนั้น!”

ฟู่เซียนแสดงสีหน้าตื่นตระหนกทันที และรีบพูดแทรกขึ้นว่า “ท่านผู้แทนโปรดระวังอย่าให้ที่นี่พังทลาย!”

ฟู่เซียนรู้ดีว่าหลิงตู้ฉิงมีวิธีการที่ทรงพลังมากมาย ซึ่งเขาแน่ใจว่าถ้าหลิงตู้ฉิงไม่ระวังในการใช้วิธีการเหล่านั้นให้ดีที่นี่จะถูกทำลายได้ง่าย ๆ

หลิงตู้ฉิงหัวเราะและตอบกลับ “มรดกของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์ที่เหลียนปู้ชิงมีอยู่ในตอนนี้มันก็เป็นข้าที่มอบให้กับเขา ดังนั้นเจ้าคิดว่าข้าจะไม่มีความสามารถพอถึงขนาดทำให้ที่นี่ระเบิกเป็นเสี่ยง ๆ งั้นเหรอ? แต่เนื่องจากระดับการบ่มเพาะของข้ายังคงต่ำอยู่ ดังนั้นข้าจึงจำเป็นต้องยืมพลังของพระราชวังนี้สักหน่อย อ๋อ เจ้าอย่าได้มีความคิดที่จะช่วงชิงการควบคุมพลังของที่นี่ไปจากข้าเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้โทษข้าหากที่นี่ทลายลงจนเหลือแต่ซาก”

เมื่อเตือนเสร็จ หลิงตู้ฉิงก็ดึงพลังของพระราชวังมาเกื้อหนุนระดับการบ่มเพาะของเขาจนพุ่งไปเหนือกว่าขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดภายในพริบตา

แน่นอนว่าถ้าเป็นคนอื่นร่างคงจะระเบิดไปแล้วหากมีพลังวิญญาณจำนวนมหาศาลเติมเข้ามาในร่างกายอย่างฉับพลันแบบนี้ แต่สำหรับหลิงตู้ฉิง ซึ่งมีพื้นฐานการบ่มเพาะระดับ 15 นั้นเขาไม่มีปัญหาเลยเพราะในร่างกายของเขาตอนนี้มันเป็นเหมือนหลุมดำที่สามารถรอบรับพลังวิญญาณได้อย่างไม่อั้น

ผู้คนที่อยู่ในท้องพระโรงต่างมองหลิงตู้ฉิงด้วยสายตาตกตะลึง เพราะพวกเขาสัมผัสได้ว่าพลังของหลิงตู้ฉิงในตอนนี้มันเหนือกว่าทุกขอบเขตพลังที่ควรมีอยู่บนโลกนี้

ในเวลาเดียวกับที่พวกเขาตกตะลึง พวกเขาก็บังเกิดความรู้สึกดีใจไปด้วยพร้อม ๆ กันเพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขาโชคดีเป็นอย่างมากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้ลงมือทำอะไรกับหลิงตู้ฉิง ไม่เช่นนั้นจุดจบของพวกเขาคงไม่สวยอย่างแน่นอน

ในเวลาต่อมา ทุกคนก็ได้เป็นประจักษ์พยานของการหลอมรวมกันระหว่างกระดานหมากล้อมและพระราชวังของทำเนียบราชันมนุษย์

ต้องรู้ว่าผลึกดวงใจสวรรค์นั้นมีอำนาจที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นเมื่อเจตจำนงปลอมถูกฉายภาพออกมามันจึงมีอำนาจพอที่จะทำให้ทุกคนที่อยู่ในท้องพระโรงรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน และนี่ยังไม่รวมไปถึงหลิงตู้ฉิงเองก็ใช้พลังของพระราชวังในการเกื้อหนุนหลิงยี่เทียนอยู่เช่นกัน ดังนั้นกลิ่นอายของเจตจำนงปลอมจึงยิ่งสมจริงไปกันใหญ่

หลังจากการร่วมมือกันของสองพ่อลูก ร่างสีทองร่างหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นเหนือบัลลังก์ ส่งผลให้ฟู่เซียนแสดงสีหน้าโง่งมออกมาในทันที

ไม่ใช่ว่าเจตจำนงของราชันแห่งมวลมนุษย์รุ่นก่อนถูกทำลายไปแล้วไม่ใช่รึไง?

ฟู่เซียนจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงไม่วางตา อยากจะถามว่าเจตจำนงของราชันแห่งมวลมนุษย์รุ่นก่อนปรากฏกายขึ้นอีกได้ยังไง? เพราะเขาไม่อาจเปล่งเสียงถามขึ้นมาตรง ๆ ได้ในขณะนี้

ในเวลาเดียวกัน หลิงตู้ฉิงยิ้มและลุกขึ้นจากบัลลังก์ จากนั้นเขาเดินไปยืนเคียงข้างหลิงยี่เทียน และพูดว่า “ไปสิ ไปเป็นสิ่งที่เจ้าเกิดมาเพื่อที่จะเป็น!”

“ขอบคุณท่านพ่อ!” หลิงยี่เทียนหัวเราะ

จากนั้นหลิงยี่เทียนเดินตรงไปที่บัลลังก์ และนั่งลงได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร

เหตุผลที่หลิงยี่เทียนสามารถนั่งลงบนบัลลังก์ได้ในทันทีก็เพราะเจตจำนงที่ถูกสร้างขึ้นนั้นมันเป็นเจตจำนงที่เขาสร้างขึ้นมาเอง ดังนั้นการทดสอบต่าง ๆ ที่เขาจำเป็นต้องเผชิญมันจึงไม่เกิดขึ้นและส่งผลให้ในขณะนี้เขาได้กลายเป็นราชันแห่งมวลมนุษย์แห่งยุคนี้เรียบร้อยแล้ว!

บรรดาผู้คนที่เห็นว่าหลิงยี่เทียนสามารถนั่งลงบนบัลลังก์ได้อย่างไม่มีปัญหา พวกเขาต่างก็รีบก้าวออกมาข้างเพื่อถวายพระพรในทันทีอย่างพร้อมเพรียงกัน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)