การที่บัลลังก์ของราชันแห่งมวลมนุษย์กลับมามีผู้นั่งมันอีกครั้งนับได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่น่ายินดี แม้แต่เหล่ากลุ่มคนที่ให้การสนับสนุนฉินหวงและเจียงหวง เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ก็ยังมีสีหน้าที่เบิกบาน
เมื่อเสร็จพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงจึงค่อย ๆ เดินลงไปหากลุ่มของอี้ลั่วเอ๋อ เย่ชางคง และคนอื่น ๆ
“พวกเจ้าทุกคนมากันด้วยตัวเองเลยงั้นเหรอ?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น
เย่ชางคงยิ้ม และตอบกลับว่า “แน่นอนเรื่องสำคัญเช่นนี้ข้าจำเป็นต้องมาด้วยตัวเองอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของอาณาเขตที่อยู่รอบ ๆ สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ ข้ามั่นใจว่าอีกไม่นานคนของข้าจะยึดพวกมันได้หมด แต่ว่าด้วยปัญหาในเรื่องกำลังคน สำนักของข้าคงจะสามารถยึดอาณาเขตได้แค่ละแวกรอบ ๆ เท่านั้น หากจะให้ยึดไปมากกว่านี้ข้าเกรงว่ายี่เทียนจำเป็นต้องส่งคนของเขามาช่วยสำนักของข้าด้วย”
“เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเขาโดยตรง เขาจะไม่ส่งคนไปช่วยได้ยังไง?” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ
ในเวลาเดียวกัน หลายคนก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาหลิงตู้ฉิงพร้อมกับสีหน้าที่ซับซ้อน
ชายผู้นี้คือคนผู้นั้นจริง ๆ งั้นเหรอ?
ในด้านความแข็งแกร่ง ชายผู้นี้มีวิธีการที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก ซึ่งมันทำให้เขาน่าจะเป็นคนผู้นั้น แต่ว่าทำลักษณะนิสัยถึงได้ต่างกันสุดขั้วแบบนี้?
เมื่อเห็นว่ามีหลายกำลังมองมาที่ตนด้วยสีหน้าลังเล หลิงตู้ฉิงจึงมองกลับไปที่คนเหล่านั้นและพูดว่า “ไม่ต้องสงสัยอะไรให้มันมากมาย ข้าคือคนเดียวกับคนที่พวกเจ้ากำลังนึกถึง! แต่ว่าเรื่องตัวตนของข้าพวกเจ้าอย่าเพิ่งเอาไปบอกใคร เพราะข้ายังคงจำเป็นต้องซ่อนตัวต่อไปสักพักเพื่อสืบเรื่องบางอย่าง”
“ถ้างั้นผู้น้อยขอตัวกลับไปแจ้งกับบรรพบุรุษเฒ่าให้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งหมดก่อน!” ชายชราผู้ซึ่งมาจากตำหนักเทพยุทธ์เอ่ยขึ้น
“ไปเถอะ” หลิงตู้ฉิงโบกมืออนุญาต
หลังจากชายชรา ผู้ซึ่งเป็นคนของตำหนักเทพยุทธ์จากไปเรียบร้อย บรรพรุษของเผ่าปีศาจสมุทร ชิวหมิงตงก็เดินเข้ามาหาหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าตื่นเต้น และพูดว่า “นายท่าน ข้าคือผู้นำของเผ่าปีศาจสมุทรคนปัจจุบัน ชิวหมิงตง เมื่อเร็ว ๆ นี้ลูกสาวของข้าได้สมรสกับราชันแห่งมวลมนุษย์หรือก็คือลูกชายของท่าน และได้ดำรงสถานะเป็นนางสนมของเขา ดังนั้นมันจึงนับได้ว่าเผ่าปีศาจสมุทรกับเผ่ามนุษย์ในตอนนี้นั้นค่อนข้างที่จะมีสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกัน ข้า…”
หลิงตู้ฉิงโบกมือขัดและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ข้ารู้แล้วว่าเจ้ากำลังจะหมายถึงอะไร เดี๋ยวข้าจะมอบวิญญาณก้องกังวานและท่วงทำนองทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ให้กับเผ่าของเจ้า เพื่อเจ้าจะได้นำพวกมันไปเผยแพร่ให้กับเหล่าสมาชิกในเผ่าของเจ้าได้ฝึกฝนกัน และนอกเหนือจากนั้น อาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำเผ่าของเจ้าตอนนี้นั้นอยู่ที่อาณาเขตหนานหัว”
“แต่ว่าพวกเจ้ายังคงไม่สามารถไปนำมันกลับไปที่เผ่าของเจ้าได้ในตอนนี้ เพราะอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเจ้านั้นยังคงติดพันธะสัญญาที่จะต้องปกปักษ์รักษาสถานที่ที่มันถูกนำไปสถิตอยู่อีก 30,000 ปี ดังนั้นเจ้าจำเป็นต้องรอไปอีก 30,000 ปีก่อนถึงจะสามารถนำมันกลับไปที่เผ่าของเจ้าได้ อ๋อ แล้วอย่าได้คิดจะลองดีฝืนนำมันกลับไปที่เผ่าของเจ้าก่อนกำหนด 30,000 ปีล่ะ เพราะเผ่าของเจ้าอาจจะเผชิญหายนะถึงขั้นสูญพันธุ์เลยก็ได้!”
ชิวหมิงตงพยักหน้ารัวด้วยความตื่นเต้น เขารีบถามกลับทันที “นายท่าน ข้าขอถามได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าข้ากัน?”
ในตอนแรกที่เขาได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงจะมอบวิญญาณก้องกังวานและท่วงทำนองทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ให้กับเผ่าของเขานั้น เขาเองก็ดีใจจนแทบจะบ้าอยู่แล้ว และยิ่งในตอนนี้เมื่อได้ยินว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าที่เคยหายนั้นได้ถูกพบแล้วเขาก็ยิ่งดีใจจนแทบตัวสั่น แต่ทว่าเมื่อได้ยินเรื่องระยะ 30,000 ปีที่เขาจำเป็นต้องรอ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้น?
หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจังทันที “อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเจ้านั้นถูกนำไปไว้ที่อาณาเขตหนานหัวโดยผู้ครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยความตั้งใจที่จะให้มันปกป้องคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอันที่จริงแล้วกำหนดระยะเวลาที่มันจะต้องปกป้องคนเหล่านั้นคือ 100,000 ปี แต่ในตอนนี้เวลาได้ผ่านล่วงเลยมาแล้ว 70,000 ปี ดังนั้นจึงเหลืออีก 30,000 ปีที่มันยังคงจำเป็นต้องอยู่ที่นั่นต่อไป ดังนั้นเจ้าห้ามที่จะไปนำมันกลับมาก่อนกำหนดเวลาเป็นอันขาด เพราะถ้าทำเช่นนั้นไม่เพียงแต่ระฆังศักดิ์สิทธิ์จะไม่ยินยอม แต่พวกเจ้าจะต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของ ‘นาง’ ด้วยอีกต่างหาก”
ชิวหมิงตง เมื่อได้ยินว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับผู้ครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกทันทีและตอบกลับว่า “ข้าจะจดจำคำเตือนของนายท่านเอาไว้ให้ขึ้นใจ และจะปฏิบัติตามทุกอย่างที่นายท่านแนะนำเป็นอย่างดี! ว่าแต่นายท่าน มันจะเป็นอะไรไหมหากข้าส่งคนของข้าไปที่นั่นเพื่อปกป้องอาวุธศักดิ์สิทธิ์?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)