เสี่ยหนานเทียนจากไปด้วยอารมณ์ที่หดหู่ แต่หวงซีกลับเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าร่าเริง
หวงซีกระโดดเข้าไปโผกอดหลิงตู้ฉิงทันที และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “ประตูเคลื่อนย้ายของอาณาจักรจันทรากับภูเขาฟีนิกซ์เชื่อมกันได้ตั้งนานแล้วทำไมท่านถึงไม่มาหาข้าบ้างเลย?”
หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างขมขื่นและตอบกลับว่า “ก่อนหน้านี้ข้ามัวแต่ยุ่งอยู่ที่อาณาเขตหนานหัว ข้าจะไปมีเวลาไปหาเจ้าได้ยังไง?”
“ที่อาณาเขตหนานหัวมีอะไรที่ทำให้ท่านยุ่งจนไม่มีเวลาไปหาข้างั้นเหรอ?” หวงซีถามกลับด้วยสีหน้าสงสัย
“บังเอิญว่าอาณาเขตหนานหัวคืออาณาเขตบ้านเกิดของข้าเมื่อชีวิตที่แล้วน่ะ!” หลิงตู้ฉิงยิ้ม “และอีกอย่างหากข้าไปหาเจ้า มันไม่เท่ากับว่าข้าไปรบกวนเวลาบ่มเพาะของเจ้าเหรอไง? เจ้าเองก็เพิ่งจะผ่านการเกิดใหม่มาได้ไม่นาน หากเจ้าไม่รีบใช้เวลาที่เหลือบ่มเพาะให้เร็วที่สุดเจ้าอาจจะสร้างเต๋าไม่ทันยุคนี้ก็ได้จริงไหม?”
“ก็จริงอย่างที่ท่านว่า!” หวงซีทำหน้ามุ่ย “แต่ไม่รู้แหละ! ในเมื่อตอนนี้ข้าได้เจอกับท่านแล้ว ข้าจะขอติดตามท่านไปก่อนเพื่อชดเชยเวลาที่พวกเราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ข้าได้ยินมาว่าเดี๋ยวท่านจะเดินทางไปที่สำนักเที่ยงธรรมใช่ไหม จะเป็นอะไรไหมหากข้าจะขอไปด้วย?”
“แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ว่าแต่ตอนนี้ที่ภูเขาฟีนิกซ์เตรียมการกันไปถึงไหนแล้ว?”
หวงซีส่ายหัว “ตอนนี้แดนกระดูกขาวดูเหมือนว่าจะมีอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้พวกเราไม่กล้าที่จะให้ใครเดินทางผ่านมันอีกแล้ว แถมล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ข้าเองก็ได้เห็นกับตาว่าจู่ ๆ ที่กลางแดนกระดูกขาวกลับมีร่างเงาของวิญญาณปีศาจขนาดมโหฬารปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า ซึ่งมันทำให้ข้าถึงกับรู้สึกหนาวไปทั่วทั้งร่างเลยทีเดียว”
“แดนกระดูกขาวนี่เป็นปัญหาที่ยุ่งยากจริง ๆ!” หลิงตู้ฉิงถอนหายใจ
ในตอนนี้เวลาก็ผ่านมา 300 กว่าปีแล้วที่เจ้าแห่งยมโลกปรากฏตัวขึ้นล่าสุด ซึ่งเขากลัวว่าอีกไม่น่าจะเกิน 1,000 ปี หากแดนกระดูกขาวยังไม่ถูกกำจัดไป เจ้าแห่งยมโลกจะต้องกลับมาใหม่แน่นอน ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นโลกมนุษย์จะต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่
อันที่จริงต่อให้จะไม่มีการแทรกแซงจากเจ้าแห่งยมโลก แดนกระดูกขาวก็เป็นเหมือนภูเขาไฟที่คุกรุ่นรอที่จะสร้างหายนะได้ทุกเวลาอยู่ดี ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามหลิงตู้ฉิงก็จำเป็นที่จะต้องแก้ไขมันให้เร็วที่สุด
“สามี ท่านมีแผนจะแก้ไขมันแล้วรึยัง?” หวงซีถามขึ้น
“ข้ามีแผนแล้ว แต่ว่าตอนนี้มันกำลังอยู่ในขั้นเตรียมการ” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น “แต่เจ้าเองก็ยังไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก เพราะไม่ว่าแดนกระดูกขาวจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนด้วยอำนาจของเมืองลอยฟ้าและต้นเพลิงสวรรค์ที่คอยปกป้องภูเขาฟีนิกซ์อยู่ พวกวิญญาณร้ายนั่นทำอะไรพวกเจ้าไม่ได้หรอก”
หลังจากที่พวกเขาคุยกันเรื่องธุระเสร็จ ทั้งคู่ก็พากันกลับไปที่เรือนรับรองที่หลิงตู้ฉิงอาศัยอยู่ เพื่อเริ่มคุยกันเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ กันต่อ
แต่แล้วในระหว่างที่พวกเขากำลังมีความสุขกันอยู่นั้น จู่ ๆ สีหน้าของหลิงตู้ฉิงก็เปลี่ยนเป็นจริงจังและพูดว่า “กวนหลิงอู่ มาถึงแล้ว!”
หวงซีลุกขึ้นออกจากอ้อมแขนของหลิงตู้ฉิงพร้อมกับรีบจัดระเบียบเสื้อผ้าของนางเองทันที “ท่านจะให้ข้าออกไปก่อนไหม?”
“ไม่จำเป็น ไอ้เจ้าหนูนั่นรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราแล้ว!” หลิงตู้ฉิงยิ้ม
ในเวลาเดียวกัน เสียงของชายชราผู้หนึ่งก็ดังก้องกังวานขึ้นไปทั่วทำเนียบราชันมนุษย์
“กวนหลิงอู่ ขอถวายบังคมฝ่าบาทราชันแห่งมวลมนุษย์!”
หลิงยี่เทียนรีบออกมาจากพระราชวังทันทีพร้อมกับพูดว่า “มหาจักรพรรดิเทพยุทธ์เชิญเข้ามาคุยกันด้านในก่อนเถอะ!”
ในเวลาเดียวกัน บรรดาผู้คนที่ยังคงอยู่รอบ ๆ ต่างก็รู้สึกประหลาดใจและพูดว่า “ราชันแห่งมวลมนุษย์คนใหม่ของพวกเราช่างกว้างขวางจริง ๆ แม้แต่มหาจักรพรรดิเทพยุทธ์ยังมาแสดงความยินดีด้วยตัวเองเช่นนี้!”
ในทางกลับกัน บรรดากลุ่มคนที่รู้ว่าแท้จริงแล้วหลิงตู้ฉิงเป็นใครต่างก็แอบยิ้มในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)