เมื่อรู้ว่าฝั่งตรงข้ามคือจางไป๋ฟาน คนรอบ ๆ ข้างหลิงตู้ฉิงก็ตื่นตัวในทันทีเพราะพวกเขาจำได้ว่าจางไป๋ฟานผู้นี้นั้นอยู่ในบัญชีดำของหลิงตู้ฉิง!
ถังชี่หยุนโค้งตัวให้จางไป๋ฟานและพูดว่า “ถังชี่หยุน คารวะ ปราชญ์จาง!”
จางไป๋ฟานมองสำรวจถังชี่หยุนอยู่สักพัก จากนั้นเขายิ้มและพูดขึ้นว่า “ข้าได้ยินว่าปราชญ์ถังศึกษาแนวความคิดเกี่ยวกับการรู้แจ้งในกฎความเป็นไปของโลก ดังนั้นข้าจึงพาเหล่าศิษย์ของข้ามาที่นี่เพื่อฟังคำสอนของท่าน และแน่นอนว่าข้าเองก็มีแนวคิดของข้าที่ข้าอยากจะอธิบายให้ท่านฟังเหมือนกัน”
ถังชี่หยุนพยักหน้า “ด้วยความยินดี!”
จากนั้นนางเปิดหนังสือความเที่ยงธรรมที่น่าหวั่นเกรง และเริ่มอ่านมันให้กับจางไป๋ฟานและศิษย์ของเขาฟัง
จางไป๋ฟานนั้นมีผู้ติดตามอยู่ไม่น้อย ซึ่งมีทั้งเผ่าอสูร เผ่าปีศาจ และเผ่ามนุษย์ ซึ่งแน่นอนว่าเผ่ามนุษย์มีมากที่สุด
แต่แค่เพียงถังชี่หยุนเพิ่งจะพูดได้ไม่กี่คำเท่านั้น อสูรตนหนึ่งซึ่งมีความแข็งแกร่งระดับนภาครามก็ก้าวออกมาเตรียมที่จะพูดแทรก
แต่ก่อนที่อสูรตนนั้นจะทันได้พูดแทรก หลิงตู้ฉิงพูดกับหลิงยู่ชานขึ้นก่อนว่า “หนึ่งในวิธีสยบผู้คนก็คือการใช้กำลังที่เหนือกว่า!”
หลิงยู่ชานพยักหน้าแสดงว่าเขาเข้าใจในความหมายที่หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น จากนั้นเขาใช้วิชาพเนจรไร้จำกัดพุ่งตัวไปหาอสูรระดับนภาครามและออกหมัดใส่หน้าอกมันทันที
การออกหมัดครั้งนี้ หลิงยู่ชานไม่ได้ใช้พลังสายเลือดเพื่อเกื้อหนุนความรุนแรงเลยแม้แต่น้อย เขาใช้แค่พละกำลังของเขาเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งแค่เพียงเท่านี้หมัดของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่อสูรระดับนภาครามธรรมดา ๆ จะรับได้ไหว
เมื่อหมัดของหลิงยู่ชานปะทะเข้ากับร่างของอสูร มันจึงกลายเป็นร่างของอสูรที่ระเบิดกระจายออกไม่เหลือชิ้นดีรวมไปถึงดวงวิญญาณของอสูรก็ถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน!
หลิงยู่ชานยิ้มให้กับจางไป๋ฟาน และพูดว่า “ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับสิ่งใดมันก็ไม่มีอะไรน่าหวาดหวั่นหากมีกำลังเหนือกว่า!”
เมื่อพูดจบ หลิงยู่ช่านก็พุ่งตัวกลับมายืนข้างหลิงตู้ฉิงเหมือนเดิม
แน่นอนว่าการกระทำเช่นนี้มันสร้างความขุ่นเคืองให้กับกลุ่มศิษย์ของจางไป๋ฟานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพวกอสูรที่เห็นว่าหนึ่งในเผ่าของพวกมันเพิ่งถูกฆ่าตายไปต่อหน้า
อสูรตนนหนึ่งซึ่งอยู่ในขอบเขตราชันทนไม่ไหวในทันที มันเดินออกมาและตะโกนว่า “ในเมื่อพวกเจ้าอยากใช้กำลังกันนัก งั้นก็ส่งคนออกมาเจอกับข้า!”
หลิงตู้ฉิงพูดกับหลิงเทียนหยุน “อสูรตนนี้พ่อมอบให้เป็นหน้าที่เจ้าบดขยี้มัน และอย่าลืมว่าเจ้าต้องใช้ร่างจริงของเจ้าในการฆ่ามันเท่านั้น”
หลิงเทียนหยุนพยักหน้าแสดงความเข้าใจในคำสั่งของหลิงตู้ฉิง จากนั้นเขาเดินออกไปหาอสูรขอบเขตราชัน
อันที่จริงร่างที่เขาเดินออกไปหาอสูรในตอนนี้คือร่างปลอมที่ถูกสร้างมาจากมายาเที่ยงแท้ ส่วนร่างจริงของเขานั้นหลบอยู่ในเงาของร่างปลอมเรียบร้อย
เมื่อเห็นหลิงเทียนหยุนถูกส่งออกมาเป็นคู่ต่อสู้ของมัน อสูรขอบเขตราชันแสดงสีหน้าเหยียดหยามทันทีและพูดว่า “คิดจะใช้กำลังของผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญสยบข้างั้นเหรอพวกเจ้าฝันไปรึเปล่า? แต่ก็ดี! ปู่ของพวกเจ้าคนนี้จะได้แสดงตัวอย่างการใช้กำลังแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้นหน่อย!”
แต่ก่อนที่อสูรขอบเขตราชันจะได้ทันลงมือโจมตี ร่างของหลิงเทียนหยุนกลับปรากฏเพิ่มขึ้นอีก 10 ร่าง ซึ่งแต่ละร่างล้วนมีเต๋าที่แตกต่างกัน
เมื่อเห็นร่างของหลิงเทียนหยุนแยกเพิ่มมาอีก 10 ร่าง แถมแต่ละร่างก็มีเต๋าแตกต่างกัน อสูรขอบเขตราชันอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึงเพราะมันไม่ควรจะมีใครที่สามารถบ่มเพาะเต๋ามากขนาดนี้ได้!
แต่เมื่อเขาคิดทบทวนดี ๆ ว่าในตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของหลิงเทียนหยุนนั้นอยู่แค่เพียงระดับนักบุญเท่านั้น เขาจึงใจเย็นลงและวางแผนในใจว่าเขาแค่พุ่งเป้าไปที่การทำลายร่างหลักของหลิงเทียนหยุนก็พอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)