ในระหว่างที่ศพยักษ์เทวะทั้งสี่มุ่งหน้าเข้ามา สายตาของหลิงตู้ฉิงไม่ได้ใส่ใจพวกมันเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับจ้องไปที่ชายชราซึ่งยืนอยู่บนไหล่ของหนึ่งในพวกมันแทน
ไม่ว่าศพเหล่านี้จะแข็งแกร่งขนาดไหนหากไร้ซึ่งคนควบคุม พวกมันก็จะไร้พิษสงไปโดยปริยาย และคนควบคุมมันก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชายชราที่ดูสภาพไม่ต่างอะไรกับศพเดินได้
แต่ก่อนที่หลิงตู้ฉิงจะได้ทันทำอะไร เต๋าเทียนเซียะได้ตะโกนขึ้นก่อนว่า “กวนหลิงอู่ ในฐานะที่พวกเรารู้จักกันมานานข้าจะให้โอกาสเจ้าสักครั้งหนึ่ง! หากเจ้ารับปากว่าในอนาคตเจ้าจะทำงานให้ข้า 3 เรื่องตามที่ข้าสั่ง วันนี้ข้าจะปล่อยให้เจ้ากลับไปที่สำนักของเจ้าโดยสวัสดิภาพ!”
กวนหลิงอู่หัวเราะและตอบกลับทันที “เจ้าสำนักเต๋า มันไม่มีอนาคตสำหรับท่านอีกต่อไปแล้ว!”
กวนหลิงอู่แน่ใจว่าวันนี้ไม่ว่าสำนักเงินตราจะมีไพ่ลับมากเท่าไหร่ก็ตาม สำนักเงินตราคงไม่สามารถรอดพ้นหายนะไปได้
ถึงแม้ว่าสำนักเงินตราจะไม่ธรรมดา แต่หลิงตู้ฉิงใช่คนปกติซะที่ไหน? แม้แต่สำนักที่แข็งแกร่งกว่าสำนักเงินตราก็ยังถูกทำลายลงโดยน้ำมือของหลิงตู้ฉิงมาแล้ว!
เมื่อถูกปฏิเสธ เต๋าเทียนเซียะจึงเบนสายตาไปหาคนอื่น ๆ แทน จากนั้นเขาพูดกับเย่เจียงไห่ว่า “ท่านคงจะเป็นผู้สำเร็จเต๋าคนล่าสุดสินะ? ข้าเองก็จะให้โอกาสท่านเช่นกัน หากท่านรับปากว่าจะรับใช้สำนักของข้าจนกว่าท่านจะขึ้นไปอยู่โลกเบื้องบน ข้าจะสนับสนุนท่านทุกวิถีทางเพื่อให้ท่านได้เป็นนายเหนือหัวของยุคนี้ หรืออีกทางเลือกหนึ่งถ้าท่านยอมที่จะขึ้นสู่โลกเบื้องบนในตอนนี้ ข้าจะมอบอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ให้ท่าน 2 ชิ้นเพื่อเป็นการตอบแทน!”
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวเย่เจียงไห่ แต่สำหรับผู้ที่มีความาสามารถสำเร็จเต๋าได้เป็นคนแรก ๆ ของยุคเขาเองก็อยากจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งให้ได้มากที่สุด ดังนั้นเขาจึงพยายามพูดดี ๆ ด้วยก่อน
เย่เจียงไห่หัวเราะ “อาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ 2 ชิ้นงั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าคนอย่างข้าไม่มีปัญญาหาพวกมันเองรึไง? ส่วนเรื่องการขึ้นสู่โลกเบื้องบนนั้นข้ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำที่โลกเบื้องล่าง ดังนั้นข้าคงยังไม่ขึ้นไปเร็ว ๆ นี้แน่นอน และถ้าพูดถึงเรื่องการรับใช้สำนักเงินตราของเจ้า หากผู้ก่อตั้งคนแรกของเจ้ามาขอข้าด้วยตัวเองข้าถึงจะลองรับข้อเสนอเอาไปพิจารณาดู!”
เต๋าเทียนเซียะส่ายหัวพลางถอนหายใจ “ชีวิตที่แล้วท่านคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม? ดังนั้นท่านควรจะเข้าใจว่าศพยักษ์เทวะทั้ง 4 ตนนี้เมื่อตอนมีชีวิตอยู่อย่างน้อย ๆ ระดับการบ่มเพาะของพวกมันก็ต้องอยู่ในขอบเขตราชาศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม? แล้วท่านดูพวกมันตอนนี้สิ พวกมันยังกลายเป็นศพให้ข้าใช้งาน! ในเมื่อท่านไม่รู้ว่าอะไรดีกับตัวเอง ถ้างั้นข้าจะรอเก็บศพของท่านมาใช้งานในอนาคต!”
“ส่วนพวกท่านที่เหลือทั้งหลาย ถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าพวกท่านไปกินอะไรกันมาถึงได้ฮึกเหิมจนถึงขนาดพากันมาบุกสำนักของข้ามากมายขนาดนี้ ถ้าพวกท่านอยากได้ทรัพย์สมบัติ พวกท่านก็จงเก็บสิ่งที่ท่านได้ไปแล้วเอาไว้กับตัวและออกไปให้พ้นสำนักของข้าซะ ข้าจะถือว่าครั้งนี้ข้าทำบุญให้กับพวกท่านและจะไม่ติดใจเอาความ ไม่เช่นนั้นข้าสาบานว่าถ้าหากพวกท่านยังไม่ออกไปหลังจากจบเรื่องนี้ ไม่เพียงแค่พวกท่านที่จะตาย แต่ข้ายังจะตามไปทำลายสำนักของพวกท่านให้ย่อยยับให้หมด!”
หลิงตู้ฉิงกระแอมดึงดูดความสนใจก่อนหนึ่งครั้ง จากนั้นเขาถามกลับว่า “เจ้าคิดว่าคนของสำนักสุสานศักดิ์สิทธิ์จะสามารถปกป้องเจ้าได้จริง ๆ งั้นเหรอ?”
“โอ้? เจ้ามองออกด้วยงั้นเหรอว่าผู้อาวุโสซากศพเป็นคนของสำนักสุสานศักดิ์สิทธิ์ ช่างน่าประทับใจจริง ๆ” เต๋าเทียนเซียะหัวเราะ “เจ้าคือพ่อของราชันแห่งมวลมนุษย์คนปัจจุบันใช่ไหม? ข้าได้อ่านข้อมูลของเจ้ามาบ้างแล้วเหมือนกันก่อนหน้านี้ ไหนเจ้าลองบอกข้ามาสักหน่อยสิว่าเจ้ามีความแค้นอะไรกับข้าทำไมเจ้าถึงบุกรุกเข้ามาเข่นฆ่าคนของข้าแบบนี้?”
หลิงตู้ฉิงจ้องเขม็งไปที่เต๋าเทียนเซียะก่อนจะพูดว่า “เมื่ออดีตข้าเคยให้โอกาสพวกเจ้าแล้วรอบหนึ่ง แต่พวกเจ้ากลับไม่เห็นค่ามันเลย! หลังจากที่ข้าจากไปพวกเจ้ากลับวางแผนทำร้ายคนของข้า เทพกระบี่ และ ผีเสื้อ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)