เมื่อได้ยินคำกล่าวของหลิงตู้ฉิง ผู้อาวุโสซากศพตวาดกลับด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “เรื่องของสำนักข้าเจ้าไม่ต้องมาแส่! ในเมื่อเจ้าไม่มีอะไรจะสั่งเสียถ้างั้นก็รีบ ๆ ตายไปซะ!”
เมื่อพูดจบ เขาก็สั่งให้ศพยักษ์เทวะทั้งสี่ลงมือโจมตีทันที
แต่ก่อนที่หมัดของศพยักษ์เทวะทั้งสี่จะพุ่งไปถึงตัวของหลิงตู้ฉิง หลิงตู้ฉิงก็หัวเราะขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาและพูดว่า “ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของศพทั้งสี่ของเจ้าจะนับได้ว่าไม่เลวเมื่อพวกมันอยู่ในโลกเบื้องล่าง แต่เจ้าไม่รู้รึไงว่าตัวเจ้าเองที่เป็นจุดอ่อนที่สุดของพวกมัน! ทัณฑ์ฟ้าดิน!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงเขวี้ยงง้าวเทวะพินาศหายไปในอากาศ และจากนั้นชั่วพริบตาถัดมาหัวของผู้อาวุโสซากศพก็หลุดออกจากบ่าทันทีพร้อมกับร่างกายและดวงวิญญาณของเขาก็สลายกลายเป็นฝุ่นผง
เมื่อไร้ซึ่งผู้ควบคุม ศพยักษ์เทวะทั้งสี่ก็ถอนการโจมตีและกลับไปยืนนิ่งไม่ขยับแม้เพียงนิ้วเดียว
สีหน้าของเต๋าเทียนเซียะเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันทีเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ จากนั้นเขารีบพุ่งตัวหนีกลับไปที่พระราชวังของเขาอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสซากศพนั้นนับได้ว่าเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาจะพึ่งพาได้ แต่ตอนนี้จู่ ๆ กลับถูกสังหารลงอย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไร?
แต่โชคยังดีที่สำนักของเขายังคงมีไพ่ลับอื่นซ่อนอยู่อีกอย่าง ดังนั้นเขาจึงต้องรีบกลับไปเตรียมการในทันที
ในเมื่อเจ้าแห่งหายนะมุ่งมั่นที่จะทำลายสำนักของเขาเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้ตายเพราะต่อให้เขาเลือกที่จะหนี หลิงตู้ฉิงก็จะตามล่าเขาไปถึงสุดขอบโลกเพื่อฆ่าเขาให้ได้อยู่ดี
และมันก็เหมือนครั้งอื่น ๆ เมื่อทุกคนเห็นทักษะทัณฑ์ฟ้าดินของหลิงตู้ฉิง พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันคืออะไรกันแน่? แม้แต่เย่เจียงไห่เองก็ยังขมวดคิ้วแน่น
ปัญหาของพวกเขานั้นไม่ใช่แค่เพียงพวกเขาไม่เข้าใจแล้วจะปล่อยผ่านไปได้ เพราะถ้าหากพวกเขาไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร หากพวกเขาเผชิญหน้ากับทักษะนี้พวกเขาเองก็หมดสิทธิ์รอดชีวิตเหมือนกัน
เมื่อคิดกันได้เช่นนี้ พวกเขาจึงรู้สึกโล่งใจที่ตัวเองคิดถูกที่อยู่ฝั่งเดียวกับหลิงตู้ฉิง
“น้องเขย ต่อจากนี้พวกเราจะเอายังไงกันต่อ?” เย่เจียงไห่ถามขึ้น “และถ้าพวกเราสามารถใช้ศพทั้งสี่นี้ได้มันจะประหยัดแรงของพวกเราไปได้มากเลยทีเดียว”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ปล่อยพวกมันไว้แบบนี้ไปก่อน การเชื่อมต่อกับพวกมันใช้เวลานานเกินไป ตอนนี้พวกเราต้องมุ่งหน้าต่อเพื่อกวาดล้างอาณาเขตเงินตราให้เสร็จด้วยตัวของพวกเราเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่มากับหลิงตู้ฉิงทั้งหลายต่างก็แยกย้ายกันไปกวาดล้างกลุ่มกองกำลังที่เหลืออยู่ในอาณาเขตเงินตราทั้งหมด
เมื่อไม่มีการสนับสนุนจากสำนักเงินตราสาขาหลัก บรรดาสาขาย่อยทั้งหลายที่กระจายกันอยู่ทั่วอาณาเขตเงินตราก็ถูกกวาดล้างอย่างง่ายดาย ส่งผลให้ทั่วอาณาเขตเงินตรามีแหวนมิติและอาวุธวิเศษระดับต่าง ๆ หล่นเกลื่อนเต็มพื้นไปหมด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่มากับหลิงตู้ฉิงก็ไม่ได้เก็บพวกมันขึ้นมาแม้แต่ชิ้นเดียว หรือต่อให้เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์พวกเขาก็ยังไม่เก็บพวกมันเช่นกัน
สาเหตุที่พวกเขายังไม่เก็บพวกมันก็เพราะก่อนหน้านี้หลิงตู้ฉิงได้ทำการลบล้างกฎแห่งมิติทั่วทั้งอาณาเขตเงินตราเอาไว้ ซึ่งส่งผลให้แหวนมิติของพวกเขาก็ใช้เก็บของไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นหากพวกเขาขืนเก็บอาวุธเหล่านี้ขึ้นมาพวกเขาจะถือมันไว้ที่ไหน?
ในมือของพวกเขาทุกคนนั้นมีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ไว้ใช้ต่อสู้อยู่แล้ว ถ้าขืนหยิบขึ้นมาอีกพวกเขาคงต้องคาบมันไว้ที่ปากไม่ก็เหน็บมันไว้ที่รักแร้ หรือหาเชือกมามัดพวกมันติดไว้กับตัว ซึ่งถ้าทำเช่นนั้นมันจะเป็นการทำให้พวกเขาต่อสู้ได้ไม่เต็มที่ไปกันใหญ่
ในเวลาเดียวกัน บรรดาผู้คนที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตรอบ ๆ อาณาเขตเงินตราก็เริ่มสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในอาณาเขตเงินตรา
ข้อแรกพวกเขาสังเกตได้ว่าม่านพลังที่คอยปกป้องอาณาเขตเงินตราอยู่แต่เดิมนั้นมันถูกทำลายจนแหกเป็นรูโหว่ขนาดยักษ์ ข้อที่สองก็คือพวกเขาสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณที่ผันผวนจากการต่อสู้กันอย่างรุนแรงจนมันทำให้พวกเขารู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันผู้หนึ่งรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี จากนั้นเขาค่อย ๆ บินเข้าไปในอาณาเขตเงินตราเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แน่นอนว่าเมื่อเขาเข้าไปในอาณาเขตเงินตรา เขาก็ต้องตกตะลึงกับภาพของศพจำนวนไม่นับถ้วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)