นับตั้งแต่เริ่มการบุก หลิงตู้ฉิงลงมือด้วยตัวเองไปแล้วสองครั้ง ครั้งแรกคือการใช้พลังของหนึ่งในร่างโลหิตอมตะของหมิงยู่เพื่อลบล้างและยับยั้งพลังกฎแห่งมิติที่สถิตอยู่ในอาณาเขตเงินตราชั่วคราวทั้งหมด ส่วนครั้งที่สองก็คือการใช้ง้าวเทวะพินาศสังหารคนของสำนักสุสานศักดิ์สิทธิ์
แต่ด้วยความแข็งแกร่งของสำนักเงินตรา หลิงตู้ฉิงจึงพอเดาได้ว่าเต๋าเทียนเซียะจะต้องยังมีไพ่ตายเหลืออยู่ ดังนั้นเขาจึงจงใจเก็บร่างโลหิตอมตะของหมิงยู่อีกร่างเอาไว้เพื่อดึงพลังมาใช้กับไพ่ตายที่เหลือของสำนักเงินตราที่เย่เจียงไห่และคนอื่น ๆ ไม่สามารถรับมือกับมันได้
เมื่อเห็นท่าทีของเต๋าเทียนเซียะว่ายังคงมีไพ่ตายเหลืออยู่ หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและท้าทายทันที “ตั้งแต่แรกข้าเพิ่งลงมือไปแค่ 2 ครั้ง ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าจะมีปัญญาพอให้ข้าลงมือครั้งที่ 3 ไหมเหมือนกัน เอาเลยจงใช้ออกมา!”
“ได้! ถ้างั้นพวกเรามาพนันกันว่าชีวิตใครจะมีค่ามากกว่ากัน!” เต๋าเทียนเซียะตะโกนขึ้น
เมื่อสิ้นเสียงของเต๋าเทียนเซียะ จู่ ๆ ตาชั่งยักษ์ที่มีถาดชั่ง 2 ข้างก็ปรากฏขึ้นกั้นกลางระหว่างกลุ่มของหลิงตู้ฉิง และกลุ่มของเต๋าเทียนเซียะ
ทันทีที่ตาชั่งปรากฏขึ้น กลุ่มของหลิงตู้ฉิงทั้งหมดถูกดูดขึ้นไปอยู่รวมกันบนถาดชั่งข้างหนึ่งทันที ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้ถาดชั่งของฝั่งหลิงตู้ฉิงโน้มลงมาติดพื้นเพราะถาดอีกด้านไม่มีสิ่งใดคอยถ่วงไว้
เมื่อเห็นเช่นนี้ กลุ่มของหลิงตู้ฉิงก็รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ชีวิตของพวกเขากำลังถูกวัดมูลค่าโดยตาชั่ง!
“อาวุธเต๋า!” เย่เจียงไห่อุทานเสียงดังลั่น
ที่เขาเดาได้ว่ามันเป็นอาวุธเต๋าก็เพราะในตอนนี้เขากลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าแล้ว ซึ่งถ้าเป็นอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์เขาจะสามารถทำลายอำนาจการควบคุมของมันได้ทันที แต่ในตอนนี้เขากลับไม่สามารถต่อต้านอะไรได้เลย ดังนั้นมันจึงมีความเป็นไปได้เดียวก็คือมันเป็นอาวุธเต๋าแน่นอน!
หลิงตู้ฉิงมองสำรวจไปที่ตาชั่งและพูดว่า “มันยังไม่ใช่อาวุธเต๋าหรอก อย่างมากที่สุดมันก็เป็นอาวุธระดับระดับครึ่งเต๋า แต่บังเอิญว่ามันอาจจะพิเศษหน่อยที่มันสามารถสร้างเขตแดนได้แล้ว และพวกเราก็เดินเข้ามาติดกับพอดี”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนอื่น ๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังอยู่บนเขียงรอถูกเชือดยังไงยังงั้น ดังนั้นมันจึงอดไม่ได้ที่เขาจะเริ่มแสดงสีหน้าตื่นเตระหนก
ในทางกลับกัน หลิงตู้ฉิงกลับยังแสดงสีหน้าปกติ เพราะเขาแน่ใจว่าชีวิตของเขามีมูลค่ามากกว่าทรัพย์สมบัติใด ๆ ที่มีอยู่ในโลกเบื้องล่างนี้แน่นอน
ในเวลาเดียวกัน เต๋าเทียนเซียะมองไปที่กลุ่มของหลิงตู้ฉิงที่อยู่บนถาดชั่งด้วยสีหน้าเย้ยหยัน จากนั้นเขาพูดว่า “วันนี้พวกเราสำนักเงินตราขอซื้อชีวิตคนเหล่านี้ โปรดสวรรค์และโลกเป็นพยานในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้! อาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ 100 ชิ้น!”
เมื่อพูดจบ อาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ 100 ชิ้นที่อยู่ในแหวนมิติของเต๋าเทียนเซียะก็ถูกอำนาจของตาชั่งดึงออกไปวางบนถาดทางฝั่งที่ยังว่างอยู่
เหตุผลที่ตาชั่งสามารถดึงของที่อยู่ในแหวนมิติออกมาได้นั้นเป็นเพราะหลิงตู้ฉิงใช้พลังแค่ขอบเขตราชันในการสร้างอาณาเขตประกาศิตขึ้นมา ซึ่งมันไม่สามารถเทียบได้กับอำนาจของเขตแดนที่ตาชั่งสร้างขึ้น ดังนั้นไม่ว่าใครที่อยู่ในเขตแดนของตาชั่ง ตาชั่งจะสามารถดึงสิ่งของที่อยู่ในแหวนมิติได้ตามกฎเขตแดนของมันเอง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า เต๋าเทียนเซียะจะจ่ายออกไปแล้วด้วยอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ 100 ชิ้น แต่ตาชั่งยังคงไม่มีความเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ 100 ชิ้นนั้นไม่ใกล้เคียงเลยสักนิดที่จะซื้อชีวิตกลุ่มของหลิงตู้ฉิง
มี่ตั้วตั้วหัวเราะ “ไม่นึกเลยว่าคนอย่างเจ้าที่ทำการค้ามาเนิ่นนานกลับมีความสามารถประเมินมูลค่าสิ่งต่าง ๆ อ่อนด้อยขนาดนี้ นี่เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าแค่อาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ 100 ชิ้นมันจะมีค่าพอซื้อชีวิตพวกข้าได้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)