บทที่ 91 โด่งดัง[รีไรท์]
บทที่ 91 โด่งดัง[รีไรท์]
“รอเดี๋ยวก่อน ท่านหลิง!” หยิงหวูเจี้ยงตะโกนอย่างกระวนกระวาย “แม้ว่าหลิงยู่ชานจะไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไป แต่ข้ารู้สึกว่าเขาควรที่จะได้เป็นที่หนึ่งในเทศกาลบูชาเพลิง ข้าคิดว่าคงไม่มีใครคัดค้านประเด็นนี้ ดังนั้นรางวัลที่หนึ่งของเทศกาลบูชาเพลิงข้าจะมอบมันให้เป็นของลูกของท่าน หลิงยู่ชาน!”
“ไม่จำเป็น ในเมื่อเขาไม่สามารถเข้าร่วมการประลองต่อไปได้เขาจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับรางวัลใด ๆ” หลิงตู้ฉิงหันกลับมาและจากไป
เมื่อดูกลุ่มของหลิงตู้ฉิงค่อย ๆ จากไป หยิงหวูเจี้ยงรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก รางวัลที่เขาอุตส่าห์เตรียมมาเป็นพิเศษ กลับถูกปฎิเสธง่าย ๆ แบบนี้เนี่ยนะ?
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน หลิงตู้ฉิงได้นำกลุ่มคนของเขาออกไปอย่างใจเย็น ผู้คนที่ยืนเบียดเสียดกันบริเวณจัตุรัสต่างพากันถอยห่างไปข้าง ๆ ไม่กล้าขวางทาง มีทั้งสายตาชื่นชมและอิจฉามากมาย
เมื่อมองไปยังท่าทางและสายตาของกลุ่มคนรอบตัว มี่ไลนั้นมีความสุขมาก นี่มันเหมือนกับที่พ่อของนางเคยพูดไว้กับนางก่อนหน้าที่ส่งตัวนางมาเป็นบ่าวรับใช้ของเรือนหลิงใหม่ ๆ พ่อของนางเคยกล่าวให้นางไม่ต้องสนใจผู้คนที่อาจจะดูหมิ่นและเยาะเย้ยนาง พ่อของนางบอกให้นางรอวันที่หลิงตู้ฉิงแสดงความสามารถให้โลกเห็น เมื่อวันเช่นนั้นมาถึงจะไม่มีใครกล้าพูดดูถูกนางอีกแน่นอน
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้นางมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความชื่นชมและพูดอย่างมีความสุข “นายท่าน ท่านช่างยอดเยี่ยมมาก! หลิงจู้ด้วย ข้าไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมีพลังเช่นนี้!”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะจากนั้นส่งหลิงจู้ให้นาง “วันนี้มันเสียพลังวิญญาณไปเยอะพอสมควร เมื่อกลับไปถึงเรือนแล้ว เจ้าจงใช้เคล็ดฝนฤดูใบไม้ผลิหล่อเลี้ยงมันให้ข้าสักหน่อย”
“ได้เลย นายท่าน!” มี่ไลพูดอย่างตื่นเต้น เวลานี้เมื่อนางมองไปที่หลิงจู้ ความรู้สึกมันช่างแตกต่างจากเมื่อวานที่นางมองมันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นเมื่อนางได้รับหลิงจู้กลับมาอีกครั้งนางก็ยิ่งรู้สึกลิงโลดมากขึ้น
“ท่านพ่อ ท่านสุดยอดไปเล้ย!” หลิงไช่หยุนและคนอื่น ๆ ล้วนมีความสุข
“ในอนาคตพวกเจ้าก็สามารถทำแบบพ่อได้” หลิงตู้ฉิงให้กำลังใจหลิงว่านถิงและลูกคนอื่น ๆ ทุกคนต่างพยักหน้าบ่งบอกว่าพวกเขาจะฝึกฝนให้หนักและจะต้องมีวันที่พวกเขาสามารถโดดเด่นได้อย่างพ่อของพวกเขาโดยเร็วที่สุด
หลังจากพูดคุยเสร็จพวกเด็ก ๆ ก็หันไปมองเสี่ยวเยว่เฟิง และถามว่า “ท่านพ่อ พี่สาวคนนี้เป็นใคร?”
โดยไม่ต้องรอให้หลิงตู้ฉิงแนะนำนาง เสี่ยวเยว่เฟิงพูดว่า “ข้าเป็นสารถีของนายท่าน ข้ามีนามว่า เสี่ยวเยว่เฟิง”
“งั้นพวกเราจะเรียกท่านว่าพี่สาวเสี่ยว!” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
เสี่ยวเยว่เฟิงได้ยินเช่นนั้นจึงพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรต่อ นางเดินตามหลิงตู้ฉิงไปอย่างเงียบสงบ
ส่วนกงหยูและซ่งเหวินเถานั้นต่างมีคำถามมากมายในใจ แต่พวกเขาไม่กล้าเอ่ยถามพวกมันออกมา
แต่ทางด้านของโม่หยูถังนั้นไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยขณะที่เขาถาม “นายท่านแส้หางม้าชิ้นนั้นคือ สมบัติระดับราชวงศ์ใช่หรือไม่?”
หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยการพยักหน้า
“ท่านพ่อ มันคืออะไรเหรอ?” หลิงว่านถิงถามอย่างสงสัย “เป็นสิ่งที่คนในราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถใช้ได้เหรอ?”
โม่หยูถังหัวเราะ “คุณหนูรองของข้า สมบัติระดับราชวงศ์ไม่ได้หมายถึงของที่คนในราชวงศ์ใช้ มันเป็นคำเรียกระดับของสมบัติวิเศษ เช่นระดับของสมบัติวิเศษ มีแบ่งไล่ระดับไปตั้งแต่ มนุษย์ ปฐพี วิญญาณ ราชวงศ์ และยังมีแบ่งขั้นเป็น ต่ำ กลาง สูง”
“ภายในอาณาจักรจันทราที่เราอาศัยอยู่ สมบัติระดับวิญญาณถือว่าเป็นของหายากและมีน้อยมาก ผู้ที่ครอบครองพวกมันจะมีก็แต่เพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนสมบัติระดับราชวงศ์ ความหายากของมันนั้นแม้แต่จักรพรรดิของอาณาจักรจันทราเองยังอาจจะไม่มีใช้!”
หลิงไช่หยุนกระพริบตาและถามว่า “ปู่โม่ถ้าอย่างนั้นมีอะไรที่แข็งแกร่งกว่าสมบัติระดับราชวงศ์อีกไหม แล้วจะเรียกมันว่าอะไร?”
“สำหรับระดับสมบัติที่แข็งแกร่งกว่าราชวงศ์นั่นคือ…” ขณะที่โม่หยูถังกำลังจะอธิบาย หลิงตู้ฉิงก็ขัดจังหวะคำพูดของเขา
“ในอนาคตเมื่อเจ้ามีพลังมากขึ้นเจ้าจะรู้ได้เองโดยไม่ต้องถามใคร ตอนนี้เจ้ารู้มากเกินไปแล้ว มันเป็นอันตรายต่อการบ่มเพาะของเจ้า เมื่อเจ้ามีรากฐานที่มั่นคงแล้ว เจ้าถึงค่อยไปสนใจสิ่งอื่นเหล่านี้”หลิงตู้ฉิงกล่าวเตือนหลิงไช่หยุน
สำหรับคนอื่น ๆ พวกเขาที่ฟังอยู่ด้วย ต่างจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ของประเภทสมบัติด้วยความตั้งใจ พวกเขาคิดว่าหากเป็นไปได้พวกเขาก็อยากจะได้มันมาใช้บ้างสักชิ้นสองชิ้น
ตัดกลับมาที่ด้านของจัตุรัสเมือง เมื่อพวกของหลิงตู้ฉิงจากไป สถานการณ์ในตอนนี้เริ่มอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
หลังจากที่ตู้เหลยโตวตรวจสอบจนเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ เสร็จสิ้นแล้ว เขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเขาได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงได้สังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดารา ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดหวั่น หลังจากได้ยินเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างหลิงตู้ฉิงกับตระกูลเจิ้น เขาก็รู้แล้วว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงไม่ค่อยอยากจะสุงสิงกับเขาสักเท่าไหร่
“ไอ้เวรนี่ ข้าไม่น่ารับมันเข้ามาอยู่ในสถาบันของข้าเลยจริง ๆ นี่มันคือความผิดพลาดอันใหญ่หลวง!” ตู้เหลยโตวพูดอย่างเสียดาย “บ้าจริง ๆ ขนาดตายไปแล้ว ยังเหลือปัญหาให้ข้าต้องมาสะสางอีก แล้วไอ้หนุ่มนั่นจะคิดว่าข้าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ด้วยรึเปล่าหว่า ดูเหมือนว่าข้าต้องไปอธิบายกับเขาสักหน่อยและต้องลองเชิญพวกเขาให้กลับมาเข้าร่วมกับสถาบันของข้าให้ได้”
เจ้าของสถาบันอื่น ๆ เองก็คิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน
สำหรับหยิงหวูเจี้ยง เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับการตัดสินอันดับของงานประลองเทศกาลบูชาเพลิงและวิธีการแจกรางวัล
แต่มีอยู่คนผู้หนึ่งที่กำลังยิ้มอย่างสบายใจเฉิบกับเรื่องวุ่นวายที่กำลังดำเนินอยู่ตอนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)