เมื่อเห็นว่าประตูวัดของตัวเองถูกฟาดจนกระเด็นไปทั้งบาน กลุ่มของหลวงจีนกลับไม่รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย
อันที่จริงต่อให้หลิงตู้ฉิงจะฟาดพวกเขา พวกเขาก็ไม่โกรธเช่นกัน
“มารร้ายตนนี้ถูกความชั่วร้ายเข้าครอบงำจนไม่เหลือความดีแล้ว พวกเราทุกคนมาร่วมกันทำให้มารตนนี้ได้เห็นทางสว่างกันเถอะ!” เจ้าอาวาสวัดต้าหงเอ่ยขึ้น
จากนั้นบรรดาหลวงจีนทั้งหลายก็เริ่มสวดบทสวดของพวกเขาอย่างพร้อมเพรียง ส่งผลให้พลังแห่งพุทธจำนวนมากถาโถมเข้าไปโจมตีร่างของหลิงตู้ฉิง
หลิงตู้ฉิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้โล้น พวกเจ้ามีปัญญาทำได้แค่นี้งั้นเหรอ!”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้หลิงตู้ฉิงจะแสดงออกว่าเขาไม่กลัว แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็แสร้งทำเป็นว่ากลิ่นอายชั่วร้ายของเขาค่อย ๆ มอดลงราวกับว่ามันได้รับผลจากพลังของบทสวดที่ถาโถมเข้ามา
บรรดาหลวงจีนเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งได้ใจ เจ้าอาวาสวัดต้าหงตะโกนขึ้นอีกว่า “เร็วเข้าพวกเรามารตนนี้ใกล้จะถึงจุดจบแล้ว!”
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง เขาแสร้งลดกลิ่นอายชั่วร้ายของตนเองจนเหลือแค่เพียงพอที่จะปกคลุมร่างของเขารวมไปถึงศพยักษ์เทวะทั้งสอง จากนั้นเขาก็ไม่ลดกลิ่นอายของเขาอีก
เมื่อเจ้าอาวาสวัดต้าหงเห็นเช่นนี้ เขาก็เข้าใจไปว่าเขาได้เจอกับตอเข้าให้แล้ว เขาจึงรีบเปลี่ยนบทสวดเป็นที่แข็งแกร่งกว่าเดิมทันที ซึ่งส่งผลให้พลังแห่งพุทธที่ถาโถมไปหาหลิงตู้ฉิงยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีกระดับ
ในเวลาเดียวกัน หลิงตู้ฉิงก็แอบแยกพลังวิญญาณออกจากพลังแห่งพุทธที่สำแดงออกจากบทสวดของเหล่าหลวงจีน ซึ่งกำลังถาโถมเข้ามาหาตัวเขา และส่งพลังแห่งพุทธเพียงอย่างเดียวเติมเข้าไปในดอกบัวเพลิงพิพากษาของโจวจื่อซินเรื่อย ๆ เพื่อทำตามแผนที่เขาวางไว้เอาแต่แรก ซึ่งก็คือการใช้พลังแห่งพุทธทำให้มันพัฒนาระดับขึ้น
ในตอนนี้ระดับของดอกบัวเพลิงพิพากษาอยู่ในระดับ 3 ซึ่งแผนที่หลิงตู้ฉิงวางไว้คือจะทำให้มันเป็นระดับ 5 เพราะมีแค่เพียงดอกบัวเพลิงพิพากษาระดับ 5 เท่านั้นที่มีความสามารถลบล้างบาปของโจวจื่อซินได้หากนางสังหารคนเป็นจำนวนมาก
อันที่จริงวิธีการเลื่อนระดับดอกบัวเพลิงพิพากษา โจวจื่อซินก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองเหมือนกันโดยการบ่มเพาะเคล็ดวิชาทางพุทธ แต่ว่าการใช้พลังของนางเพียงคนเดียวในการเลื่อนระดับดอกบัวเพลิงพิพากษามันนานเกินไป ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงคิดแผนยืมมือเหล่าหลวงจีนที่อยู่ในภูมิภาคอี้ซางมาเพิ่มระดับให้แทน ซึ่งการทำเช่นนี้มันประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากรของพวกเขาเป็นอย่างมาก
หลิงตู้ฉิงยืนให้เหล่าหลวงจีนสวดบทสวดใส่อยู่ 1 เดือนเต็ม ซึ่งหลังจาก 1 เดือนผ่านไปเขาก็เห็นว่าพลังแห่งพุทธที่หลวงจีนเหล่านี้ปลดปล่อยออกมามันเริ่มที่จะไม่บริสุทธิ์อีกแล้ว เขาจึงปลดปล่อยกลิ่นอายอันชั่วร้ายของเขาให้ดูบ้าคลั่งเหมือนเดิม และแสร้งทำตัวเป็นปีศาจร้ายที่ดูเหมือนว่าเพิ่งหลุดออกจากการควบคุม
“ได้เวลาแล้วไอ้พวกโล้นสวะ! ข้าอุตส่าห์ให้โอกาสพวกเจ้า 1 เดือนเต็ม แต่พวกเจ้ากลับไร้น้ำยาทำอะไรข้าไม่ได้แบบนี้งั้นข้าขอฟาดพวกเจ้าให้หนำใจสักหน่อยก็แล้วกัน!” หลิงตู้ฉิงตะโกนขึ้น
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็ฟาดแส้ไปยังเหล่าหลวงจีนทั้งหมดทันที
แต่ละแส้ที่หลิงตู้ฉิงฟาดไปส่งให้เหล่าหลวงจีนกระเด็นกระดอนไปคนละทิศทาง
อย่างไรก็ตามหลวงจีนเหล่านี้ไม่ได้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย เพราะหลิงตู้ฉิงบังคับให้อำนาจของแส้ส่งผลแค่ผลักเหล่าหลวงจีนให้กระเด็นไปเท่านั้น
“ครั้งนี้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป แต่จงจำเอาไว้หากครั้งหน้าพวกเจ้ายังทำให้ข้ากลับใจไม่ได้ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมดวัด!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็กระโดดกลับขึ้นไปบนไหล่ของศพยักษ์เทวะเหมือนเดิม และสั่งให้พวกมันมุ่งหน้าไปยังวัดต่อไป
อย่างไรก็ตาม เหล่าหลวงจีนไม่รู้ตัวเลยว่าหลิงตู้ฉิงได้แอบฝังพลังแห่งอารมณ์และความปรารถนาลงในพลังของแส้ที่เขาฟาดไปด้วย ซึ่งหลังจากนี้พลังแห่งอารมณ์และความปรารถนาจะปะทุขึ้นในใจของเหล่าหลวงจีนแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว
หลังจากเดินทางข้ามไปถึงอีกอาณาเขต หลิงตู้ฉิงก็พบกับวัดขนาดใหญ่อีกแห่งทันที ซึ่งวัดนี้มีชื่อว่า ‘วัดจินหยวน’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)