ร่างแยกของฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์ได้ลงมาถึงภูเขาฟีนิกซ์เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นแขกที่มาจากโลกเบื้องบน บรรดากลุ่มคนของภูเขาฟีนิกซ์ต่างก็แสดงสีหน้าซับซ้อน
ผู้มาจากโลกเบื้องบน? พวกเขาควรจะเคารพและเชื่อฟังทุกอย่างดีหรือเปล่า?
แต่ว่าในยุคนี้ภูเขาฟีนิกซ์ของพวกเขาก็ไม่ถือว่าน้อยหน้า ทั้งหวงซีที่สามารถผ่านการเกิดใหม่ได้สำเร็จจนมีสายเลือดสูงส่งไม่น้อยไปกว่าฟีนิกซ์ที่อยู่บนโลกเบื้องบน แล้วไหนจะหลิงไช่หยุนอีกคนที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจึงไม่แน่ใจว่าควรทำตัวยังไงดีและพวกเขาก็กลัวปัญหาที่จะเกิดจากผู้ที่มาจากโลกเบื้องบนที่จะมาสร้างความลำบากใจให้กับพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ทางด้านของฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยเช่นกันเมื่อมาถึง เพราะนางเองก็สัมผัสได้เหมือนกันว่าในตอนนี้ที่ภูเขาฟีนิกซ์นอกจากหลิงไช่หยุนยังมีผู้ที่มีสายเลือดสูงส่งไม่ด้อยไปกว่านางดำรงอยู่อีก 2 คน แถมหนึ่งในมีสายเลือดที่แข็งแกร่งกว่านางด้วยซ้ำดังนั้นนางจึงไม่กล้าทำตัวหยิ่งผยอง
นางถามหวงซีและหวงเซียะด้วยสีหน้าสงสัย “พวกเจ้ามีสายเลือดอะไรกัน?”
หวงเซียะไม่กล้าทำตัวหยาบคาย ดังนั้นนางจึงรีบตอบกลับทันที “ผู้อาวุโส ข้ามีสายเลือดของฟีนิกซ์เพลิงพิพากษา!”
ทางด้านของหวงซีก็ยิ้มและตอบกลับด้วยท่าทีสุภาพเช่นกัน “ข้าผ่านการเกิดใหม่จากเถ้าถ่านมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งสามีของข้าบอกว่าตอนนี้สายเลือดที่ไหลเวียนในตัวข้าคือฟีนิกซ์เก้ายมโลก แต่ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแท้จริงแล้วฟีนิกซ์เก้ายมโลกนั้นเป็นอย่างไร”
เมื่อได้รับคำตอบจากทั้งสอง ฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์ก็เงียบลง
ทั้งสายเลือดของฟีนิกซ์เพลิงพิพากษาและสายเลือดฟีนิกซ์เก้ายมโลกนั้นคือสายเลือดที่มีระดับสูงกว่านาง!
เมื่อรู้เช่นนี้ นางจึงรู้สึกโล่งอกอยู่ในใจที่ในตอนแรกนางไม่ได้แสดงท่าทีไม่เหมาะสมอะไรกับหญิงสาวทั้งสองคนนี้
“แล้วตอนนี้องค์หญิงน้อยไปไหนงั้นเหรอ?” ฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์เอ่ยถามขึ้น
แน่นอนว่าคนที่นางเอ่ยถึงคือ หลิงไช่หยุน
หวงซีรู้อยู่แล้วว่าฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์จะต้องถามคำถามนี้ นางจึงหัวเราะและตอบทันที “ตอนนี้นางกำลังปิดด่านบ่มเพาะอยู่เหมือนกับทุก ๆ คนในภูเขาฟีนิกซ์”
เมื่อได้ยินว่าหลิงไช่หยุนกำลังปิดด่านบ่มเพาะอยู่ ฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์จึงไม่ถามเรื่องของหลิงไช่หยุนต่อ นางเปลี่ยนประเด็นทันทีด้วยสีหน้าสงสัย “ว่าแต่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่รึเปล่า? ทำไมข้าถึงสัมผัสได้ว่าทั้งอาณาเขตมีทั้งพลังวิญญาณและพลังของกฎแห่งเพลิงสถิตหนาแน่นกว่าเดิม?”
ก่อนหน้านี้นางใช้เจตจำนงของนางตรวจสอบทั้งอาณาเขตฟีนิกซ์อย่างคร่าว ๆ ดังนั้นนางจึงสัมผัสได้ถึงความเป็นไปของอาณาเขตฟีนิกซ์ทั้งหมด
หวงซีชี้นิ้วไปยังทิศทางที่แดนกระดูกขาวตั้งอยู่และพูดว่า “ที่นั่นคือปัญหาที่พวกเรากำลังเผชิญ ดังนั้นพวกเราจึงจำเป็นต้องตั้งใจบ่มเพาะกันอย่างขะมักเขม้นเพื่อเตรียมตัวที่จะทำให้สถานที่นั้นหายไป”
ฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์มองไปตามทิศทางที่หวงซีชี้นิ้วไปอยู่สักพัก จากนั้นนางก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้ามืดหม่นและพูดว่า “ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมองค์จักรพรรดินีถึงส่งข้าลงมา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ถ้างั้นพวกเราก็มาเตรียมจัดทัพกันเลยดีกว่าเพื่อจัดการให้ปัญหานี้มันหมดไปโดยเร็วที่สุด”
หวงซีส่ายหัว “ยังไม่ถึงเวลา พวกเราจำเป็นต้องรอให้สามีข้ามาถึงก่อน”
ฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์ขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้ นางพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยว่า “สามีของเจ้าเป็นใครกัน? ทำไมเจ้าไม่เร่งให้เขารีบมาที่นี่เพื่อที่พวกเราจะได้แก้ปัญหานี้ให้มันจบได้ไว ๆ เจ้ารู้รึเปล่าว่าปัญหานี้หากไม่รีบแก้ไขมันจะกลายเป็นหายนะใหญ่”
เมื่อเห็นว่าฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์พูดขึ้นในแนวเชิงตำหนินาง หวงซีตอบกลับด้วยสีหน้าบอกเป็นนัยทันที “สามีของข้าคือพ่อของไช่หยุน และว่ากันว่าเขาคือผู้ที่กลับมาเกิดใหม่จากโลกเบื้องบน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฟีนิกซ์แสงศักดิ์สิทธิ์รู้ได้ทันทีว่าสามีของหวงซีเป็นใคร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)