เมื่อเห็นว่าหวงซีสังหารเหล่าภูตผีและวิญญาณร้ายภายในระยะ 1,000 ลี้ได้ในพริบตา ขวัญและกำลังใจของกองทัพพันธมิตรก็พุ่งสูงขึ้นไปอีก
นี่มันดูว่างานนี้มันจะไม่ยากอย่างที่คิด!
หลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นท่าทางที่แสดงออกของเหล่าผู้คนเขารีบตะโกนขึ้นทันที “อย่าได้ประมาทเหล่าภูตผีและวิญญาณร้ายพวกนี้แม้แต่น้อย นี่มันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น พวกเจ้าทุกคนจงสู้ให้เต็มความสามารถที่สุดและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา หากพวกเจ้าทำได้ดีพอพวกเจ้าจะรอดจากศึกนี้ และชื่อของพวกเจ้าจะถูกจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์”
หลิงตู้ฉิงจำเป็นต้องเตือนพวกเขาพร้อมกับปลุกขวัญและกำลังใจไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งอันที่จริงหลิงตู้ฉิงไม่อยากจะเปิดเผยต่อพวกเขาว่าแท้จริงแล้วที่จุดกึ่งกลางของแดนกระดูกขาวนั้นยังมีวิญญาณปีศาจร้ายที่แข็งแกร่งซ่อนตัวอยู่ ซึ่งที่นั่นจะเป็นตัวบ่งบอกว่าพวกเขาจะสูญเสียมากหรือน้อย!
หลังจากหวงซีกวาดล้างเหล่าภูตผีและวิญญาณร้ายออกไปจนหมดในระยะ 1,000 ลี้ ซวนหยวนก็เข้ามาทำหน้าที่ทันที ซึ่งก็คือการขจัดพลังวิญญาณแห่งความตายที่หนาแน่นจนเห็นได้เป็นหมอกสีดำอย่างชัดเจนให้หมดไปเพื่อคืนสภาพแวดล้อมเดิมที่มันควรจะเป็นให้กลับมา
ในเวลาเดียวกัน กองทัพพันธมิตรก็ค่อย ๆ เดินหน้าเพื่อคอยสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง
หลิงว่านจุนสั่งให้กองทัพมังกรทั้งห้าแสนนายกลายเป็นมังกรตัวขนาดมหึมา และด้วยการเกื้อหนุนจากปราณมังกรจักรพรรดิที่มีอยู่ในตราประทับหยกของหลิงยี่เทียนและ ธงรบโลหิตจักรพรรดิ ความแข็งแกร่งของมังกรยักษ์จึงพุ่งขึ้นไปแตะที่ขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด
อย่างไรก็ตาม กองกำลังองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์กลับเหนือล้ำยิ่งกว่าซะอีก เมื่อพวกเขารวมร่างกันเป็นฟีนิกซ์ร่างยักษ์พลังของพวกเขานั้นก็กลายเป็นไม่ต่างอะไรกับผู้สำเร็จเต๋าแม้แต่น้อย
ส่วนทางด้านของกองทัพประจำการของภูเขาฟีนิกซ์ด้วยจำนวนที่มีถึง 10 ล้านนาย แถมสวมใส่อุปกรณ์ทั้งหมดที่มีคุณสมบัติธาตุแสง พวกเขาจึงมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากในการกำจัดเหล่าภูตผีและวิญญาณร้าย
นอกเหนือจากเหล่ากองกำลังที่สู้รวมกันเป็นกลุ่มก้อน ยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนที่พึ่งพาทักษะของตัวเองเพียงอย่างเดียวในการจัดการกับเหล่าภูตผีและวิญญาณร้าย
อี้ลั่วเอ๋อใช้ผีเสื้อยมโลกเริงระบำเปิดประตูยมโลกดูดเหล่าภูตผีและวิญญาณร้ายกลับไปสู่ยมโลกด้วยความเร็วเหนือบรรยาย
สาเหตุที่นางสามารถเปิดประตูยมโลกได้โดยไม่มีผลข้างเคียงอีกแล้วนั้นเป็นเพราะคทาในมือของนางที่นางถืออยู่
คทานี้คือสมบัติแห่งชะตาชีวิตของนาง ซึ่งหลิงตู้ฉิงเป็นคนสร้างให้และที่หัวคทานั้นมีอัญมณีที่ถูกสร้างขึ้นจากอักขระฑูตยมโลกที่เจ้าแห่งยมโลกเคยมอบเอาไว้ให้นาง
หรือถ้าจะให้พูดง่าย ๆ ก็คือตราบใดที่นางถือคทานี้ นางจะมีสิทธิ์อำนาจเหมือนของฑูตยมโลกทุกประการและสามารถส่งดวงวิญญาณร้ายเหล่านี้กลับยมโลกไปได้อย่างใจนึกโดยที่พวกมันไม่อาจขัดขืนได้
แต่คทานี้ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อน เพราะอย่างไรก็ตามอี้ลั่วเอ๋อก็ไม่ใช่ฑูตยมโลกที่แท้จริง ดังนั้นการใช้คทาเพื่อสั่งให้เหล่าวิญญาณร้ายกลับไปสู่ยมโลกมันจึงต้องใช้พลังวิญญาณของนางเอง ซึ่งเมื่อไหร่ที่พลังของนางหมด นางก็จะต้องพักเพื่อให้พลังของนางฟื้นฟูจากนั้นนางถึงจะสามารถเริ่มโจมตีได้ต่อ
ส่วนทางด้านของตงฟางจุน การรบครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะสามารถฆ่าได้อย่างใจนึกโดยที่ไม่ต้องปราณีใด ๆ ทั้งสิ้น เขาโคจรร่างกระบี่ของเขาจนถึงขีดสุดและใช้เจตจำนงกระบี่ทุกรูปแบบที่เขาฝึกฝนมา รวมไปถึงทุกเพลงกระบี่ของวิชาดาราโลหิตประสานกระบี่ที่เขารู้เพื่อทำลายเหล่าภูตผีและวิญญาณร้าย
ในทุกวินาทีที่ตงฟางจุนฆ่าล้างเหล่าภูตผีและวิญญาณร้าย ระดับการบ่มเพาะของเขาจะพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนในตอนนี้เขาได้ทะลวงขึ้นมาอยู่ที่ระดับสวรรค์สมบูรณ์เรียบร้อย ซึ่งหลังจากจบศึกนี้แน่นอนว่าระดับการบ่มเพาะของเขาจะต้องไม่ต่ำกว่าขอบเขตราชันเป็นแน่แท้ และเมื่อถึงเวลานั้น เขาอาจจะได้ความทรงในชาติก่อนที่เขาเป็นเทพกระบี่กลับมา
ส่วนทางด้านของหลิงตู้ฉิง ตอนนี้เขายังคงกวาดตามองไปรอบ ๆ แดนกระดูกขาวเพียงอย่างเดียวยังไม่ได้ลงมือทำอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)