บทที่ 94 สามสาวปรองดอง[รีไรท์]
บทที่ 94 สามสาวปรองดอง[รีไรท์]
หลังจากการปรากฏตัวของจ้าวเหมิงลู่ มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยก็รู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
พวกนางถูกกดดันด้วยฐานะของจ้าวเหมิงลู่ที่ล้วนเหมาะสมกับหลิงตู้ฉิงเช่นกิ่งทองและใบหยก
นางมีฐานะเป็นถึงหลานสาวของจ้าวปาเทียน ซึ่งเป็นอธิการบดีของสถาบันราชวงศ์ แถมยังเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับต้น ๆ ของทวีป และตระกูลจ้าวยังเป็นตระกูลที่เรียกได้ว่าแทบจะร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรจันทรา
พวกนางกังวลเป็นอย่างมาก แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะอนุญาตให้พวกนางอาศัยอยู่ในเรือน แต่ตอนนี้จ้าวเหมิงลู่กลับมาแล้ว ถ้าหากนายหญิงของที่นี่ไม่ยอมรับพวกนางขึ้นมา พวกนางทั้งคู่จะทำอย่างไร?
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พวกนางทั้งสองคนจึงเดินไปหาจ้าวเหมิงลู่ด้วยความกังวลใจและกล่าวทักทายด้วยความเคารพ “พวกเราขอคารวะนายหญิง!”
จ้าวเหมิงลู่ตะลึง “หืม พวกเจ้าเป็นใคร?”
จ้าวเหมิงลู่มองพวกนางอย่างละเอียด ดูจากลักษณะใบหน้าอันงดงามของพวกนางทั้งสองคน ดูแล้วพวกนางไม่เหมือนสาวใช้เลย แถมมี่ไลยังมีกลิ่นอายของสุภาพสตรีจากตระกูลชั้นสูงอีกต่างหาก
หลิวเฟ่ยเฟ่ยชี้ไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “เรียนนายหญิง ข้าชื่อ หลิวเฟ่ยเฟ่ย นะ..นายท่านได้ไถ่ตัวข้ามา…”
มี่ไลตอบเสียงเบา “นายหญิง…ข้าชื่อมี่ไล…ข้าเป็นคนของนายท่าน…”
แม้ว่ามี่ไลจะไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่จ้าวเหมิงลู่ก็เข้าใจแล้วว่านางหมายถึงอะไร
จ้าวเหมิงลู่ตะลึงไปชั่วขณะ นางโกรธ แต่ก็ยังยิ้มและพูดว่า “งั้นก็สวัสดี น้องสาวทั้งสอง!”
หลังจากทักทายมี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยเรียบร้อย จ้าวเหมิงลู่ก็หันค้อนไปทางหลิงตู้ฉิงด้วยความโกรธและตะคอกว่า “ตามข้ามา ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน!”
“ถ้าเจ้ามีอะไรเจ้าก็พูดตรงนี้สิ” หลิงตู้ฉิงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ข้าต้องการคุยกับท่านแค่สองคนเท่านั้น!”
หลิงตู้ฉิงเขารู้สึกว่าจ้าวเหมิงลู่ดูแปลก ๆ ไปแต่ก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมจ้าวเหมิงลู่ถึงโกรธ แต่เมื่อจ้าวเหมิงลู่ใช้น้ำเสียงหนักแน่นเช่นนั้นเขาจึงเดินตามนางเข้าไปในห้องด้วยอาการงุนงง
“ท่านพ่อกับท่านแม่กำลังจะทะเลาะกันแล้ว…” หลิงไช่หยุนพูดอย่างเป็นห่วง
มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยต่างประหม่ามาก พวกนางเข้าใจเป็นอย่างดีว่าจ้าวเหมิงลู่และหลิงตู้ฉิงจะต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องพวกนาง
ในห้อง หลิงตู้ฉิงถามด้วยความสับสน “เกิดอะไรขึ้น เจ้าอารมณ์เสียกับอะไรงั้นเหรอ?”
จ้าวเหมิงลู่ ทั้งรู้สึกโกรธและหึงขณะที่นางถามหลิงตู้ฉิง “ในเมื่อท่านต้องการแต่งงานกับข้า ทำไมท่านถึงยังพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในเรือนอีก! หรือไม่อย่างน้อย ๆ ท่านก็ควรจะให้เกียรติข้าสักหน่อยด้วยการขอความเห็นจากข้าให้ได้รู้เรื่องก่อน ไม่ใช่ต้องให้ข้ามาถามพวกนางเองแบบนี้!”
หลิงตู้ฉิงเมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวหมิงลู่เขาจึงพยักหน้าและกล่าวว่า “ก็ในเมื่อเจ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ข้าจะบอกเจ้าได้ยังไง แต่ก็ได้ หากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตข้าจะถามเจ้าก่อน”
“ในอนาคต?” จ้าวเหมิงลู่ขึ้นเสียงของนาง “แค่สองคนนี้ท่านยังไม่พออีกเหรอ และข้าถามหน่อยผู้หญิงอีกคนที่ปล่อยกลิ่นอายดูแข็งแกร่งมากที่อยู่ในลาน คนนั้นท่านก็จะเอามาเป็นผู้หญิงของท่านด้วยหรือไง?”
“นางชื่อเสี่ยวเยว่เฟิงและนางเป็นเพียงสารถี!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “นางเคยเป็นผู้นำกลุ่มเสื้อคลุมโลหิต ข้ายื่นข้อเสนออะไรบางอย่างให้นาง นางก็เลยมาเป็นสารถีให้ข้าแค่นั้น”
จ้าวเหมิงลู่เมื่อได้ยินว่าผู้หญิงที่ดูลึกลับและแข็งแกร่งผู้นั้นคือผู้นำกลุ่มเสื้อคลุมโลหิต นางถึงกับยืนตะลึงไปสักพัก
นางเองเคยได้ยินชื่อเสียงของผู้นำกลุ่มเสื้อคลุมโลหิตมาบ้าง คนผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตรวมแสงดารา แต่ทำไมผู้เชี่ยวชาญที่โด่งดังขนาดนี้ถึงมาเป็นสารถีให้หลิงตู้ฉิงได้ยังไง?
เมื่อยืนคิดได้สักพักจ้าวเหมิงลู่จึงรวบรวมสติและพูดว่า “สารถีเนี่ยนะ ใครจะเชื่อท่าน ข้าจะไปคุยกับพวกนาง หากมีอะไรที่ท่านปิดบังข้าอีกล่ะก็ ฮึ่ม!”
เมื่อพูดจบจ้าวเหมิงลู่ได้เดินกลับไปเรียกหามี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยให้ข้ามาคุยกันในห้องของนาง นางต้องการคุยเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจนถึงฐานะของนางที่ในตอนนี้นับได้ว่าเป็นภรรยาหลวงของหลิงตู้ฉิง นางต้องประกาศสิทธิ์ของตัวเองและในขณะเดียวกันก็ต้องการตรวจสอบผู้หญิงทั้งสองคนนี้ว่าเหมาะสมที่จะให้อยู่ใกล้กับหลิงตู้ฉิงต่อไปอีกไหม
มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยต่างรู้สึกหวาดกลัว เมื่อพวกนางเห็นจ้าวเหมิงลู่เรียกพวกนางเข้าไปคุยกันเป็นการส่วนตัวในห้องของจ้าวเหมิงลู่
เมื่อพวกนางเดินเข้ามาในห้องจ้าวเหมิงลู่นั่งลงกับเก้าอี้และมองหน้าพวกนาง
มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยที่ยังยืนอยู่ พวกนางโค้งคำนับ และเอ่ยทักทายขึ้นอีกครั้ง
“คารวะ นายหญิง” ทั้งสองคนก้มศีรษะลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)