ไป๋ฮุยหยวน กล่าวขึ้นอย่างหนักแน่นว่าเขาจะสู้แต่เมื่อเขาเห็นว่า เซียะซิงอี้ และ ติงหง ไม่สนับสนุนเขาเลยในท้ายที่สุดเขาจึงเงียบลงไปไม่กล้าพูดอะไรต่อ
หากเขาออกจากสำนักไปเขาก็ไม่สามารถพึ่งพาอาวุธเต๋าของสำนักได้อย่างมากที่สุดเขาก็ใช้ได้แค่อาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่มั่นใจเลยว่าจะเอาชนะ หลิงตู้ฉิง ได้ด้วยอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเห็นว่าในที่สุด ไป๋ฮุยหยวน เงียบลงไป เซียะซิงอี้ พูดขึ้นต่อว่า “เอาล่ะนี่คือเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นที่พวกเจ้าจำเป็นต้องรู้ ตอนนี้พวกเจ้าส่งคนไปตามเขามาได้แล้ว”
ในตอนนี้ไม่มีใครแย้งอะไรอีกแล้ว เพราะพวกเขาจะได้ทั้งอาณาเขตขนาดใหญ่ เคล็ดลับการบ่มเพาะร่างเบญจธาตุแถมแผนการผู้สำเร็จเต๋าของพวกเขาก็ยังคงทำได้ต่อไปดังนั้นมันจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเขาจะต้องเอ่ยแย้ง
หลังจากนั้นไม่นาน หลิงตู้ฉิง ก็ถูกเรียกเข้ามาที่ห้องโถงใหญ่ของสำนักเบญจธาตุ
“พวกเจ้าคงตกลงกันได้แล้วใช่ไหม?” หลิงตู้ฉิง ถามขึ้น
เซียะซิงอี้ พยักหน้าและพูดว่า “พวกเราคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคงต้องตกลงตามคำของผู้อาวุโส พวกเราหวังว่าผู้อาวุโสจะตอบแทนพวกเราตามที่ท่านพูดเช่นกัน”
หลิงตู้ฉิง ยิ้มและพูดว่า “พวกเจ้าสามารถใช้ประตูเคลื่อนย้ายเดินทางไปที่อาณาจักรจันทราได้เลย ยี่เทียน จะเป็นคนพาพวกเจ้าไปที่อาณาเขตที่ข้าเลือกไว้เอง แต่ข้าขอเตือนพวกเจ้าเอาไว้สักหน่อย อาณาเขตใด ๆ ก็ตามที่มีคนอาศัยอยู่ก่อนแล้วพวกเจ้าห้ามรุกรานพวกเขาเด็ดขาด เพราะพวกเขาคือคนของข้า ส่วนวิธีการบ่มเพาะร่างเบญจธาตุข้าจะถ่ายทอดให้กับพวกเจ้าตามสัญญา แต่พวกเจ้าที่บ่มเพาะเพียงธาตุเดียวมาโดยตลอดพวกเจ้าคงไม่สามารถบ่มเพาะมันได้สำเร็จ พวกเจ้าจงไปเฟ้นหาเด็กที่มีพรสวรรค์มาลองบ่มเพาะมันแทน ซึ่งในท้ายที่สุดแม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่แข็งแกร่งเท่าข้าแต่พวกเขาก็จะไม่ด้อยไปกว่าใครแน่นอน”
“ขออภัยที่ข้าขอถามแทรกสักหน่อย ผู้อาวุโส พวกข้าสามารถเดินทางไปที่ภูมิภาคอี้ซางได้จริง ๆ งั้นเหรอ?” เสี่ยหลี เอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย
หลิงตู้ฉิง พยักหน้า “พวกเจ้าเข้าไปได้แน่นอนตอนนี้ข้าได้ให้กองกำลังที่เป็นพันธมิตรกับข้าได้เข้าไปจับจองอาณาเขตในภูมิภาคอี้ซางแล้วมากมาย ส่วนพวกเจ้าเองเมื่อได้เข้าไปเห็นแล้วจะรู้เองว่าทรัพยากรของที่นั่นมันเหนือกว่าที่พวกเจ้าจินตนาการได้นักเพราะมันไม่เคยถูกแตะต้องเลยมานับล้านปี”
“แต่มันไม่ใช่ว่าภูมิภาคอี้ซางเป็นดินแดนต้องห้ามไม่ใช่เหรอ?” เสี่ยหลี ถามขึ้นอีกครั้ง
“อย่าอยากรู้ในเรื่องที่เจ้าไม่ควรจะรู้มันไม่เป็นผลดีต่อตัวเจ้าเองเปล่า ๆ” หลิงตู้ฉิง ตอบกลับ
“ข้าบอกเจ้าได้แค่ว่าภูมิภาคอี้ซางมีความเกี่ยวข้องกับตัวตนที่อยู่มาตั้งแต่บรรพกาลผู้หนึ่ง เอาล่ะเดี๋ยวข้าจะมอบตำแหน่งประตูเคลื่อนย้ายของอาณาจักรจันทราให้กับพวกเจ้าเพื่อที่พวกเจ้าจะได้เดินทางไปได้ทันที”
หลังจากนั้น หลิงตู้ฉิง ถ่ายทอดวิธีการบ่มเพาะร่างเบญจธาตุให้กับ เซียะซิงอี้ พร้อมกับบอกตำแหน่งประตูเคลื่อนย้ายของอาณาจักรจันทราไปพร้อม ๆ กันจากนั้น เขาพูดขึ้นต่อว่า “เอาล่ะหลังจากนี้ข้าก็จะไปเหมือนกันและเมื่อไหร่ที่ข้าพร้อม ข้าจะกลับมาที่สำนักของพวกเจ้าอีกรอบ แต่ข้าขอเตือนเอาไว้ก่อน หากในอนาคตเมื่อข้ากลับมาแล้วและพบว่ามหาวิถีเต๋าของพวกเจ้าทั้ง 5 ธาตุไม่เหมือนเดิม สำนักเบญจธาตุของพวกเจ้าก็ไม่มีความจำเป็นที่จะได้ดำรงอยู่ต่อไป”
เมื่อได้ยินคำพูดของ หลิงตู้ฉิง เช่นนี้ ไป๋ฮุยหยวน อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจด้วยความไม่พอใจแต่ก่อนที่เขาจะได้ทันพูดอะไร หลิงตู้ฉิง พุ่งตัวไปหาเขาภายในพริบตาและใช้นิ้วกรีดที่ข้างคอของเขาเบา ๆ แค่พอมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยจากนั้น หลิงตู้ฉิง พูดที่ข้างหูเขาว่า “อย่าได้คิดจะมาต่อกรกับข้า เจ้าไม่มีคุณสมบัติขนาดนั้น!”
เมื่อพูดจบร่างของ หลิงตู้ฉิง หายวับไปจากห้องโถงทันที
เมื่อเห็นความเร็วที่เหนือมนุษย์ของ หลิงตู้ฉิง เช่นนี้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงต่างเงียบลงด้วยอาการนิ่งอึ้ง
ด้วยระดับของพวกเขา พวกเขาสามารถบอกได้เลยว่านี่มัน คือการใช้ความเร็วล้วน ๆ ไม่ใช่ทักษะที่เกี่ยวกับมิติ
พวกเขามองตามไม่ทันความเร็ว หลิงตู้ฉิง เลยดังนั้นถ้าหาก หลิงตู้ฉิง เกิดโจมตีพวกเขาขึ้นมาจริง ๆ พวกเขาจะต้านทานยังไง?
ในเวลานี้ ไป๋ฮุยหยวน มีเหงื่อออกเต็มไปทั่วทั้งร่างพร้อมกับจับที่คอตัวเองตรงบริเวณที่โดน หลิงตู้ฉิง ใช้นิ้วกรีดพลางคิดในใจ
ถ้าหาก หลิงตู้ฉิง คิดจะฆ่าเขาจริง ๆ เขาคงตายโดยที่ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)