ตอน บทที่ 946 เดินทัพ จาก พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 946 เดินทัพ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ภาตใต้ชื่อเสียงของอาณาจักรจันทราและรางวัลล่อใจเป็นจำนวนมาก หลายสำนักในขณะนี้ต่างพากันเข้าร่วมกับหลิงยี่เทียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน ส่งผลให้สำนักหลายสำนักต่างร่วมแรงร่วมใจกันโต้กลับพวกอสูรจากทุกทิศทุกทางที่พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปจนการรุกรานของเหล่าอสูรหยุดชะงัก
“ฝ่าบาทตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่หันมาร่วมมือกันแล้ว เมื่อไหร่พวกเราจะลงมือบ้าง?” ฟู่เซียนถามหลิงยี่เทียน
หลิงยี่เทียนโบกมือและพูดว่า “ข้ายังจำเป็นต้องรอใครบางคนก่อน ว่าแต่กองทัพของพี่ฉิน พี่เจียง พี่ซ่ง เดินทัพกันรึยัง?”
แน่นอนว่า 3 คนที่เขาเอ่ยถึงคือ ฉินหวง เจียงหวง และ ซ่งว่านหลุน ผู้มีสายเลือดราชันมนุษย์แบบเดียวกับเขา
ฟู่เซียนพยักหน้าและพูดว่า “จักรพรรดิทั้งสามต่างเดินทางออกจากเมืองของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว แต่จักรพรรดิซ่งนั้นอยู่ในเขตแดนอุดรทมิฬ ซึ่งมันไกลเกินกว่าที่เขาจะสามารถยกทัพใหญ่มาได้สะดวก ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะยกทัพใหญ่ออกมาช่วย และตัดสินใจนำบรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของเขาออกมาช่วยรบเพียงอย่างเดียวแทน”
“ในเมื่อพวกเขาทั้งสามออกมาแล้ว ถ้างั้นก็นับได้ว่าเยี่ยมเลย!” หลิงยี่เทียนพยักหน้า
“ฝ่าบาท ข้าขอถามสักหน่อยจะได้หรือไม่ พ่อของท่านจะมาช่วยพวกเรารึเปล่า?” ฟู่เซียนเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
ถ้าหากหลิงตู้ฉิงร่วมรบด้วยการกำราบสันเขาหมื่นอสูรมันจะง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ตอนนี้หลิงตู้ฉิงไม่ปรากฏตัวเลยและก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน
หลิงยี่เทียนส่ายหัว “ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ส่วนคนที่ข้ากำลังรออยู่ก็คือพี่สามของข้า ซึ่งเขาเพิ่งส่งข่าวมาว่าเขาจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ ด้วยความสามารถของเขาพวกเราจะสามารถจัดการกับเผ่าอสูรได้ง่ายกว่าเดิม”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เซียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เพราะเขาเองนั้นเคยเห็นความสามารถอันแปลกประหลาดของหลิงเทียนหยุนเหมือนกัน และถึงแม้ว่ามันจะดูมหัศจรรย์ดีแต่ว่าระดับการบ่มเพาะของหลิงเทียนหยุนในตอนนี้ก็ไม่ได้สูง แล้วเขาจะมีผลต่อการรบมากมายได้ยังไง?
หลิงยี่เทียนเห็นสีหน้าที่งุนงงของฟู่เซียนเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ
หลังจากรอต่อไปอีก 2 ปี หลิงเทียนหยุนก็เดินทางมาพร้อมกับราชาเทพมารหกปรารถนาโดยผ่านมาทางประตูเคลื่อนย้าย ซึ่งสิ่งที่ทำให้หลิงยี่เทียนประหลาดใจก็คือครั้งนี้มีหญิงสาวเผ่ามนุษย์อีกคนหนึ่งตามหลิงเทียนหยุนมาด้วย แถมระดับการบ่มเพาะของนางนั้นอยู่ในระดับขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดอีกต่างหาก
แต่สิ่งที่ทำให้แปลกใจมากไปกว่านั้นก็คือระดับการบ่มเพาะของหลิงเทียนหยุน ในเวลานี้ได้พัฒนาขึ้นไปอยู่ที่ขอบเขตจักรพรรดิขั้นสูงสุดเรียบร้อยแล้ว แถมกลิ่นอายที่เขาปลดปล่อยออกมามันน่าเกรงขามกว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิซะอีก
มี่ไลมองไปที่ราชาเทพมารหกปรารถนาก่อน จากนั้นเมื่อนางมองไปที่หญิงสาวเผ่ามนุษย์ นางถึงกับขมวดคิ้วและพูดว่า “นี่ถ้าข้าดูไม่ผิด เจ้าบ่มเพาะเต๋าแห่งกาลเวลาใช่ไหม?”
หญิงสาวยิ้มและตอบกลับทันที “พี่สาวพูดถูกต้องแล้ว ข้าบ่มเพาะเต๋าแห่งกาลเวลาจริง ๆ”
“พี่สาว?” มี่ไลขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม
ราชาเทพมารหกปรารถนาอธิบายขึ้นทันที “นางเป็นร่างแยกอีกร่างของพี่สาวข้า(หยิงหยิง) ซึ่งบ่มเพาะเต๋าแห่งกาลเวลา นางมีฉายาว่าเจ้าปีศาจแห่งกาลเวลา”
มี่ไลพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้รู้ว่าแท้จริงหญิงสาวผู้นี้เป็นอะไร
ถึงแม้ว่าถ้าเทียบกับภูเขาฟีนิกซ์จำนวนของพวกเขาจะมีน้อยกว่า แต่เรื่องคุณภาพนั้นกองทัพของหลิงยี่เทียนจัดได้ว่าเหนือกว่าหลายระดับ เพราะคนส่วนในกองทัพของเขานั้นมีแต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงแถมยังมี ซวนหยวนที่เป็นผู้สำเร็จเต๋าและบรรดาภูตดินที่มีความแข็งแกร่งขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดหลายสิบตน
แน่นอนว่าตงฟางจุนและอี้ลั่วเอ๋อก็ไม่พลาดงานนี้เช่นกัน พวกเขาทั้งคู่ต่างเดินตามหลิงยี่เทียนไม่ห่าง
เมื่อกองทัพของหลิงยี่เทียนเดินทางไปถึงอาณาเขตที่อยู่ใกล้กับอาณาเขตวิญญาณโลหิต หมิงยู่และหนิงฉิงก็ปรากฏกายขึ้น
“นายน้อย ท่านกำลังมุ่งหน้าไปรบกับเผ่าอสูรใช่ไหม?” หมิงยู่ถามขึ้น
หลิงยี่เทียนยิ้มและถามกลับ “ถูกต้องแล้ว ว่าแต่ท่านมีปัญหาอะไรรึเปล่าทำไมจู่ ๆ ถึงออกมาหาข้าแบบนี้?”
หมิงยู่พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะขอติดตามไปช่วยท่านรบด้วย ก่อนหน้านี้ตอนที่ผู้ส่งสาสน์ของสำนักข้าลงมาจากโลกเบื้องบน เขาได้สร้างกรรมใหญ่โดยการเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตมากมายในอาณาเขตวิญญาณโลหิตรวมไปถึงคร่าชีวิตมนุษย์ด้วย ดังนั้นข้าขอใช้โอกาสนี้เป็นการทำความดีชดใช้ให้กับความสูญเสียที่เผ่ามนุษย์ได้รับและเมื่อไหร่ที่เผ่าอสูรถูกทำลาย ข้าจะทำตามคำชี้แนะของนายท่าน ซึ่งก็คือข้าจะย้ายสำนักไปตั้งที่เขตแดนอุดรทมิฬเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับเผ่ามนุษย์เกิดขึ้นอีก ข้าหวังว่านายน้อยที่เป็นราชันย์แห่งมวลมนุษย์จะอนุญาต”
หลิงยี่เทียนรีบตอบกลับทันที “ถ้างั้นข้าคงต้องขอรบกวนเจ้าสำนักหมิงด้วยก็แล้วกัน!”
แน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือที่หมิงยู่เสนอให้แน่นอน ส่วนเรื่องของการย้ายที่ตั้งสำนักนั้นเนื่องจากพ่อของเขาเป็นคนชี้แนะหมิงยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรมาก
หากสำนักวิญญาณโลหิตยังคงตั้งอยู่ที่นี่ต่อไป อีกไม่ช้าก็เร็วมันก็คงมีปัญหาอีก ดังนั้นมันจึงเป็นการดีที่สุดจริง ๆ หากหมิงยู่ย้ายสำนักไปที่เขตแดนอุดรทมิฬ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)