พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 959

สรุปบท บทที่ 959 ตำหนักเซียนมืด: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

สรุปตอน บทที่ 959 ตำหนักเซียนมืด – จากเรื่อง พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดย Internet

ตอน บทที่ 959 ตำหนักเซียนมืด ของนิยายActionเรื่องดัง พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากสังหารตี้จ้างเสร็จแล้ว หลิงตู้ฉิงจึงยกเลิกการควบคุมกังหันยักษ์ และทำให้มันหายไป ส่งผลให้ทุกสิ่งทุกอย่างของโลกภายนอกกลับมาอยู่ในสภาวะปกติเหมือนเดิม

ส่วนบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เมื่อครู่ได้ปลดปล่อยความรู้สึกอาฆาตของตัวเอง เมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติพวกเขาก็สัมผัสได้ว่าจิตใจของพวกเขาปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้นแถมยังรู้สึกเป็นมิตรกับสิ่งต่าง ๆ รอบกายมากขึ้นกว่าเดิม

หลายคนที่กำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายก็หยุดการต่อสู้ลง หลายอาณาจักรที่กำลังรบกันต่างก็พากันถอยทัพ แม้แต่การรบที่สันเขาหมื่นอสูรก็ไม่รุนแรงมากเท่าเดิม

แต่ถึงแม้ความรู้สึกอาฆาตจะน้อยลง แต่กองทัพพันธมิตรก็ยังคงล้อมสันเขาหมื่นอสูรเอาไว้เหมือนเดิม เพราะพวกเขามีเหตุผลที่มากพอในการที่พวกเขาต้องฆ่าล้างอสูรพวกนี้ให้ได้

ในเวลานี้หลังจากฆ่าตี้จ้างไปเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงเก็บอำนาจเต๋าสิบกว่ารูปแบบที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งเขาจงใจให้กังหันยักษ์เหลือพวกมันเอาไว้รวมไปถึงพลังวิญญาณบริสุทธิ์ส่วนหนึ่งที่เขาก็เหลือไว้เช่นกัน เพื่อใช้สำหรับเพิ่มระดับการบ่มเพาะของตัวเขาเอง

ในเวลาไม่นาน หลิงตู้ฉิงก็ดูดซับพลังวิญญาณบริสุทธิ์จนหมด ซึ่งมันทำให้ระดับการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นไปอยู่ขอบเขตราชันขั้นสูง แต่แล้วจากนั้นต่อมาไม่นานบนหัวของเขาก็มีแสงสีทองส่องประกาย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเขาได้รับรางวัลจากสวรรค์อีกรอบจากการสร้างคุณประโยชน์ให้กับโลกและสวรรค์

แน่นอนว่ารางวัลครั้งนี้ ง้าวพินาศเทวะก็ได้รับเหมือนเดิมเช่นกัน

แต่หลิงตู้ฉิงกลับไม่เลือกที่จะดูดซับพลังที่ได้จากสวรรค์ เขาโบกมือส่งพลังสวรรค์มอบให้กระจายไปหลอมรวมกับโลกและพูดว่า “ข้าได้รับประโยชน์ไปมากพอแล้ว และอีกอย่างหากไม่ใช่เพราะเจ้าช่วยเกื้อหนุนข้า ข้าก็คงไม่สามารถสำแดงอำนาจของวิชาข้าได้ด้วยระดับการบ่มเพาะที่ต่ำต้อยของข้าตอนนี้ ขืนข้ารับรางวัลนี้อีกข้าคงต้องติดค้างเจ้าไปอีก”

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนสังหารตี้จ้างลงได้ แต่เขาก็ได้รับส่วนแบ่งไปแล้ว ซึ่งก็คือเต๋าสิบกว่ารูปแบบรวมไปถึงพลังวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมาก ซึ่งมันทำให้ระดับการบ่มเพาะของเขาพัฒนาขึ้นไปอีก

เมื่อได้รับประโยชน์ไปแล้วขนาดนี้เขาจึงไม่อาจรับเพิ่มได้อีก

รางวัลหรือประโยชน์บางอย่างมันก็ไม่ควรที่จะหลับหูหลับตารับมาเพียงอย่างเดียว เพราะมันจะกลายเป็นผลเสียหากได้รับมามากเกินไป

หลังจากจัดการเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หลิงตู้ฉิงก็บินออกจากเหวมรณะทันที ซึ่งเมื่อเขาออกจากเหวมรณะเขาก็ได้รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ทางเหนือของภูมิภาคซ่งหยวน

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความมืดอันหนาแน่นที่รายล้อมอยู่รอบกาย หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ “นี่ข้าอยู่ในอาณาเขตแห่งความมืดงั้นเหรอ?”

อันที่จริงไม่ใช่แค่เพียงเขาอยู่ในอาณาเขตแห่งความมืด แต่เขายังโผล่มาใกล้ ๆ กับที่ตั้งของตำหนักเซียนมืดอีกต่างหาก

ผู้อาวุโสคนหนึ่งของตำหนักเซียนมืด ซึ่งทำหน้าที่คอยลาดตระเวนดูแลบริเวณรอบ ๆ เห็นการปรากฏกายของหลิงตู้ฉิงทันที เขารีบตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าดุดัน “เจ้าเป็นใคร…”

แต่แล้วเมื่อเขาจ้องดูดี ๆ และได้รู้ว่าคนที่เขากำลังเผชิญหน้าด้วยอยู่คือหลิงตู้ฉิง เขาอุทานขึ้นเสียงดังอย่างควบคุมไม่ได้ทันที “ไม่ไม่ไม่ไม่! เป็นไปได้ไม่ได้! ทุกคนเทพมรณะบุก!”

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นของของพวกตัวเอง ทั้งตำหนักเซียนมืดก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย บรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชัน ขอบเขตจักรพรรดิ ขอบเขตมหาจักรพรรดิ ต่างกรูกันบินออกจากตำหนักเซียนมืดตั้งท่ารับมือกับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

แต่สิ่งที่ทำให้หลิงตู้ฉิงประหลาดใจมากไปกว่านั้นก็คือ ในบรรดาผู้คนจำนวนมากของตำหนักเซียนมืดมีคนอยู่ผู้หนึ่งที่เป็นผู้สำเร็จเต๋า

“โอ้เจ้าเองเหรอที่เป็นผู้สำเร็จเต๋าคนที่สาม?” หลิงตู้ฉิงมองไปที่ผู้สำเร็จเต๋าของตำหนักเซียนมืด

ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงตอนนี้มีผู้สำเร็จเต๋าปรากฏขึ้น 4 คนเท่านั้น คนแรกคือจางจิงหง คนต่อมาคือ เย่เจียงไห่ ส่วนคนที่ 4 ก็คือ ซวนหยวน

หลิงตู้ฉิงนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าคนที่สามนั้นคือคนของตำหนักเซียนมืด

ผู้สำเร็จเต๋าของตำหนักเซียนมืดพยักหน้าและตอบกลับ “ถูกต้องแล้วข้าคือคนที่สามที่สำเร็จเต๋าในยุคนี้!”

ท่าทางการตอบของเขานั้นดูไม่เกรงกลัวหลิงตู้ฉิงแม้แต่น้อย ซึ่งในฐานะที่เขาสามารถเป็นผู้สำเร็จเต๋าคนที่สามมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีความมั่นใจขนาดนี้

“ไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าสวรรค์จะเป็นใจส่งเจ้ามาหาข้าแบบนี้ ข้ากำลังจะไปตามคิดบัญชีกับเจ้าอยู่พอดีที่เจ้าสังหารบรรพบุรุษของข้าไป ในเมื่อเจ้ามาที่นี่แล้วก็อย่าหวังจะได้จากไปอีกเลย จงอยู่ที่นี่เพื่อสำนึกผิดในสิ่งที่เจ้าทำไว้จนกว่าเจ้าจะตายซะ!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิคนหนึ่งตะโกนขึ้น

“หลังจากที่ศิษย์ได้รู้ว่าท่านอาจารย์เป็นใคร ศิษย์ก็เดินทางมาที่นี่ทันทีเพื่อมาฝึกฝนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” หนานกงหลิงเอ่ยขึ้น “แต่ศิษย์ของท่านผู้นี้ไร้ความสามารถ บ่มเพาะมานานหลายปีศิษย์ยังคงอยู่ในระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์อยู่เลย โปรดให้อภัยศิษย์ด้วยที่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวัง!”

“ลุกขึ้นเถอะ!” หลิงตู้ฉิงยิ้ม “การที่เจ้ามีจิตใจที่หาญกล้าขนาดนี้ นับจากนี้ไปข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์ที่แท้จริงของข้า ส่วนเรื่องระดับการบ่มเพาะเจ้าไม่ต้องห่วง หลังจากนี้มันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน”

“ขอบคุณท่านอาจารย์!” หนานกงหลิงลุกขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“นี่คือกระบี่คู่หยินหยางสลับฟ้า มันคืออาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดที่ข้าเตรียมเอาไว้ให้เจ้าโดยเฉพาะ ข้าจะมอบมันให้เจ้าเดี๋ยวนี้เพื่อเป็นรางวัลในความพยายามของเจ้า จงเอามันไปใช้และศึกษามันให้ดี” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ

จากนั้นหลิงตู้ฉิงมอบกระบี่คู่ขาวดำให้กับหนานกงหลิง ซึ่งรับพวกมันไปด้วยสีหน้าตื่นเต้นสุดขีด

การกระทำของศิษย์อาจารย์คู่นี้ทำให้ผู้คนของตำหนักเซียนมืดตกตะลึงและอิจฉาเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ศิษย์อาจารย์คู่นี้จะคุยกันราวกับว่าไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา หลิงตู้ฉิงกลับมอบอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ให้กับหนานกงหลิง ซึ่งมีระดับการบ่มเพาะแค่ระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์หรือขอบเขตสวรรค์ระดับ 6 เท่านั้น

แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิก็ยังไม่มีอาวุธระดับนี้ใช้เลยด้วยซ้ำ!

“หนานหลิง นี่เจ้าเป็นใครกันแน่?” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดผู้หนึ่งถามขึ้น

พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าอัจฉริยะของพวกเขาจะกลายเป็นศิษย์ของศัตรูพวกเขาแบบนี้ไปได้ และมันทำให้พวกเขาคิดไปกันเองว่าหลิงตู้ฉิงจะต้องเป็นคนส่งศิษย์ของตัวเองเข้ามาที่สำนักพวกเขาแน่นอนเพื่อวางแผนอะไรบางอย่าง

หนานกงหลิงประสานมือคารวะไปที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดที่ถามเขาและพูดว่า “เรียนเจ้าสำนัก ตัวตนที่แท้จริงของข้าคือ หนานกงหลิง จากตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ แต่ด้วยเหตุผลที่ร่างกายของข้านั้นมีทั้งธาตุมืดและธาตุแสงอยู่ในร่าง ข้าจึงจำเป็นต้องมาที่นี่เพื่อบ่มเพาะพลังธาตุมืดเพื่อทำให้พลังในร่างของข้าสมดุล ท่านเจ้าสำนัก ข้าขออภัยท่านด้วยจริง ๆ หากมีทางเลือกอื่นข้าก็ไม่อยากจะปิดบังท่านเช่นนี้”

เมื่อพูดจบ หนานกงหลิงก็เริ่มโคจรทั้งพลังธาตุแสงและธาตุมืดสลับกันไปให้กับคนอื่น ๆ ดูเพื่อเป็นการยืนยันคำพูดของเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)