เมื่อเห็นร่างกายของหนานกงหลิงมีแสงสีขาวและดำกระพริบสลับกันไปมาไม่หยุด ผู้คนของตำหนักเซียนมืดต่างแสดงสีหน้าโง่งมไปตาม ๆ กัน
เท่าที่พวกเขารู้ ธาตุแสงและธาตุมืดไม่เคยอยู่ร่วมกันได้มาก่อน แต่ตอนนี้ตัวตนของหนานกงหลิงกลับฉีกทุกความเชื่อที่พวกเขาเคยเข้าใจจนแหลกลาญ
ในตอนนี้ผู้คนของตำหนักเซียนมืดเริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับตัวตนของหนานกงหลิง หากพวกเขาสามารถเอาตัวหนานกงหลิงมาศึกษาในเรื่องนี้และสร้างคนที่เป็นเหมือนหนานกงหลิงเพิ่มขึ้นได้อีก ตำหนักเซียนมืดจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เจ้าตำหนักเซียนมืดพูดกับหนานกงหลิงทันที “ข้าไม่นึกเลยว่าแท้จริงแล้วเจ้าคือคนของตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ แต่ด้วยการที่เจ้าเป็นคนของตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์การที่เจ้าลอบเข้ามาบ่มเพาะในตำหนักเซียนมืดของข้าเช่นนี้มันถือว่าเป็นความผิดที่ใหญ่หลวง แต่ถ้าเจ้ายอมที่จะอยู่ที่นี่ต่อและสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อตำหนักเซียนมืด ข้าจะอภัยให้กับความผิดของเจ้าทั้งหมด”
หนานกงหลิงส่ายหัว “ผู้อาวุโส ข้าคงต้องขออภัยด้วย ข้าจำเป็นต้องปฏิเสธ ครอบครัวของข้าทั้งหมดคือคนของตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่สามารถย้ายมาอยู่ตำหนักเซียนมืดได้จริง ๆ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเจ้าตำหนักเซียนมืดเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจเช่นนี้ งั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดขึ้นว่า “ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าได้ทำอะไรที่มันเกินเลยไปหน่อยจะดีกว่า ไม่งั้นผลลัพธ์ที่เจ้าต้องเผชิญมันจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่”
เจ้าตำหนักเซียนมืดตอบกลับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเย็นชา “เทพมรณะ นี่มันไม่ใช่ยุคของเจ้า เจ้าควรจะเจียมตัวเองสักหน่อยไม่งั้นข้าจะทำให้ช่วงเวลาที่เจ้าถูกขังอยู่ที่นี่ไม่ต่างอะไรกับอยู่ในนรก!”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “นั่นมันก็นานเกินไป อย่างมากข้าคงอยู่ที่นี่แค่สักประมาณปีสองปี”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงใช้เจตจำนงของตัวเองตรึงร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันผู้หนึ่งของตำหนักเซียนมืดที่อยู่ใกล้ ๆ จากนั้นดึงตัวเขามาหาและพูดว่า “จงส่งพลังธาตุมืดที่อยู่ในร่างกายเจ้าพร้อมกับความเข้าใจในเต๋าแห่งธาตุมืดทั้งหมดไปให้กับศิษย์ของข้าเดี๋ยวนี้”
แน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันที่ถูกจับมาไม่ยอมแน่นอน เขาพยายามโคจรพลังของตัวเองขัดขืนทันที
เมื่อเห็นว่าคำพูดของตัวเองไม่ได้ผล หลิงตู้ฉิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ จากนั้นเขาใช้เจตจำนงของตัวเองสูบพลังธาตุมืดและความรู้ต่าง ๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันเข้าใจในเต๋าธาตุมืดส่งต่อไปให้กับหนานกงหลิงทันที
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงกล้าสูบพลังคนของพวกเขาแบบนี้ อารมณ์ของผู้คนตำหนักเซียนมืดต่างพุ่งทะลุจุดเดือดทันที โดยเฉพาะผู้สำเร็จเต๋าตำหนักเซียนมืด เขาตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล “เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำอะไรเจ้างั้นเหรอ? ข้าจะให้เจ้าเผชิญกับความน่ากลัวของพลังแห่งความมืดที่แท้จริง! คำพิพากษาแห่งความมืด!”
ในเวลาเดียวกับที่ผู้สำเร็จเต๋าลงมือ หลิงตู้ฉิงควักง้าวเทวะพินาศมาไว้ในมือ จากนั้นเขาปักมันลงไปที่พื้นพร้อมกับตะโกนว่า “ในนามของข้า ข้าขอโมฆะเต๋าแห่งความมืดที่อยู่ในที่แห่งนี้ทั้งหมด!”
ในตอนนี้เมื่อเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันขั้นสูงแล้ว เขตแดนประกาศิตของเขาจึงยิ่งมีอำนาจมากขึ้นไปกันใหญ่
อย่าว่าแต่ผู้สำเร็จเต๋าที่ไม่สามารถทำลายเขตแดนของเขาได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญก็ได้แต่ยืนคอตกเมื่อเจอกับเขาตอนนี้
ภายใต้อำนาจของเขตแดนประกาศิต บรรดาผู้คนของตำหนักเซียนมืดต่างตื่นตระหนกกันยกใหญ่ เพราะพวกเขาสัมผัสได้ทันทีว่าจู่ ๆ เต๋าแห่งความมืดที่พวกเขาเคยพึ่งพิงตอนนี้มันก็หายไปจนหมด
พวกเขาต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าโง่งมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แม้แต่ผู้สำเร็จเต๋า ซึ่งมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมากยังรู้สึกโง่งมไปเช่นกัน เขารีบตวาดขึ้นทันที “นี่เจ้าทำอะไรลงไป!? รีบคืนเต๋าแห่งความมืดของพวกข้ามาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นข้าฆ่าทั้งเจ้าและศิษย์ของเจ้าแน่!”
หลิงตู้ฉิงจ้องไปที่ผู้สำเร็จเต๋าและพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่อยากตายก็หุบปากไปซะ ไม่งั้นเจ้าจะได้เป็นผู้สำเร็จเต๋าคนแรกของยุคที่ตายลง เจ้ามันก็แค่ผู้สำเร็จเต๋าหน้าใหม่กระจอก ๆ อย่าได้คิดจะมาเทียบตัวเสมอข้า ข้าจะบอกให้รู้ไว้การฆ่าเจ้ามันไม่ได้ยากไปกว่าการพลิกฝ่ามือเลยสำหรับข้า! และถ้าเจ้ายังไม่มอบแก่นแท้พลังธาตุไม้มาให้ข้า ข้าจะจับคนของเจ้ามาสูบพลังให้กับศิษย์ของข้าเรื่อย ๆ จงจำเอาไว้ทุกนาทีที่เจ้าพยายามถ่วงเวลาไม่มอบมันให้ข้า ตำหนักเซียนมืดของเจ้าจะยิ่งเสียหายมากขึ้นเรื่อย ๆ!”
สีหน้าผู้คนของตำหนักเซียนมืดรวมไปถึงผู้สำเร็จเต๋ากลายเป็นน่าเกลียดเป็นอย่างมาก ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถใช้พลังแห่งความมืดได้เลย พวกเขาไม่รู้จะเอาอะไรไปต่อกรกับเทพมรณะผู้นี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)