บทที่ 96 ข้าต้องการซื้อคฤหาสน์ให้พวกเขา![รีไรท์]
บทที่ 96 ข้าต้องการซื้อคฤหาสน์ให้พวกเขา![รีไรท์]
คฤหาสน์ตระกูลหลิง ณ เมืองหลวง
หลิงเจิ้งสง ในเวลานี้ได้ทราบข่าวเหตุการณ์ที่เมืองฟินิกซ์จากหลิงฉิงเฟิงแล้ว แต่อันที่จริงเขาเองได้ส่งผู้เชี่ยวชาญอีกกลุ่มหนึ่งไปที่เมืองฟินิกซ์อย่างลับ ๆ เพื่อจับตาดูความเป็นไปที่เรือนหลิงด้วยเช่นกัน เขาจึงได้ยินข่าวของทุกเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่หลิงฉิงเฟิงจะมารายงานแก่เขาเสียอีก
ความคิดของหลิงเจิ้งสงนั้นไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับแส้หางม้านั่นสักเท่าไหร่ เขาให้ความสนใจกับความแข็งแกร่งของหลิงตู้ฉิงที่ระดับของเขาเลื่อนไปอย่างก้าวกระโดดมากกว่า
“ข้าก็นึกว่าข้าจะต้องลงมือช่วยเหลือเขาด้วยตัวเองซะแล้ว ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเขาจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ด้วยตัวเองทั้งหมดได้ แถมนังหนูตระกูลจ้าวยังประกาศตัวว่าเป็นภรรยาของเขาด้วยซะอีก สงสัยว่าในไม่ช้านี้ข้าคงจะได้เจอกับเขาที่เมืองหลวงแน่นอน” หลิงเจิ้งสงพึมพำกับตัวเอง
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาจึงเรียกหลิงเล่อชานเข้ามาหา
เมื่อหลิงเล่อชานเข้ามายังห้องทำงานของหลิงเจิ้งสง เขาจึงถามขึ้น “ท่านพ่อมีเรื่องอะไรงั้นเหรอถึงเรียกข้ามา?”
หลิงเจิ้งสงมองหน้าลูกชายเขาและสั่งขึ้น “เจ้าจงไปซื้อคฤหาสน์สราญรมย์ให้ข้าที”
หลิงเล่อชานเมื่อได้ยินคำสั่งของพ่อเขา เขายืนตะลึงไปชั่วครู่และเอ่ยถามขึ้น “ท่านพ่อ ท่านจะซื้อคฤหาสน์สราญรมย์ไปทำไมกัน? หรือว่าท่านจะมีภรรยาใหม่? แต่ถึงท่านจะถูกใจนางมากจริง ๆ ท่านก็ไม่ควรจะต้องลงทุนถึงขนาดนี้นะท่านพ่อ!”
“ไอ้ลูกเวร! แกพูดเพ้อเจ้ออะไรของแกกัน! หลานของแกกำลังจะมาที่เมืองหลวงต่างหาก ข้าแค่ต้องการซื้อคฤหาสน์หลังนี้ให้เขาอยู่เท่านั้น!” หลิงเจิ้งสงตวาดใส่ลูกของเขาด้วยความเหนื่อยใจ
เมื่อได้ยินเหตุผลเช่นนี้หลิงเล่อชานจึงตอบพ่อของเขาอย่างทันควัน “ท่านพ่อ! ท่านจะลำเอียงมากไปหน่อยแล้ว นี่ท่านถึงกับจะซื้อคฤหาสน์สราญรมย์ให้กับเขาแค่เพียงเพราะเขากำลังมาเยือนเมืองหลวงเนี่ยนะ ท่านรู้ไหมว่าคฤหาสน์นั่นมันราคาเท่าไหร่!?”
หลิงเล่อชานเมื่อเห็นพ่อเขายังไม่พูดอะไรตอบ หลิงเล่อชานจึงเริ่มพูดต่อ “ท่านพ่อ คฤหาสน์นั่นแค่ราคาประเมินของมันก็ปาเข้าไปตั้ง 10 ล้านเหรียญทองเชียวนะ ท่านพ่อ 10 ล้านเหรียญนะไม่ใช่ 1 ล้านแถมราคานี้ยังเป็นแค่ราคาประเมินเท่านั้น! ต่อให้ตระกูลเราจะร่ำรวยก็จริงแต่อยู่ดี ๆ การนำเงินออกมาใช้ตั้งหลัก 10 ล้านเหรียญทองมันออกจะเกินไปหน่อยนะท่านพ่อ! ข้าคิดว่าเมื่อพวกเขามาถึง ท่านก็ให้พวกเขาพักกับพวกเราไปก่อนที่คฤหาสน์นี้ไง ตอนนี้มีห้องเหลือว่างอยู่ตั้งมากมาย จากนั้นหากพวกเขาอยากจะย้ายไปอยู่กันลำพังเราก็ค่อยหาซื้อคฤหาสน์ที่มันถูก ๆ กว่านั้นหน่อยก็ได้นี่ท่านพ่อ”
“เจ้าไม่เข้าใจหรอก” หลิงเจิ้งสงพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ฟังคำสั่งของข้าอีกครั้งนะ เจ้าต้องซื้อคฤหาสน์นั่นให้ได้เร็วที่สุด พวกเขาน่าจะเริ่มออกเดินทางในไม่กี่วันนี้ เมื่อพวกเขามาถึง ข้าต้องการเห็นพวกเขาได้เข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์นั่นทันที หากเจ้าไม่เชื่อฟังข้า เจ้าก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าพ่ออีกต่อไป!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลิงเล่อชานนั้นทั้งโมโหทั้งอิจฉา “ท่านพ่อ ท่านจะมากเกินไปแล้วนะ! ข้าเป็นลูกแท้ ๆ ของท่านนะ นี่เพื่อหลานเพียงคนเดียวท่านถึงกับขู่ว่าจะตัดลูกตัดพ่อกับข้าเลยงั้นเหรอ และที่สำคัญ กับลูกของข้าเองที่เป็นหลานของท่านเหมือนกัน ท่านยังไม่เอาอกเอาใจถึงขนาดนี้เลย นี่ท่านเป็นอะไรของท่านกันแน่!”
หลิงเจิ้งสงคิ้วเริ่มขมวดกับคำพูดของลูกชายของเขา “เจ้านี่บ่นมากจริง ได้! หากในวันพรุ่งนี้ข้ายังไม่เห็นโฉนดของคฤหาสน์สราญรมย์ตรงหน้าข้า ข้าตาแก่ผู้นี้จะเอาสมบัติระดับวิญญาณไปแลกมันมาด้วยตัวข้าเอง! อย่าคิดนะว่าข้ายกกิจการทั้งหมดของตระกูลให้เจ้าดูแลแล้ว ข้าจะไม่มีสมบัติเหลือเก็บของข้าบ้าง ฮึ่ม!”
หลิงเล่อชานเมื่อได้ยินคำขาดของพ่อเขาแบบนี้ เขาจึงเสียงอ่อนรีบห้ามทันที “เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน ท่านพ่อเราค่อย ๆ คุยกันก่อน สมบัติเหล่านั้นมันเป็นของที่ท่านสะสมมาตั้งนานไม่ใช่หรือ ท่านใจเย็นก่อน ๆ เดี๋ยวข้าจะส่งคนไปจัดการเรื่องคฤหาสน์เดี๋ยวนี้แหละ แต่ท่านพ่อ ท่านควรจะให้คำอธิบายอะไรกับข้าบ้างไม่ได้งั้นเหรอเกี่ยวกับเรื่องของหลานท่านคนนี้…”
หลิงเจิ้งสงเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาพยักหน้าด้วยความพอใจจากนั้นจึงพูดขึ้น “ข้าจะให้เหตุผลเจ้าก็ได้ และเหตุผลนั้นคือทั้งอำนาจและความมั่งคั่งทั้งหมดที่เรามีในวันนี้ล้วนเป็นเพราะพ่อและแม่ของหลิงตู้ฉิง!”
หลิงเจิ้งสงตัดจบเหตุผลแค่เพียงเท่านั้น เขาไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติมถึงเรื่องความลับของเขากับพ่อแม่ของหลิงตู้ฉิง
หลิงเล่อชานที่ได้ยินเหตุผลกลับยิ่งไม่เข้าใจหนัก เขาเหม่อมองไปยังพ่อของเขาอยู่สักพักจนในที่สุดก็ส่ายหัวและเดินออกไปจากห้องทำงานของหลิงเจิ้งสง จากนั้นหลิงเล่อชานจึงสั่งให้คนของเขารีบไปติดต่อขอซื้อคฤหาสน์สราญรมย์ทันที
ตัดกลับมาที่ตระกูลมี่
มี่ตั้วตั้วในเวลานี้เมื่อได้ทราบข่าวจากลูกสาวของเขาว่ากำลังจะไปเมืองหลวงกับหลิงตู้ฉิง เขาก็ยิ้มหน้าบานไม่หุบ “ไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าตระกูลมี่ของข้าจะได้เกี่ยวดองกับสองตระกูลยักษ์ใหญ่ของอาณาจักร ฮ่าฮ่าฮ่า”
มี่ไลเมื่อได้ยินพ่อของนางพูดเช่นนี้นางจึงทำหน้าตาเหนื่อยใจไม่รู้จะพูดอะไรกับพ่อของนาง
นางจึงหันไปคุยกับแม่นางได้สักพัก จากนั้นนางจึงร่ำลาพ่อแม่ของนาง “ท่านพ่อ ท่านแม่ ถึงแม้ว่าข้าจะยังไม่ได้มีอะไรกับเขา แต่เขาก็นับว่าข้าเป็นหนึ่งในผู้หญิงของเขาแล้วเช่นกัน ฉะนั้นการที่ข้าไปเมืองหลวงรอบนี้ข้าอาจจะไม่ได้กลับมาเจอพวกท่านอีกนาน ข้าขอให้พวกท่านรักษาตัวด้วย”
“เจ้ารีบ ๆ กลับไปได้แล้ว และอย่าลืมล่ะ หากเจ้ายังมีลูกให้เขาไม่ครบโหลเจ้าไม่ต้องกลับมาที่ตระกูล ฮ่าฮ่าฮ่า!” มี่ตั้วตั้วหัวเราะอย่างเบิกบานพร้อมกับโบกมือไล่มี่ไลให้จากไป
มี่ไลที่เห็นอาการเช่นนี้ของมี่ตั้วตั้ว นางจึงกระทืบเท้าออกไปด้วยความโมโห แต่ก่อนที่นางจะพ้นประตูออกไปมี่ตั้วตั้วได้ตะโกนไล่หลังของนาง
“เจ้าจงดูแลตัวเองให้ดีเมื่ออยู่ที่นู่นล่ะ เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องข้ากับแม่ของเจ้า ไม่นานหรอกเดี๋ยวเจ้าก็ได้เจอหน้าข้ากับแม่ของเจ้าที่เมืองหลวง พวกข้าจะตามเจ้าไปที่นั่นเร็ว ๆ นี้แหละ แผนการขายโอสถกำเนิดรากฐานของเรา ข้าคิดไว้แล้วว่าเราจะเปิดตัวครั้งแรกที่เมืองหลวง เราจะอาศัยอิทธิพลของตระกูลหลิงและตระกูลจ้าว สร้างรากฐานของเราเองที่นั่น เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน ตระกูลมี่ของเราจะต้องรุ่งโรจน์ไปอีกนานแสนนาน เดินทางดี ๆ ล่ะลูกสาวที่รักของข้า…”
มี่ไลเมื่อนางได้ยินคำพูดของพ่อนางเช่นนี้ นางจึงรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ นางหันกลับมาโค้งคำนับให้พ่อแม่ของนางอีกครั้ง และจากนั้นจึงหมุนตัวเดินออกจากประตูไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)