“ท่านแม่ พวกท่านมาแล้ว!” หลิงยี่เทียนโค้งคารวะทักทายบรรดาแม่ของเขาทันทีเมื่อเขาเห็นพวกนางมาถึง
ในขณะเดียวกันผู้คนของกองกำลังอื่น ๆ ต่างก็เห็นการมาถึงของพวกนางเช่นกัน ซึ่งมันทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึงที่เห็นว่าแท้จริงแล้วอาณาจักรจันทรายังมีไพ่ลับที่น่ากลัวซ่อนอยู่!
พวกเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าหญิงสาวกลุ่มใหม่ที่ปรากฏกายขึ้นตอนนี้นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
พวกนางบางคนมีปราณกระบี่ที่แหลมคมราวกับว่าสามารถตัดได้ทุกอย่างบนโลก อีกคนก็ให้ความรู้สึกที่หนาวเหน็บจนเกินบรรยาย อีกคนก็ให้ความรู้สึกราวกับเวลารอบข้างนางถูกบิดเบือน…
“พ่อของเจ้ายังไม่มาอีกงั้นเหรอ?” จ้าวเหมิงลู่เอ่ยถามขึ้น
หลังจากหลายปีผ่านไป ในตอนนี้เจตจำนงกระบี่ของนางบรรลุไปถึงระดับสูงเรียบร้อยและเต๋ากระบี่ของนางก็ล้ำลึกซะจนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิบางคนยังเทียบไม่ได้กับนางด้วยซ้ำในเรื่องเต๋ากระบี่ ส่วนระดับการบ่มเพาะของนางในตอนนี้นั้นได้ทะลวงขึ้นมาอยู่ขอบเขตจักรพรรดิแล้วเรียบร้อย
“เรียนท่านแม่ ตอนนี้ท่านพ่อยังไม่กลับมา” หลิงยี่เทียนตอบกลับ “แต่ก่อนหน้านี้ท่านพ่อได้ส่งข่าวมาแล้วว่าอีกไม่นานเขาก็จะกลับมาถึง”
ถึงแม้ว่าหลิงยี่เทียนจะเข้าใจว่าอีกไม่นานหลิงตู้ฉิงจะกลับมา แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือตอนนี้หลิงตู้ฉิงยังไล่กวดผู้ส่งสาสน์ที่บ่มเพาะเต๋ามิติอยู่เลย
“หากเป็นก่อนหน้านี้ข้าคงไล่ตามเจ้าไม่ทันแน่นอน แต่ตอนนี้ข้ามั่นใจว่าเจ้าไม่รอดเงื้อมมือของข้าแน่!” หลิงตู้ฉิงตะโกนขึ้น
“ผู้อาวุโส ท่านทำแบบนี้มันไม่น่าเกลียดไปหน่อยเหรอ! ตัวตนระดับท่านกลับมารังแกชนรุ่นหลังอย่างข้าแบบนี้ท่านไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้างรึไง?” ผู้ส่งสาสน์ตะโกนกลับด้วยสีหน้ามืดหม่น
ร่างหลักที่อยู่บนโลกเบื้องบนของเขาไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก เขาเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดเท่านั้นเอง แต่ด้วยเต๋าที่เขาบ่มเพาะคือเต๋ามิติ ดังนั้นสำนักของเขาจึงส่งเขาลงมาเพราะมั่นใจว่าต่อให้เขาจะมีระดับการบ่มเพาะไม่สูงนัก แต่ด้วยทักษะด้านมิติเขาสามารถเอาตัวรอดได้ดีกว่าคนอื่น ๆ แน่นอน
แน่นอนว่าถ้าเขาเจอกับคนอื่นมันคงไม่เป็นอะไร แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาดันมาเจอกับหลิงตู้ฉิง ซึ่งในเวลานี้หลิงตู้ฉิงก็สามารถใช้เต๋ามิติได้เหมือนกัน
หลิงตู้ฉิงหัวเราะขณะไล่ตามผู้ส่งสาสน์อย่างไม่ลดละ “ทำไมการกระทำของเจ้าเมื่อครู่มันไม่เห็นเหมือนกับคำพูดของเจ้าตอนนี้เลยล่ะไอ้หนู!”
เมื่อครู่ในตอนที่พวกเขาพบหน้ากัน ผู้ส่งสาสน์โอ้อวดพลังของเขาโดยการโจมตีหลิงตู้ฉิงและหนีเข้าไปในรอยแยกมิติทันที เนื่องจากเขาเข้าใจว่าหลิงตู้ฉิงนั้นไม่มีความรู้เรื่องเต๋ามิติเหมือนกับเมื่อก่อน
ทุกคนที่อยู่บนโลกเบื้องบนต่างรู้จุดอ่อนนี้ของหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างดี เป็นที่รู้กันในหมู่คนทั่วไปว่าหากผู้เชี่ยวชาญคนไหนบ่มเพาะเต๋ามิติ โอกาสที่เขาจะหนีรอดจากเงื้อมมือของหลิงตู้ฉิงจะมีมากกว่าคนทั่วไปเป็นสิบเท่า
อย่างไรก็ตาม ในชีวิตนี้หลิงตู้ฉิงมีลูกสาวที่เชี่ยวชาญเต๋ามิติและเขาก็พยายามสังเกตเวลาหลิงฟ่างหัวบ่มเพาะมาโดยตลอด รวมไปถึงเขายังเคยเอาเลือดของหลิงฟ่างหัวไปให้ง้าวเทวะพินาศศึกษาเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นมันจึงไม่แปลกเลยที่ตอนนี้เขาจะสามารถใช้เต๋ามิติได้อย่างคล่องแคล่ว
ในเวลาไม่นานผู้ส่งสาสน์ที่ใช้เต๋ามิติก็ถูกหลิงตู้ฉิงจับตัวได้ และแน่นอนว่าชะตากรรมของเขาก็เหมือนกับผู้ส่งสาสน์คนอื่น ๆ ซึ่งก็คือถูกหลิงตู้ฉิงสกัดจนเหลือแค่พลังวิญญาณบริสุทธิ์และอำนาจของเต๋าเท่านั้น
“เอาล่ะ ในเมื่อตอนนี้ข้าได้เต๋ามิติมาแล้วมันก็คงถึงเวลาที่ข้าต้องกลับไปคิดบัญชีกับพวกอสูรแล้วล่ะนะ!” หลิงตู้ฉิงพูดกับตัวเอง จากนั้นเขาบินมุ่งหน้าไปที่สันเขาหมื่นอสูรด้วยความเร็วสูงสุดทันที
“เจ้าพร้อมรึยัง?” หลิงตู้ฉิงปรากฏกายขึ้นตรงหน้าหลิงยี่เทียน และถามขึ้นโดยที่ลูกชายของเขายังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขามาถึงแล้ว
“ท่านพ่อ!” หลิงยี่เทียนตื่นตกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ พ่อของเขาก็โผล่มาแบบไม่มีสุ้มเสียงเช่นนี้ “ในที่สุดท่านก็กลับมาจนได้ ข้าลุ้นแทบตายว่าเมื่อไหร่ท่านจะกลับมา!”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “พ่อรู้ว่าเจ้าร้อนใจอยากรีบช่วยอาณาจักรผู้กล้าไว ๆ เอาล่ะตอนนี้เจ้าไปเตรียมการบุกได้แล้ว เมื่อเจ้าพร้อมเมื่อไหร่เจ้าสามารถสั่งให้ทุกคนบุกได้เลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)