บทที่ 98 ความบังเอิญ[รีไรท์]
บทที่ 98 ความบังเอิญ[รีไรท์]
หยุนตงไห่หลี่ตามองอย่างระมัดระวังแต่เมื่อเขาเห็นผู้นำกองทหารที่คุ้นเคย เขาจึงตะโกนขึ้นอย่างเร่งรีบ “ท่านอาหลิง!”
เมื่อผู้นำกองทหารที่ขี่ม้าอยู่ด้านหน้ากองทหารหยุดม้าของเขา เสียงฝีเท้าทั้งหมดของกองทหารที่กำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจึงหยุดกะทันหันเช่นกัน ผู้นำกองทหารที่ถูกเรียกได้มองไปยังหยุนตงไห่และถามขึ้น “เจ้าเรียกข้าทำไม?”
หยุนตงไห่ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านอาหลิง ท่านกำลังจะไปไหนงั้นเหรอ ถึงได้นำกองกำลังทหารจำนวนมากออกมาเช่นนี้”
“ข้ากำลังจะไปรับคน!” แม่ทัพพูดอย่างรวบรัด
หยุนตงไห่เมื่อได้ยินเช่นนั้นในใจเขาเริ่มรู้สึกเบิกบาน “ท่านอาหลิง มีคนต้องการจะฆ่าข้า ท่านช่วยข้าจัดการกับพวกมันได้หรือไม่ ความกล้าหาญของท่านเป็นที่รู้จักไปทั่วอาณาจักร ดังนั้นการช่วยเหลือข้าเพียงเล็กน้อยเช่นนี้จึงง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ หากท่านสามารถช่วยข้าได้ ข้าจะให้ท่าน 1 ล้านเหรียญทอง!”
ผู้นำกองทหารเมื่อได้ยินคำว่า 1 ล้านเหรียญทองเขาก็เริ่มมีความสนใจ แต่เขาควบคุมน้ำเสียงตอบกลับไปเป็นโทนเรียบเฉย “อืม…เนื่องจากคนที่ข้ากำลังจะไปรับน่าจะยังมาไม่ถึงเร็ว ๆ นี้ ข้าคิดว่าข้าอาจจะเจียดเวลาไปสะสางปัญหาให้เจ้าก่อนคงจะได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เอาล่ะ คนที่เจ้าต้องการจัดการอยู่ที่ไหน?”
หยุนตงไห่เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตาของเขาก็เริ่มเปล่งประกายเบิกบาน “ท่านอาหลิง พวกมันนั่งรถม้าไปทางด้านโน่นแล้ว พวกท่านตามข้ามาได้เลย!”
“นำทางไป!” หลังจากพูดจบผู้นำกองทหารกระแทกโกลนเข้าหาสีข้างม้าเพื่อบังคับให้ม้าเริ่มออกวิ่ง บรรดาทหารเมื่อเห็นเจ้านายตัวเองเริ่มนำไปพวกเขาจึงเริ่มวิ่งตามไปเป็นระเบียบ เสียงฝีเท้าที่คล้องจองกันจึงดังขึ้นอีกครั้ง
หยุนตงไห่ที่กำลังนำคนของเขาวิ่งมุ่งหน้านำไปอย่างรวดเร็วได้สักพัก พวกเขาก็เห็นด้านหลังรถม้าสีดำคู่อาฆาตของพวกเขาอยู่ลาง ๆ ที่สุดถนน
หยุนตงไห่เมื่อเห็นรถม้าเขาจึงชี้นิ้วบอกกับผู้นำกองทหารทันที “ท่านอาหลิง พวกมันอยู่ในรถม้านั่น!”
ผู้นำกองทหารเมื่อเห็นเช่นนั้นเขาพยักหน้าและโบกมือสั่งเหล่าทหาร “พวกเจ้ารีบวิ่งนำไปล้อมรถม้านั่นไว้!”
บรรดาทหารเมื่อได้ยินคำสั่งของนายพวกเขา พวกเขาจึงรีบเร่งฝีเท้าไปดักหน้ารถม้าและตั้งกระบวนรบล้อมรอบรถม้าไว้อย่างหนาแน่น
เสี่ยวเยว่เฟิงเมื่อเห็นมีคนมาล้อมรอบรถม้านางอีกครั้ง นางจึงเริ่มปล่อยกลิ่นอายสังหารออกมาทันที นางตั้งใจว่ารอบนี้หากคุยกันไม่รู้เรื่องจริง ๆ นางจะสังหารคนทั้งหมดอย่างไร้ปราณี ไม่ให้เหลือรอดเหมือนคราวที่แล้ว
“พวกเจ้าอยากจะตายกันจริง ๆ นักใช่ไหม!?” เสี่ยวเยว่เฟิงถามพร้อมกับเริ่มโคจรพลังวิญญาณเตรียมออกกระบวนท่าสังหาร
แต่เมื่อผู้นำกองทหารเห็นเสี่ยวเยว่เฟิง เขาก็ตกตะลึงทันทีและถามว่า “เจ้าเป็นผู้นำกลุ่มเสื้อคลุมโลหิตใช่ไหม?”
เสี่ยวเยว่เฟิงหัวเราะเบา ๆ “ในเมื่อเจ้ารู้จักข้าก็ดีแล้ว จงบอกให้คนของเจ้าไสหัวหลบทางของข้าไปให้หมด ไม่งั้นวันนี้ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมดทุกคนตรงนี้!”
ผู้นำกองทหารที่สัมผัสได้ถึงไอสังหารของเสี่ยวเยว่เฟิง เขารู้ได้ทันทีว่านางเอาจริงตามที่นางพูดแน่ ผู้นำกองทหารเมื่อเห็นเช่นนี้เขาจึงหัวเราะชอบใจและพูดขึ้นว่า “ข้าว่าเจ้าควรใจเย็น ๆ ก่อน ข้ากับนายของเจ้าเราเป็นญาติกัน ข้าหลิงฉุยฟงเป็นอาสามของเขาเอง”
หยุนตงไห่เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงฉุยฟงเขาถึงกับยืนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เขาถามด้วยความประหลาดใจ “ทะ ท่านอาหลิง อย่าบอกนะว่าคนพวกนี้ คือคนที่ท่านกำลังจะไปรับตัวงั้นเหรอ?”
หลิงฉุยฟงหัวเราะเบา ๆ อย่างเหี้ยมเกรียมและทำสัญญาณมือให้ทหารของเขา “กระทืบพวกมัน จนกว่าพ่อแม่ของพวกมันจะจำหน้ามันไม่ได้!”
ทหารที่เดิมล้อมอยู่รอบรถม้ารีบสลายกระบวนรบและพุ่งเข้าไปหาพวกของหยุนตงไห่ทันที
หยุนตงไห่ในเวลานี้เขากลัวแทบฉี่ราด เขาตะโกนร้องเสียงหลงไปยังหลิงฉุยฟง “ท่านอาหลิง ท่านกล้าโจมตีข้างั้นเหรอ? ท่านไม่กลัวพ่อของข้ามาฆ่าท่านหรือไง!”
หยุนตงไห่เมื่อพูดจบประโยค บรรดาทหารของหลิงฉุยฟงก็ได้ตั้งกระบวนรบใหม่บุกเข้าประชิดตัวและลงมือกระทืบหยุนตงไห่และพรรคพวกโดยทันที
ด้วยการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีของกองทหารที่หลิงฉุยฟงพามา ถึงแม้ว่าบรรดาทหารจะมีขอบเขตการบ่มเพาะที่ต่ำกว่าหยุนตงไห่แต่พวกเขาได้ใช้กระบวนรบเพื่อประสานพลังของพวกเขาให้เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ด้วยวิธีนี้พวกเขาจึงไม่มีปัญหาเลยที่จะสามารถกระทืบพวกของหยุนตงไห่ที่มีเพียงไม่กี่สิบคนได้อย่างสบาย ๆ
ส่งผลให้หยุนตงไห่และพวกของเขาร้องโหยหวนออกมาอย่างน่าสังเวท
หลิงฉุยฟงหัวเราะเยาะและพูดว่า “ก็ลองให้พ่อของเจ้ากล้ามาฆ่าข้าดูสิ พ่อของข้าได้ไปฆ่าล้างตระกูลหยุนของเจ้าทั้งหมดอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“เอ๊ะไม่สิ พ่อของข้าอาจจะฆ่าคนตระกูลเจ้าได้ไม่หมด พ่อของข้าอาจจะต้องละเว้นน้องสาวของเจ้าที่เป็นนางสนมของจักรพรรดิอยู่ไว้สักคน อย่างน้อย ๆ พ่อของข้าคงต้องไว้หน้าคนในราชวงศ์อยู่บ้างล่ะนะ!” เมื่อเยาะเย้ยหยุนตงไห่เสร็จ หลิงฉุยฟงได้หันไปหาเสี่ยวเยว่เฟิงและพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม “เจ้าช่วยเรียกหลานชายของข้าออกมาทีสิ ข้ามีของดีจะมอบให้กับเขา!”
“ท่านมีอะไรให้ข้า?” หลิงตู้ฉิงพูดพลางเปิดประตูรถม้าและเดินลงมา
หลิงฉุยฟงเมื่อเห็นหน้าของหลิงตู้ฉิงเขาหัวเราะออกมาเสียงดังสนั่นและโผเข้าไปกอดหลานชายของเขา “หลานชายคนเก่งของข้า ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามาเยอะแยะเต็มไปหมด เจ้านี่มันน่าทึ่งจริง ๆ!”
ตอนนี้คิ้วของหลิงตู้ฉิงขมวดเข้าหากันขณะที่เขาถูกกอดโดยหลิงฉุยฟง แต่หลิงตู้ฉิงก็ไม่ได้ผลักอาสามของเขาคนนี้ออกแต่อย่างใด เนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรักแบบครอบครัวแพร่ออกมาจากร่างของหลิงฉุยฟงอย่างหนาแน่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)