บทที่ 99 สยบกองทหาร[รีไรท์]
หลิงฉุยฟงจ้องไปยังหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์อีกรอบและพูดว่า “เหอะ ก็เจ้ามันขี้โกงที่สามารถใช้อาวุธสุดวิเศษนั่นได้นี่ ลองถ้าเจ้าไม่มีอาวุธนั่นข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าที่อยู่แค่ขอบเขตควบแน่นลมปราณระดับ 8 จะสามารถเอาชนะทหารของข้าได้ภายในสามกระบวนท่า!”
เมื่อพูดจบถึงตรงนี้หลิงฉุยฟงก็นึกอะไรบางอย่างได้ออก ดวงตาเขาเริ่มเป็นประกายมองไปยังหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “พูดถึงอาวุธวิเศษ จะว่าอะไรไหมหลานรัก หากข้าจะขอให้เจ้านำมันออกมาให้ข้าได้ยลโฉมมันสักหน่อย”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นหลิงตู้ฉิงจึงส่งสัญญาณให้มี่ไลหยิบหลิงจู้ออกมาและยื่นมันให้กับหลิงฉุยฟง
หลิงฉุยฟงที่รับหลิงจู้มา เขาลูบคลำมันด้วยความตื่นเต้น แต่เมื่อเขาตรวจสอบมันอย่างละเอียดดี ๆ แล้ว เขากลับไม่พบเจอความแปลกพิสดารอะไรของมันแม้แต่น้อย ในสายตาเขามันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับแส้หางม้าธรรมดาที่งดงามมาก ๆ อันหนึ่ง
“ไอ้นี่มันคืออาวุธที่เจ้าใช้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราคนนั้นจริง ๆ เหรอ ทำไมข้าดูไปดูมา ข้าไม่เห็นสัมผัสได้ว่ามันจะมีอะไรพิเศษตรงไหนเลย” หลิงฉุยฟงเอ่ยถามด้วยความสงสัยปนผิดหวังเล็กน้อย
ก่อนที่เขาจะได้มาเจอหลิงตู้ฉิง เขาเองได้ยินเรื่องของอาวุธวิเศษชิ้นนี้ที่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราได้ภายในพริบตา เขาเองจินตนาการถึงอาวุธชิ้นนี้ไว้ว่าในเมื่อหลิงตู้ฉิงที่อยู่ในขอบเขตควบแน่นลมปราณยังใช้อาวุธชิ้นนี้สังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราได้อย่างง่ายดาย และถ้าหากเป็นเขาเองที่ได้ครอบครองมัน ทั่วทั้งทวีปนี้เขาคงจะได้เป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานแน่นอน
หลิงตู้ฉิงเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของหลิงฉุยฟง เขายิ้มและพูดตอบ “ของชิ้นนี้มันคือของวิเศษที่ไม่ใช่ใครทุกคนจะสามารถใช้มันได้หรอก”
หลิงฉุยฟงเมื่อได้ยินคำพูดดับฝันที่หลิงตู้ฉิงได้เอ่ยออกมา เขาจึงมองไปที่หลิงจู้ด้วยสายตาอันเศร้าสร้อย จากนั้นจึงส่งมันคืนไปให้กับหลิงตู้ฉิง
จากนั้นหลิงฉุยฟงกวาดสายตามองรอบ ๆ ภายในรถม้าอีกครั้งและเอ่ยถามขึ้น “แล้วนี่พวกเจ้าทำไมมาถึงที่เมืองหลวงกันเร็วแบบนี้ พวกเจ้าบินกันมาหรือไง? ข้าได้รับข่าวมาว่าพวกเจ้าเพิ่งออกจากเมืองฟินิกซ์มาเมื่อวานนี้เอง…”
หลิงตู้ฉิงที่ได้ยินคำถามเช่นนี้เขายิ้มให้หลิงฉุยฟงแต่ไม่ตอบอะไร
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงไม่ยอมตอบหลิงฉุยฟงจึงเปลี่ยนเรื่องคุย “หลานชายที่เจ้าบอกว่าเจ้าสามารถเอาชนะทหารของข้าได้ภายในสามกระบวนท่า ข้าว่าเจ้าออกจะโอ้อวดไปสักหน่อยนา เดี๋ยวพอถึงที่คฤหาสน์แล้ว ข้าจะให้ทหารของข้าแสดงความแข็งแกร่งให้เจ้าดู เจ้าว่าเป็นไง?”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าหนึ่งครั้งและพูดขึ้น “ก็เอาสิ”
หลังจากหลิงตู้ฉิงและหลิงฉุยฟงคุยกันไปได้สักพัก พวกเขาก็ได้มาถึงยังคฤหาสน์สราญรมย์อันงดงาม ทิ้งบรรดาพวกของหยุนตงไห่ให้นอนร้องโอดโอยอยู่ข้างถนนราวกับสุนัข
หยุนตงไห่ที่โกรธจนหัวแทบระเบิด เขาพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น เมื่อเขาลุกขึ้นมาได้เขาตะโกนสาปแช่งพวกของหลิงตู้ฉิงได้สักพัก จึงพาเหล่าบรรดาลูกสมุนกลับคฤหาสน์ตระกูลหยุนในเมืองหลวงไปด้วยความคับแค้นใจ
หน้าคฤหาสน์สราญรมย์
หลิงตู้ฉิงและหลิงฉุยฟง ตอนนี้พวกเขามาถึงที่หน้าคฤหาสน์เรียบร้อย
“ต่อไปนี้ที่นี่คือคฤหาสน์ของเจ้า!” หลิงฉุยฟงฉีกยิ้มกว้างให้กับหลิงตู้ฉิงพร้อมกับมองไปยังคฤหาสน์อันงดงามที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า
“พ่อของข้านี่ก็ช่างลำเอียงจริง ๆ คฤหาสน์ที่แพงหูฉี่ถึงขนาดนี้กลับซื้อมันให้เจ้าโดยที่ไม่คิดเลยสักนิด ไป พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ”
หลิงฉุยฟงเมื่อบ่นจบเขาจึงเดินนำหน้าหลิงตู้ฉิงเข้าไปเปิดประตูกำแพงชั้นนอกของคฤหาสน์
บรรดาเด็ก ๆ และคนอื่น ๆ เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปยังด้านในแล้ว พวกเขามองไปรอบ ๆ คฤหาสน์อันแสนโอ่อ่าอย่างตื่นตะลึง
ที่หน้าทางเข้านั้นมีรูปปั้นพญาราชสีห์สองตัวยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าทางเข้าพร้อมกับประตูเหล็กพันปีสองบานอันใหญ่โต และเมื่อเดินเข้าไปยังด้านใน พื้นที่สนามหน้าคฤหาสน์นั้นกว้างขวางใหญ่โตมากกว่าลานกลางเรือนหลิงเกือบ 10 เท่า บริเวณภายในทุกอย่างล้วนสวยงามและเพียบพร้อมไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภูเขาจำลอง ศาลาที่อยู่กลางสระน้ำขนาดใหญ่พร้อมกับมีสะพานเชื่อมต่อให้เดินข้ามไป รวมไปถึงเรือนรับรอง ห้องสมุด ห้องเรียน ฯลฯ
“โห ท่านพ่อ ที่นี่เป็นของพวกเราจริง ๆ เหรอ?” หลิงว่านถิงร้องถามด้วยความตื่นเต้น
จ้าวเหมิงลู่เมื่อเห็นบรรดาเด็กตื่นเต้นนางจึงเริ่มเล่าประวัติของคฤหาสน์หลังนี้ “คฤหาสน์แห่งนี้เคยเป็นวังเก่าของอดีตองค์ชายของราชวงศ์ก่อนหน้า แต่ด้วยเหตุอะไรไม่มีใครทราบองค์ชายผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์นี้จู่ ๆ ได้เกิดคลุ้มคลั่งขึ้น ไล่สังหารผู้คนที่อยู่ในคฤหาสน์นี้ตายลงจนหมดไม่มีใครเหลือรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว หลังจากนั้น คฤหาสน์นี้จึงถูกปล่อยทิ้งร้างจนมาถึงในยุคราชวงศ์ปัจจุบัน ทางการจึงได้เข้ามาดูแลและบูรณะมันขึ้นมาใหม่ให้สวยงามดั่งเก่าก่อนและจากนั้นจึงได้ประกาศขาย แต่กลับไม่มีใครสนใจคฤหาสน์หลังนี้เลยสักคนเนื่องจากด้วยราคาที่ถูกตั้งไว้สูงเป็นอย่างมาก และด้วยประวัติที่มีคนถูกสังหารมากมายลงที่นี่ จึงทำให้พลังหยินของบริเวณคฤหาสน์นี้หนาแน่นเป็นอย่างมาก จึงทำให้การอาศัยอยู่ที่นี่มันอาจจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่…”
เมื่อได้ยินประวัติของคฤหาสน์นี้จากจ้าวเหมิงลู่ หลิงตู้ฉิงเลิกคิ้วและพูดว่า “พลังหยินหนาแน่นงั้นเหรอ? เช่นนั้นที่นี่ก็น่าจะมีวิญญาณอาศัยอยู่งั้นสินะ แต่ยังไงซะที่นี่สำหรับข้านับได้ว่าเป็นสถานที่ที่ดี หากวิญญาณของที่นี่มีจริงพวกมันก็ควรที่จะให้ความเคารพแก่ข้า ไม่งั้นต่อให้เป็นวิญญาณข้าก็สามารถทำให้พวกมันเสียใจได้เช่นกัน เอาล่ะทุกคนไปเลือกห้องของพวกเจ้าเองได้แล้ว”
“เดี๋ยวก่อนพวกเจ้าอย่าเพิ่งไป!” หลิงฉุยฟงเมื่อเห็นพวกของหลิงตู้ฉิงกำลังจะเดินเข้าไปในตัวคฤหาสน์เขารีบห้ามไว้อย่างร้อนรนและพูดว่า “หลานชายเจ้าลืมไปแล้วเหรอ ว่าข้าจะให้เจ้าได้เห็นความแข็งแกร่งของทหารที่ข้าพามา ที่นี่ก็มีพื้นที่ตั้งเยอะแยะ ให้ข้าแสดงความสามารถของพวกเขาให้เจ้าดูตอนนี้เลยดีไหม?”
“เอาอย่างนั้นก็ได้” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)