เช้าวันต่อมา...
ข่าวบุกจับธรรมนัสโด่งดังไปทั่วทั้งประเทศ พร้อมกับหลักฐานมัดตัวที่ทำให้ดิ้นไม่หลุด ทั้งคดีฆาตกรรมอำพรางเสาวณีและคดียักยอกเงินของโรงแรม ซานเตียนโน่หลายสิบล้าน
หลังจากที่ธรรมนัสถูกจับได้ไม่ถึงชั่วโมง สาวิตรีก็โพสต์บนเฟซบุ๊กโดยแท็กภาคินพร้อมด้วยข้อความขอโทษที่ทำกิริยาไม่ดีในงานศพ แต่หากไม่ทำเช่นนั้น เธอก็จะไม่มีโอกาสส่งหลักฐานสำคัญให้ เพราะถูกธรรมนัสตามประกบตลอดเวลา
ภาคินวางหนังสือพิมพ์ก่อนจะหยิบมือถือมากดพิมพ์ข้อความตอบกลับสาวิตรีไปว่า...ตนไม่ได้โกรธ และคืนนี้ก็จะเดินทางไปร่วมฟังธรรมในงานของเสาวณีอีกครั้ง
“น้องไวน์อยากไปด้วยจังเลยค่ะ” วรันยาอ่านคอมเมนต์ของสามีก่อนจะหันไปอ้อนเสียงหวาน
“ไม่ได้ครับ! เขาห้ามคนท้องไปงานศพ” ภาคินรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“เฮ้อ...งั้นพี่คินก็ระวังตัวด้วยนะคะ” วรันยายอมรับในคำตอบของสามีอย่างรู้สึกขำนิดๆ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายเองก็มีความเชื่อแบบไทยๆ เหมือนคนอื่นๆ
“ครับ! พี่ว่าลุงธรรมโดนจับแล้ว คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
“ไอ้ที่ไวน์ห่วงน่ะ เป็นกำนันคงต่างหากค่ะ” วรันยาบอกเรื่องที่กังวล
“เรื่องอะไรครับ?” ภาคินจ้องมองใบหน้างามของภรรยาสาวอย่างเต็มไปด้วยความสงสัย
“อ้าว! นี่พี่คินยังไม่เห็นข่าวเหรอคะ” วรันยาถามพลางถอนหายใจอย่างเพลียๆ เพราะสามีของเธอมักจะอ่านแต่ข่าวต่างประเทศเท่านั้น
“ไม่ครับ” ภาคินบอกตามตรง
“ก็ข่าวที่พ่อของมีนแพ้เลือกตั้ง แถมได้คะแนนเสียงแค่ร้อยกว่าเสียง น่ะสิคะ”
“อืม...ก็ดีแล้วนี่ครับ ขืนเป็นต่อไปก็เปลืองภาษีประชาชนเปล่าๆ วันๆ ไม่เห็นจะทำอะไร นอกจากสิงอยู่แต่ในโรงน้ำชา” ภาคินออกความเห็น
“พี่คินรู้ได้ยังไงคะว่ากำนันคงอยู่แต่โรงน้ำชา?” วรันยาจ้องมองสามีอย่าง ไม่วางตา
“แหม...ก็คนที่ไปมาเขาเล่าให้ฟังน่ะสิครับ” ภาคินอมยิ้มเมื่อเห็นภรรยา สุดที่รักออกอาการหึง
“อ่อ! นึกว่าไปเจอด้วยตัวเองซะอีก” วรันยาเอ่ยเยาะ
“บ้า! พี่ไม่ชอบดื่มชา” ภาคินบอกพลางกลั้นขำจนตัวสั่น
“ไวน์ว่าผู้ชาย 99% ที่ไปไม่มีใครสั่งน้ำชามาดื่มหรอกค่ะ” วรันยาดักทาง ‘หึ! เมื่อก่อนคงจะไปมาบ่อยแน่ๆ’
“รู้ดีจังนะเรา” ภาคินหัวเราะกับสายตาเอาเรื่องของแม่เสือสาว ที่กำลังจ้องจะขย้ำตน
“...” วรันยารู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันเหมือนมีกองไฟกองน้อยๆ ลุกโชนอยู่ในอก
“สาบานต่อหน้าไฟเลย พี่ไม่เคยเข้าสถานที่แบบนั้น” ภาคินรีบชูสามนิ้วขึ้นสาบานเมื่อเห็นเมียรักเอาแต่นิ่งเงียบ
“เมื่อก่อนพี่คินจะเป็นยังไงไวน์ไม่สน แต่ถ้าตอนนี้ลองซ่าล่ะก็ เจอดีแน่” วรันยาคาดโทษสามีจอมทะลึ่งด้วยสีหน้าตึงๆ
“แหม...เมียสวยขนาดนี้พี่จะมองใครได้อีกครับ” ภาคินฉีกยิ้มหวานให้อย่างรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับท่าทีขึงขังนั้น
“ชิ!” วรันยาเบ้ปากนิดๆ ก่อนจะตักอาหารเช้าขึ้นมาทานอย่างไม่สนใจ
ภาคินรีบตักเมนูนั้นเมนูนี้ให้ภรรยา พร้อมกับบอกเรื่องยอดจองห้องพักของรีสอร์ตและโรงแรมที่เต็มไปจนถึงต้นปีหน้า ซึ่งตนได้ทำตารางเก็บเกี่ยวผักและผลไม้ต่างๆ ในไร่ ลงไปในแผนโปรโมท รวมไปถึงสภาพดินฟ้าอากาศ เพื่อให้ลูกค้าที่จะเข้าพักได้เลือกว่าจะมาพักผ่อนในช่วงไหน
สามวันต่อมา...ขณะที่วรันยากำลังจะรับประทานอาหารเช้ากับสามี ก็มีรถหรูของโรงแรมซานเตียนโน่ขับแล่นเข้ามาจอดที่หน้าเรือนใหญ่ถึงสองคัน ทำให้เธอลุกขึ้นมองด้วยหัวใจสั่นๆ ก่อนจะเดินแกมรีบวิ่งออกไปดู
“กรี๊ดดด คุณมาร์ คุณพ่อ” เธอกรีดร้องอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าใครก้าวออกมาจากรถ
“น้องไวน์! อย่าวิ่งออกมาแบบนี้อีกนะ” ภาคินที่วิ่งตามมาออก เอ่ยต่อว่าอย่างใจคอไม่ดี
“คิน! ดุน้องทำไม” ดาหลาถลึงตาใส่บุตรชาย
“เอ่อ...สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่ คุณยาย” ภาคินถอนหายใจก่อนจะ ยกมือไหว้ผู้ใหญ่
“สวัสดี! ได้ข่าวว่ามีเรื่องเกิดขึ้นเยอะแยะเลยอย่างนั้นเหรอ?” ลูคัสเอ่ยถามพลางเหลือบไปมองสินชัยที่กำลังเข้าไปโอบกอดบุตรสาวต่อจากภรรยาของตนกับ แม่ยาย
“ครับ แต่ผมเคลียร์จบไปหมดแล้ว” ภาคินบอกพร้อมกับส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้พ่อตา ที่ดูจะเคร่งขรึมกว่าทุกๆ ครั้งที่เจอ
“ทำได้ดีมาก! ว่าแต่ธรรมมนัสยักยอกเงินของโรงแรมเราจริงๆ เหรอเนี่ย?” ลูคัสถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“จริงครับ แถมทำมานานแล้วด้วย” ภาคินบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียนิดๆ
“เฮ้อ...ดีนะที่ลูกตรวจสอบเจอ ไม่งั้นเราอาจจะสูญเงินไปอีกหลายล้าน” ลูคัสตบไหล่ของบุตรชายเบาๆ อย่างให้กำลังใจ ตนเองก็มีส่วนพลาดที่ให้ธรรมนัสนั่งตำแหน่งผู้บริหารชั่วคราวรอระหว่างให้บุตรชายเตรียมพร้อมเข้ารับตำแหน่ง ทำให้อีกฝ่ายยักยอกเงินของบริษัท แถมยังปูทางให้หลานสาวมาเป็นหูเป็นตาอีก
“ใช่ครับ อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับพี่สิงห์และคุณนาที่ช่วยกันรื้อบัญชีมาตรวจสอบใหม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)