"มยุรี..เราจำได้แล้ว"
"จำอะไรได้เหรอนิสา" มยุรีตกใจอยู่ดี ๆ เพื่อนก็พูดขึ้นมาในขณะที่สถานการณ์กำลังตึงเครียด และทุกคนกำลังให้ความสนใจกันทั้งแผนก
"เธอจำไม่ได้หรือไง ว่าคนนี้คือคุณธนู คนที่ช่อชบาเพื่อนรักของเราเคยแอบอ้างว่าเป็นสามีไง" นิสาจงใจที่จะพูดให้ทุกคนในที่นี้ได้ยินกันทั่ว ไม่เว้นแม้แต่เกษรแม่ของธนู
"ทำไมเราจะจำไม่ได้ล่ะ เราจำได้ดีเลยล่ะเรื่องงานโรงแรมคืนนั้น" ทั้งสองไม่ต้องได้นัดหมายอะไรกันเลยแต่ก็รู้ใจ
"ใช่ ๆ น่าขำไหมล่ะ..คนที่บอกว่าเป็นสามี แต่ไม่โผล่หน้าไปงานที่เมียอุตส่าห์จัดขึ้นเพื่ออยากได้หน้า" ยังโยนมาให้ช่อชบาว่าอยากได้หน้า ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนแกล้ง
ช่อชบารีบหันขวับไปมองหน้าทั้งสองที่กำลังพูดกันแบบไร้มารยาท หญิงสาวรู้ดีว่านิสาอยากเล่นงานเธอ แต่ไม่คิดว่าจะเล่นงานต่อหน้าของท่านประธานซึ่งเป็นแม่ของเขาแบบนี้
"ขอโทษนะจ๊ะเพื่อนรัก พอดีว่าเราสองคนคิดแรงไปหน่อย" คำขอโทษนั้นไม่ได้มาจากใจเลย เพราะดวงตาที่ยิ้มเยาะเย้ยใครก็ดูออก
"มันเรื่องอะไรกันแน่" เกษรพอจะจับใจความได้บ้างกับเรื่องที่พวกนั้นพูดมา
"แม่ไม่ต้องใส่ใจหรอกครับ แล้วแม่ลงมาทำไม เรื่องนี้เดี๋ยวผมจัดการเอง" เพราะเขาเพิ่งถูกแม่เล่นงานมาเมื่อวานนี้ และไม่อยากให้แม่มาเล่นงานในแผนกนี้ด้วย
"เราตอบแม่มาก่อน..ที่พนักงานพูดมามันหมายความว่ายังไง"
"ผมบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร" ชายหนุ่มพยายามจะปฏิเสธ แต่แม่เขาก็ยังดูออก
"หนูสองคนมานี่สิ" ในเมื่อไม่ได้ความจริงจากลูกชาย และนางก็ไม่คิดอยากจะกดดันเอาความจริงจากช่อชบา แต่ยังมีคนที่รู้เรื่องนี้อีก เกษรก็เลยเรียกนิสาและมยุรีให้มาพบตรงนั้น
"ค่ะ" และทั้งสองก็รีบมา เพราะรอโอกาสนี้มานานแล้ว
"ที่พวกหนูพูดมาเมื่อสักครู่หมายความว่ายังไง"
"เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อนค่ะท่านประธาน" แล้วนิสาก็เริ่มบรรยายให้เกษรฟัง โดยมีหน่วยเสริมพูดแทรกขึ้นมาเป็นระยะ..กลัวว่าท่านประธานจะไม่เชื่อ ยังเรียกเพื่อนอีกหลายคนที่ไปร่วมงานในคืนนั้นเพื่อมายืนยัน
พอฟังเรื่องทุกอย่างจบลง เกษรรู้แล้วว่าทำไมลูกชายของนางถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ นางเป็นแม่แท้ ๆ ยังบังคับลูกชายไม่ได้เลย แต่กับผู้หญิงคนนี้พูดออกมาแค่คำเดียว ก็สามารถเปลี่ยนลูกชายของนางได้
ระหว่างที่เพื่อน ๆ กำลังพูดอยู่นั้น ช่อชบาได้แต่ก้มหน้าก้มตาฟัง มันอาจจะมีเสริมเติมแต่งขึ้นมาบ้าง แต่รวม ๆ แล้ว คือเธอเป็นคนผิดเอง ผิดตั้งแต่ต้นที่ดึงเขาเข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้
คำพูดที่พวกของนิสาป้ายสีมา เกษรฟังหูไว้หู เรื่องนี้นางต้องรู้ความจริงด้วยตัวเองให้ได้
"เราต้องคุยกันแล้วล่ะ" เกษรหันไปพูดกับช่อชบาและลูกชาย
"ค่ะ" หญิงสาวตอบรับทันที
เนตรนภาก็ยืนฟังอยู่แบบเงียบ ๆ และยิ่งสงสารช่อชบา ชีวิตของเธอคงจะเจออะไรมามาก มีทั้งเรื่องแฟนเก่าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มิน่าล่ะทำไมนิสาถึงหมายหัวช่อชบาแบบกัดไม่ปล่อย
"หึ" นิสาแสยะยิ้มเมื่อเห็นช่อชบาเดินตามหลังผู้บริหารระดับสูงไป
"เธอยังอารมณ์ดีอยู่เหรอนิสา เธอไม่เห็นเหรอว่าคุณธนูเป็นถึงลูกชายเจ้าของบริษัทใหญ่โตขนาดนี้" มยุรีแอบสะกิดเพื่อน
"ทำไมฉันจะไม่เห็นล่ะ แต่เธอคิดเหรอว่าคนระดับท่านประธาน จะยอมรับผู้หญิงแบบช่อชบา ฉันว่า..พรุ่งนี้รอหัวเราะได้เลย เพราะจะมีคนกระเด็นออกจากงาน"
..ห้องท่านประธานบริษัท..
"โอ้ย" ช่อชบาชนเข้ากับลำตัวของเขาอย่างแรง มือหนาของคันศรคว้าร่างบางเข้ามาไว้ในวงแขน..แต่ไม่ได้กอด
สายตาธนูมองไปดูแบบไม่พอใจ และแม่ของเขาก็เห็นสายตานั้น นางแอบยิ้ม
"มีอะไรกันเหรอครับ" คันศรพูดพร้อมกับค่อย ๆ ปล่อยช่อชบาออกจากมือเองโดยที่หญิงสาวไม่ได้สะบัด หรือรังเกียจเลย
"แม่ไม่อยากให้หนูช่อชบาทำงานอีกแล้ว" พอเกษรพูดมาถึงตรงนี้ ทั้งสามก็มองไปที่ต้นเสียง
"อะไรนะครับแม่ มันเกิดอะไรขึ้น" คันศรเป็นคนเอ่ยถามขึ้นมา
"ก็งานที่ทำอยู่ มันทำให้หนูชบาไม่สบายใจ จนขนของย้ายกลับลงไปทำที่แผนกเดิม แม่ก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย เอาเป็นว่าไม่ต้องทำมันแล้วงาน"
นี่ตกลงเธอถูกไล่ออก หรืออะไรกันแน่ คำพูดของท่านไม่เหมือนไล่ออกเลย หญิงสาวได้แต่คิดอยู่ในใจ แต่ถ้าถูกไล่ออกตอนนี้เธอจะไปหางานที่ไหนทำ แม่ก็ยังทำงานไม่ได้
"แม่อยากได้หนูช่อชบาเป็นลูกสะใภ้มากกว่า" และคำพูดของเกษรมันก็ทำให้ทั้งสามคนตกใจอีกครั้ง
"ลูกสะใภ้?" แฝดทั้งสองมองหน้ากันแล้วมองไปที่แม่
"แม่จะให้หนูชบาแต่งงานกับ..ธนู"
"ผมไม่แต่ง" ธนูพูดออกมาโดยที่ไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ และก็ไม่อยากจะคิดด้วย เขาสนใจเธอมากก็จริง แต่ถึงขั้นแต่งงานเขาคงไม่..เพราะชายหนุ่มไม่อยากจะมีพันธะ..เขาอยู่เป็นโสดแบบนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว
"แต่แม่จะให้เราแต่ง" เกษรไม่อยากจะโยนช่อชบาไปมา พอคนน้องไม่แต่งก็จะโยนให้คนพี่ มันดูเหมือนว่าช่อชบาไม่มีค่า และนางก็อยากให้ธนูรู้ใจตัวเองด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรัก
เนื้อเรื่องยาวกว่านี้จะดีมากคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ...