พ่ายรัก นิยาย บท 30

"คุณตบผมทำไม" ชายหนุ่มปล่อยทันทีที่ถูกตบ

"คุณเรียกฉันมามีอะไรจะใช้" หญิงสาวถอยออกมานิดหนึ่ง แล้วถามไปโดยที่ไม่มองหน้า และไม่พูดเรื่องที่ทำไมถึงตบเขา

"ไม่มีอะไรแล้ว..เชิญคุณออกไปได้" ธนูเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ เขาไม่แสดงอาการอะไรออกมาให้เห็น แต่เธอรู้ดีว่าเขาคงไม่พอใจเรื่องที่ถูกตบ

น้ำตาหยดลงทันทีที่หญิงสาวหันหลังให้ เธอเปิดประตูออกมา และพยายามจะหลบสายตาของคนที่มอง เพราะไม่อยากจะให้ใครเห็น

ตอนนี้เลขาของแม่กับพี่ชายเขา ก็อยู่หน้าห้องเหมือนกัน

เย็นวันเดียวกันนั้น.. หลังเลิกงานได้ชั่วโมงกว่า ธนูขับรถผ่านออกมาด้านหน้ามองไปที่ป้ายรถเมล์ เธอก็ยังนั่งอยู่ตรงนั้น เพื่อรอรถเมล์สายที่ว่างที่สุดเหมือนเดิม

แต่เพราะความที่โกรธเมื่อตอนกลางวัน ชายหนุ่มก็เลยขับรถผ่านไปโดยที่ไม่หันไปมอง แต่คนที่มองเข้ามาในรถของเขาก็คือช่อชบา

เพียงไม่นานรถเมล์ก็วิ่งมาจอด เธอมองขึ้นไปมีคนเบียดกันมากมาย หญิงสาวก็เลยไม่ขึ้น

ทำแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว จะมานึกน้อยใจอะไรตอนนี้.. อยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหลออกมาจนมีเสียงสะอื้น เธอจะไปน้อยใจเขาไม่ได้นะช่อชบา..เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอ ตัวเธอง่ายเองไม่ใช่เหรอที่ไปยกมันให้เขา.. หญิงสาวนึกตำหนิตัวเองสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต กลับยกให้คนที่ไม่เห็นค่าของมัน

สามชั่วโมงผ่านไป.. สามชั่วโมงแล้วที่เธอนั่งรอรถเมล์เพื่อที่จะกลับบ้าน พนักงานที่ทำโอทีก็กลับกันไปหมดแล้ว

"น้องอกหักเหรอ ทำไมมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวแบบนี้จ๊ะ ให้พี่ดามใจให้ไหม" วัยรุ่นนั่งแอบมองอยู่ตั้งนานแล้ว เดินเข้ามาขอคุยด้วย

ช่อชบามองซ้ายขวาไม่กล้าพูดด้วย หญิงสาวกำลังจะลุกออกไปจากตรงนั้น แต่ถูกผู้ชายคนนั้นคว้าแขนไว้ก่อน

"ปล่อย!!"

ตุ้บ!! จังหวะที่เธอกำลังตกใจหวาดกลัวอยู่นั้น ไม่รู้ว่าเท้าของใครถีบเข้าที่กลางหลังของไอ้ผู้ชายคนนั้นจนกระเด็นออก

"โอ้ย!! อะไรของมึงวะ!" มันลุกขึ้นมาได้ก็เดินตรงเข้ามาหา..

"ถ้ามึงอยากตาย..ก็เข้ามาสิ"

"ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!!" มันรีบถอยไปเพราะหุ่นของมันคงสู้เขาไม่ได้

"รถมาตั้งหลายคันแล้วทำไมไม่ขึ้น นั่งรอให้พวกมันมาทำอะไรก่อนหรือไง" คนที่เข้ามาช่วยก็คือธนู เขาวนรถกลับมาจอด อยู่ไม่ไกลเท่าไร เพื่อรอดูว่าเธอจะขึ้นรถไปเมื่อไร

ที่จริงเธอดีใจจนตื้นตัน เมื่อรู้ว่าคนที่มาช่วยคือเขา แต่ความน้อยใจมันมีมากกว่า

"คนถามดี ๆ ทำไมไม่พูดด้วย" เขาตะคอกใส่เธอเมื่อเห็นหญิงสาวไม่ตอบแล้วยังเดินกลับไปนั่งที่เดิม

"ไปยังไม่ได้"

"ทำไมไปไม่ได้ มันติดอะไร" ใจหนึ่งก็เป็นห่วง อีกใจก็โมโห เพราะคิดว่าเธอคงมานั่งรอคนรักเก่า เพราะเขาเห็นวัลลภมารับนิสาทุกวัน และทุกวันเธอก็นั่งอยู่แบบนี้จนดึกดื่นกว่าจะกลับได้

ใช่แล้วธนูแอบดูอยู่ห่าง ๆ แบบนี้มานานแล้ว เขาทำเหมือนตอนที่กลับไปเรียนแล้วแอบดูเธอขึ้นรถ ทั้งๆ ที่ใจบอกว่าไม่อยากจะมีพันธะ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้

"ช่วงเย็นคนเบียดกันเยอะ และส่วนมากก็มีแต่ผู้ชาย" เธอพูดออกมาเบา ๆ โดยที่ไม่มองหน้าเขา และคงไม่กล้ามองด้วย เพราะตอนนี้น้ำตามันกำลังเอ่อล้นออกมา ไม่รู้ว่าจะห้ามมันได้อีกนานแค่ไหน

".....?!" ชายหนุ่มถึงกับจุกเมื่อรู้เหตุผลของเธอ ..นี่เขาเป็นบ้าอะไร เขาคิดว่าเธอนั่งรอแฟนเก่า คิดว่าเธอยังมีใจให้ไอ้ผู้ชายห่วยๆ คนนั้น ที่จริงเธอกลัวการสัมผัสจากผู้ชายที่อยู่บนรถเมล์เพราะมันแออัด วัน ๆ เธอได้นอนกี่ชั่วโมงกันเนี่ย กว่าจะกลับไปถึงบ้านก็ตั้งไกล.. ธนูยืนคิดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมา แบบขัดใจตัวเอง

"ไปขึ้นรถ" เขายื่นมือไปคว้าแขนเธอให้ลุกขึ้น และก็ต้องได้รีบปล่อย เพราะนึกได้ว่าเธอกลัวการสัมผัสจากผู้ชาย

แต่ช่อชบาไม่พูดด้วย และเธอก็ไม่มองหน้าเขา หญิงสาวมองไปตามถนนชะเง้อดูว่าเมื่อไรรถจะผ่านมา

"จะขึ้นเอง..หรือจะให้อุ้ม"

"คุณจะมาสนใจทำไม ในเมื่อฉันมันเป็นอดีตไปแล้ว ทำไมคุณไม่ไปสนใจคนที่เป็นปัจจุบันล่ะ" ดวงตางามคู่นั้นมองจ้องเขา โดยที่ไม่อายแล้วว่าเขาจะเห็นน้ำตาของเธอ เพราะตอนนี้มันได้ไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง แบบห้ามไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว

"เรื่องนั้น.." ธนูคิดว่าจะแก้ตัวยังไงดีในเมื่อเธอก็ได้ยิน

"คุณไม่ต้องหาคำที่จะมาโกหกให้มันเลิศหรูหรอก ในเมื่อฉันกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน คบก็ยังไม่ได้คบ คุณจะมีใครมันก็สิทธิ์ของคุณ"

"เรื่องนั้นเราไปคุยกันต่อที่รถ เห็นไหมคนมอง" พูดจบเขาก็เดินไปที่รถ เพราะคิดว่าเธอคงจะตามมา แต่จังหวะนั้นรถเมล์ได้เข้ามาจอดเทียบ หญิงสาวรีบขึ้นรถคันนั้น

พอเธอวิ่งขึ้น.รถเมล์ก็ออกตัวไป ช่อชบาเดินไปนั่งตรงที่ว่าง เพราะดึกมากแล้วรถสายนี้ก็เริ่มว่างแล้วด้วย

พอนั่งลงเธอก็ได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อดูว่าเขาไปหรือยัง..แต่ก็ไม่เห็น

ทันใดนั้นมีคนมานั่งด้านข้างเก้าอี้ตัวที่ติดกัน..หญิงสาวก็ยังไม่สนใจ เธอยังมองออกมานอกหน้าต่าง

"มองหาใคร" พอได้ยินเสียงที่คุ้นหูช่อชบาก็รีบหันกลับมา จนแก้มชนเข้ากับริมฝีปากของเขาที่กำลังมองตามเหมือนกัน

"คุณ!!" หญิงสาวตกใจและรีบขยับเข้าไปจนชิดริมหน้าต่าง "คุณขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร..ไม่สิ..คุณขึ้นมาทำไม"

จังหวะที่ช่อชบาเดินขึ้นประตูด้านหน้า ธนูก็รีบมาขึ้นประตูด้านหลัง

"ก็จะไปส่งเมียที่บ้าน"

"เมีย?!" กำลังโมโหพอได้ยินเขาพูดคำนี้ถึงกับหน้าแดง "ใครเมียคุณ" แกล้งตีเนียนทำเป็นไม่รู้

"อยากรู้แน่นะว่าใครเมียผม" สายตาคมค่อย ๆ มองเรือนร่างของเธอ ต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่หว่างขา

"คนบ้า!!" หญิงสาวรีบหนีบขาเข้าหากัน แล้วมองซ้ายมองขวากลัวคนที่นั่งอยู่มองมา

"ลามกนะเรา" เขาพูดเหมือนเธอคิดไปเอง แต่ตัวเองนั่นแหละเป็นคนจุดประเด็นขึ้นมาก่อน

"แม่ได้เอาเงินออกมาด้วยไหม ยืมให้ค่ารถเพื่อนหนูหน่อยสิ"

"ไม่ได้ติดตัวมาเลยจ้ะ แล้วตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไปค้างที่บ้านก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยกลับ" จบคำพูดดอกแก้วก็รีบเดินกลับบ้าน

"อะไรของแม่..จะให้ผู้ชายไปค้างที่บ้านได้ยังไง" ช่อชบารีบเดินตามหลังแม่ไป

ส่วนธนู..มุมปากกระตุกยิ้มขึ้นมาทันที

"บ้านนี้มีแค่สองห้องนอนนะ ธนูก็นอนข้างนอกแล้วกัน ส่วนห้องนี้เป็นห้องของแม่กับยาย และอีกห้องเป็นห้องของชบามัน" ดอกแก้วรู้ตั้งแต่ได้ยินชื่อแล้วว่าผู้ชายคนนี้คือลูกชายของเกษรเจ้าของบริษัท และแม่ของเขาก็เป็นคนดีมาก นางก็เลยไม่คิดจะขัดขวาง เพราะเห็นแล้วว่าผู้ชายก็มีใจให้ลูกสาวเหมือนกัน ถ้าจะให้เข้าไปนอนในห้องลูกมันก็จะดูไม่งาม

"ผมนอนไหนก็ได้ครับ"

"ฉันไม่ให้นอน คุณกลับบ้านไปเลยนะ"

ดอกแก้วดูท่าทางแล้ว..สงสัยมีพ่อแง่แม่งอนกันแน่ ก็เลยรีบชวนคุณยายเข้าห้องไปนอน ปล่อยให้พวกเขาเคลียร์กันเอง

"แม่คุณน่ารักจังเลย" ชายหนุ่มถึงกับชมแม่ของเธอ เพราะรู้แล้วว่าท่านเปิดโอกาสให้

"แม่ฉันก็ต้องน่ารักอยู่แล้ว" จบคำพูดหญิงสาวรีบเดินเข้าห้องและล็อกไว้อย่างไว

"คุณเข้าไปแบบนี้เลยเหรอ คุณจะปล่อยให้ผมนอนตากยุงอยู่แบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มเดินตามไปเคาะห้องเธอเบา ๆ

"เรื่องของคุณสิ ถ้านอนไม่ได้ก็กลับไป"

"ผมไม่ได้เอาเงินมาด้วย แล้วจะกลับยังไง"

ช่อชบาไม่ตอบ..

"ช่อจ๋าา..เปิดประตูให้ผมหน่อยสิ มุ้งสักหลังก็ไม่มี" บ้านของช่อชบาเป็นบ้านที่เปิดโล่ง ในห้องนอนยังต้องได้กางมุ้งเลย

แต่เธอก็ยังเงียบอยู่..

"ก็ได้ถ้างั้นผมกลับนะ..สงสัยต้องได้เดินกลับแล้วล่ะเรา" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร..และก็เงียบไป..

แกร่ก~ พอเสียงเงียบได้สักพัก หญิงสาวก็รีบเปิดประตูออกมาส่องดู ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าเขาจะเดินกลับจริง

"คุณ!!" พอเปิดประตูออกไปก็เห็นชายหนุ่มยืนพิงผนังอยู่ตรงนั้น

ช่อชบากำลังจะรีบปิด แต่ก็เร็วไม่สู้เขา "ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!" หญิงสาวตวาดเสียงไม่แรงเท่าไหร่ เพราะกลัวแม่กับยายจะได้ยิน

"ไปก็โง่สิ..คิดถึงเมียใกล้จะตายอยู่แล้ว"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรัก