พ่ายรัก นิยาย บท 37

คนที่ดูแลธนูก็คือพยาบาลส่วนตัวที่แม่ของเขาจ้างมา เพราะกลัวว่าพวกแม่บ้านจะดูแลไม่ดีพอ

"คุณธนูตื่นมาทานข้าวทานยาก่อนค่ะ" มันคือเสียงของพยาบาลที่มาปลุก

"ช่อชบายังไม่มาเหรอครับ"

"ยังค่ะ"

เขาถามออกมาแค่นั้น และก็ไม่พูดอะไรอีก.. พอทานข้าวทานยาเสร็จ ก็นอนหลับไปอีกรอบเพราะฤทธิ์ยา

ตื่นขึ้นมาช่วงสายๆ ธนูแอบมองหาเผื่อเธอจะมา แต่ก็ไม่เห็นแม้เงา

"ถึงเวลากายภาพบำบัดแล้วค่ะ" เขานอนอยู่หลายวันจำเป็นต้องได้กายภาพบำบัด จะได้ฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานหลายวันให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม

เย็นวันเดียวกันนั้น..

"อะไรนะครับแม่" ระหว่างที่นั่งทานข้าวเย็นกันอยู่ แม่ก็เล่าให้ฟังว่าช่อชบากลับไปทำงานแล้ว

"แม่ยอมใจเด็กคนนี้จริง ๆ"

พอได้ฟังแบบนั้นธนูก็ไม่มีคำพูด เขาทานข้าวเสร็จก็ให้พยาบาลพาขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง

เช้าวันต่อมา..

ช่อชบาก็ทำเหมือนทุกครั้ง เธอตื่นเช้าหน่อยเพื่อออกมารอรถเมล์ที่หน้าปากซอย ไม่ใช่ว่าเกษรจะปล่อยปละละเลย แต่ช่อชบาไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงของชีวิต ไม่ต้องการอะไรที่เลิศหรู

พอช่อชบาออกไปทำงานแล้ว เกษรก็เข้ามาหาแม่กับยายของเธอ เพื่อจะสอบถามว่าทั้งสองเป็นอะไรกัน ดูเหมือนจะห่างเหินไม่เหมือนช่วงที่อยู่โรงพยาบาลเลย

"ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ถามคำแกก็ตอบคำ" มันคือคำพูดของดอกแก้ว นางก็หนักใจไม่แพ้กัน

"เอาแบบนี้แล้วกัน คุณแม่กับคุณยายต้องยอมรับความช่วยเหลือจากทางเราแล้วล่ะ จะปล่อยไว้แบบนี้อีกไม่ได้แล้ว"

"ความช่วยเหลือยังไงคะ"

"คุณแม่กับคุณยายย้ายไปอยู่ที่บ้านอีกหลังของดิฉันไหมคะ"

"บ้านอีกหลังหมายความว่ายังไง"

"ตอนนี้หนูชบากำลังท้องไม่อยากให้แกเดินทางลำบาก ให้รถรับส่งแกก็ไม่ยอม..เอาแบบนี้ดีกว่า..คุณแม่กับคุณยายย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังที่ปลูกไว้ในบริษัท"

ข้างบริษัทใหญ่โตนั้น มีบ้านหลังงามที่นางปลูกทิ้งไว้อยู่หนึ่งหลัง และมีคนเฝ้าดูแลตลอดเวลา ที่ปลูกบ้านหลังนั้นไว้ก็เผื่อว่าแขกที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะได้มีที่พักสะดวกหน่อย

ทั้งสองก็เลยตกลงย้ายไปอยู่ที่นั่น เพราะเป็นห่วงลูกและหลานเหมือนกัน ยังไงลูกชายของเกษรก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารักลูกสาวของนางจริง

เที่ยงวันนั้น.. พอช่อชบารู้ข่าวว่าแม่กับยายย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้เธอก็รีบลงมาดู

"ทำไมคะแม่"

"ที่บ้านหลังนั้นมันไม่ปลอดภัย ลูกก็รู้ว่าคนพวกนั้นไม่ยอมปล่อยเราหรอก แม่เห็นว่าที่นี่ปลอดภัยดี มียามดูแลตลอดด้วย"

เหตุผลของแม่ฟังขึ้น เธอก็กลัวแม่เป็นอันตรายจากภรรยาของพ่อเหมือนกัน

"หนูขอโทษที่สัญญากับแม่เป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่าจะหาเงินสร้างตัว แต่หนูก็ทำไม่ได้" แทนที่จะได้สร้างเนื้อสร้างตัว แต่กลับท้องก่อน

"ลูกอย่าพูดแบบนั้นสิ..แล้วตอนนี้ธนูรู้เรื่องหรือยัง" ดอกแก้วหมายถึงเรื่องเด็กในท้องของลูกสาว

"ไม่ค่ะ"

"ทำไมหนูไม่บอก..ไหนหนูบอกว่าจะเป็นคนบอกเองไง"

"ชบาไม่รู้..ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ถ้าเขารู้ว่ามีลูก แม่คิดว่าคนที่ไม่ชอบการผูกมัดแบบเขาจะดีใจไหม" มันคือความคิดของเธอ ถ้าเขาทำหน้าเสียใจเมื่อรู้ว่าเธอท้อง..เธอคงจะรับไม่ได้

"ทำไมหนูคิดมากแบบนี้..มีพ่อที่ไหนที่จะไม่ดีใจ"

คำถามนี้ของแม่ ช่อชบาไม่กล้าตอบออกไป..ก็พ่อของเธอนั่นไง..ที่ไม่ดีใจเลยที่มีเธอเกิดขึ้นมา

เย็นวันเดียวกันนั้น..

พนักงานที่ทยอยออกมาจากบริษัทต่างก็มองดูบ้านหลังงามของบริษัทมีคนมาอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร

เช้าวันต่อมา..

"ทำไมตื่นเช้านักล่ะลูก หนูตื่นสายกว่านี้ก็ได้นะ เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงที่ทำงานแล้ว" ดอกแก้วตื่นขึ้นมาทำกับข้าวให้ลูกเหมือนทุกเช้า

"ชินแล้วค่ะแม่" พอทานข้าวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จช่อชบาก็เดินออกมาจากบ้านหลังนั้น

ที่ต้องรีบออกมาเพราะไม่อยากให้พนักงานคนอื่นรู้ว่าเธอได้พาครอบครัวมาพักอาศัยอยู่บ้านหลังนี้

"เด็กเส้นขนาดเอาครอบครัวมาพัก ในบ้านของบริษัทได้แล้วเหรอ"

ช่อชบารีบมองกลับไปดูด้านหลัง ว่าใครเป็นคนพูด

"ขอโทษค่ะ ผู้จัดการพูดกับฉันเหรอคะ"

ใช่แล้วคนที่พูดออกมาก็คือริสาผู้จัดการทั่วไป

"คุณแม่เป็นอะไรคะ"

คนที่บอกเจ็บท้องก็คือเกษร เพราะนางยังไม่อยากปล่อยช่อชบากลับบ้าน อยากจะให้ทั้งสองคนได้เคลียร์ปัญหากันก่อน แต่รอลูกชายหัวแก้วหัวแหวนยังไงก็ไม่กลับมาสักที หมดปัญญาที่จะรั้งเธอแล้ว

"ไม่รู้จ๊ะ อยู่ดีๆ ก็เจ็บจุกเสียดขึ้นมาถ้าหนูจะกลับก็ไม่เป็นไรนะ" เกษรนึกขำเหมือนกันที่ต้องได้ใช้มารยากับลูกสะใภ้

"ชบาจะอยู่เป็นเพื่อนก่อนค่ะ คุณคันศรก็ยังไม่กลับเลย" หญิงสาวนึกเป็นห่วงท่านขึ้นมา

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป.. ช่อชบาพาแม่ของเขาขึ้นไปนอนพักบนห้อง เธอนั่งอยู่เป็นเพื่อนท่านพักหนึ่งแล้วก็ลงมาข้างล่าง เผื่อว่าคันศรจะกลับมาเธอจะได้แจ้งอาการของท่าน

หญิงสาวเดินออกมาส่องหน้าบ้านสองรอบแล้วก็ยังไม่มีใครกลับมา จนคิดว่าตัวเองคงจะต้องได้นอนอยู่เป็นเพื่อนท่านที่นี่แล้ว

เวลาผ่านไปไม่นานเท่าไร..

เธอคิดว่าจะออกมาดูอีกสักรอบ ถ้าไม่มีใครกลับมาก็จะขึ้นไปนอนเป็นเพื่อนท่านข้างบน พอเดินพ้นประตูก็ชนเข้ากับร่างหนาของใครบางคนจนเกือบล้ม แต่ก็ถูกเขาคว้าตัวไว้ก่อน

"ขอบคุณค่ะคุณคันศร" พอยืนขึ้นได้ด้วยตัวเองเธอก็ขอบคุณคนที่รับไว้เมื่อสักครู่

"?"

"ฉันกำลังจะกลับพอดีเลยค่ะ ฉันฝากคุณดูคุณแม่ด้วยนะ ท่านบอกว่าเจ็บท้อง"

"เจ็บท้อง" แม่เจ็บท้องไม่เท่าไร แต่ที่เธอทักเขาว่าคันศรนี่เริ่มจะไม่สบอารมณ์อีกแล้ว

"งั้นชบาขอตัวกลับก่อนเลยนะคะ" หญิงสาวกำลังจะก้าวผ่านเขาไปแต่เกิดหน้ามืด

จนผู้ชายคนที่เธอคุยด้วยรีบรับร่างไว้อีกครั้ง

"คุณเป็นอะไร"

"เปล่าค่ะคงจะเป็นอาการแพ้ปกติ"

"แพ้อะไร?" เขายังไม่ปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ชายหนุ่มก็ยังสงสัยทำไมเธอพูดกับเขาเป็นตุเป็นตะเหมือนเขาเป็น...

"คุณเป็นใคร?!" ก่อนที่หญิงสาวจะพูดอะไรมากไปกว่านั้น เธอผลักเขาออกก่อน

ที่เธอคิดว่าเขาเป็นคันศร เพราะตอนถูกตัวเขามันไม่มีอาการสั่นกลัวเหมือนทุกครั้ง

ช่อชบาถอยออกมาแล้วก็มองดูผู้ชายตรงหน้าให้ชัดเจน เธอวิเคราะห์จากท่าทางการแต่งตัวแล้ว เขาคือ... "คุณธนู?"

"ทำไมคุณถึงคิดว่าผมเป็นไอ้คันศรล่ะ" ตอนนี้เขาลืมประเด็นที่แตะตัวเธอได้..เพราะความหึงหวงมันพุ่งเข้ามาก่อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรัก