"ลืมไปเลย" พอออกจากห้องพยาบาลแล้ว ถึงนึกได้ว่าลืมบอกพวกเขาไม่ให้บอกใครเรื่องที่เธอท้อง
แต่พอคิดอีกทีพวกเขาคงจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดหรอกมั้ง
เช้าวันต่อมา.. วันนี้เป็นวันที่เปลี่ยนถ่ายเกล็ดเลือดของครรชิต เนตรนภาขอนอนเฝ้าลูก แต่เธอก็นอนไม่หลับ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่รู้ว่าอนาคตของเธอกับลูกที่อยู่ในท้องจะเป็นยังไง
เพราะยังไงเธอก็จะไม่ยอมให้พวกเขาพรากลูกไปอีกคนแน่ ส่วนครรชิต จำเป็นต้องให้พวกเขาดูแล..เพราะเธออยากจะให้ลูกมีชีวิตอยู่ต่อไป
"เป็นไงบ้างครับพี่" ธนูเดินเข้ามานั่งลงข้างพี่ชาย ที่กำลังนั่งรอลูกชายอยู่หน้าห้อง
"อาจต้องใช้เวลาหน่อย แล้วทำไมต้องลำบากมากันด้วย" คันศรมองดูน้องสะใภ้ที่ไม่ค่อยจะแข็งแรง
"ก็ช่อนะสิ อยากจะมาเป็นกำลังใจให้..พี่สะใภ้"
จบคำพูดของธนู..เนตรนภาและคันศรมองสบตากันโดยไม่ได้นัดหมาย คนที่หลบตาก่อนก็คืนเนตรนภา ส่วนคันศรยังมองหน้าของเธออยู่แบบนั้น
จนเวลาผ่านไป.. หมอก็ได้ออกมาแจ้งญาติคนไข้ที่รออยู่ด้านนอก บอกว่าทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี
เนตรนภาหายใจโล่งขึ้น เธอรู้ดีว่าพวกเขาคงจะไม่ปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขของพวกเขาเป็นอะไรไปแน่
เวลาผ่านไปพักใหญ่..
เนตรนภาแอบไปมองดูลูกผ่านกระจกใส ตอนนี้เห็นครรชิตกำลังหยอกเย้ากับคุณย่าแบบมีความสุข น้ำตามันไหลลงมาแบบไม่ได้ตั้งใจ ..เมื่อคิดว่าจะได้จากลูกน้อยไป และอาจจะไม่ได้เจอหน้าเขาอีกเลยตลอดชีวิต
ตอนนี้ธนูพาภรรยากลับไปพักผ่อนแล้ว ส่วนคันศรกำลังเคลียร์เรื่องโรงพยาบาล คุยกับคุณหมอแนวทางการรักษา ว่าทำยังไงลูกชายถึงจะหายขาดจากโรคนี้
เนตรนภาเห็นแบบนี้แล้ว เธอก็วางใจที่จะปล่อยลูกชายให้อยู่ในปกครองของพวกเขา เธอทิ้งทุกอย่าง ไม่แม้แต่จะกลับไปเก็บเอาข้าวของที่บ้านหลังนั้น
หญิงสาวกลับมาบ้านเช่า เพราะข้าวของของเธอยังอยู่ที่นี่ บ้านหลังนี้ก็ยังไม่คืนเจ้าของ เพราะเธอคิดว่าคงจะได้กลับมาอยู่ที่นี่อีก แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้ว
พอหญิงสาวกลับมาถึงบ้านเช่าเธอก็แปลกใจยิ่งนัก ทำไมบ้านหลังของป้าใจร้ายคนนั้นถึงไม่อยู่แล้ว ตอนนี้กลายเป็นที่ดินว่างเปล่า
เธอเข้าไปเก็บข้าวของด้านใน มันยังมีของเล่นของลูกเธอที่หลงเหลืออยู่ สิ่งนี้แหละที่เนตรนภาอยากจะเอาติดตัวไปด้วย
"ครรชิต..แม่ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ ถ้าบุญวาสนาของเรายังพอมีร่วมกัน เราคงจะได้อยู่ร่วมกันอีกครั้งนะลูก" เธอพูดกับของเล่นที่ลูกชอบหยิบมาเล่นเป็นประจำ หัวใจของผู้เป็นแม่แทบจะขาด
พอได้ของที่ต้องการแล้ว เนตรนภาก็ขับรถคันเก่าของเธอ ออกมาที่บ้านเจ้าของบ้านเช่า
"หนูไม่ต้องมาจ่ายค่าเช่าหรอก เอาไปจ่ายให้เจ้าของคนใหม่เลย"
"จ่ายให้เจ้าของคนใหม่หมายความว่ายังไงคะ"
"ก็บ้านหลังนั้นขายไปได้เดือนกว่าแล้ว"
..ขายไปได้เดือนกว่า ก็แสดงว่าตั้งแต่ตอนที่ลูกของเธอเข้าโรงพยาบาลครั้งแรกแน่เลย
"พูดก็พูดนะ คนที่มาซื้อคงจะรวยมาก ซื้อไปหมดทั้งสองหลัง เป็นเงินตั้งหลายล้าน แถมยังสั่งทุบบ้านหลังข้างๆ ทิ้งด้วย" บ้านหลังข้างๆ หมายถึงบ้านของป้าใจร้ายคนนั้น ที่จริงบ้านทั้งสองหลังก็ยังไม่เก่ามาก ถ้าจะเก็บไว้ให้คนเช่าต่อคงจะอยู่ได้อีกหลายสิบปี
ก่อนจะออกมา เนตรนภายังฝากค่าเช่าส่วนที่เหลือไว้กับเจ้าของบ้านเดิม เพราะไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปให้เจ้าของบ้านคนใหม่ได้ที่ไหน แล้วหญิงสาวก็ได้แต่ขับรถไปเรื่อยๆ แบบยังไม่มีจุดหมายว่าจะพาลูกหลบไปอยู่ที่ไหน
"ป่านนี้พี่ครรชิตของหนูจะเป็นยังไงบ้าง" น้ำตาไหลไปตลอดทาง..ถ้าลูกรู้ว่าแม่หนีไปคนเดียวแบบนี้ ลูกจะคิดยังไง แกอาจจะเกลียดแม่เลยก็ได้.. พอคิดมาถึงตรงนี้ ก็เกิดแน่นหน้าอกหายใจแทบไม่ออก เพราะหัวอกผู้เป็นแม่ที่ต้องจากลูกน้อยไป
ครรชิตออกมาจากห้องปลอดเชื้อได้หลายชั่วโมงแล้ว
แต่ก็ไม่เห็นเนตรนภามาเยี่ยมลูกเลย..ทีแรกคันศรคิดว่าเธอกลับไปบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่พอโทรไปที่บ้านบอกว่าไม่ได้มา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรัก
เนื้อเรื่องยาวกว่านี้จะดีมากคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ...