พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 144

เมื่อได้ยินลู่จื่อเซียนเอ่ยชื่อ “เซี่ยซีหว่าน” ลู่หยินหยินจึงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “จื่อเซียน หลานรู้จักเซี่ยซีหว่านด้วยเหรอ? ใช่แล้ว สาวน้อยอัจฉริยะทางการแพทย์คนนี้ก็คือเซี่ยซีหว่าน ป้าอยากจะแนะนําพวกเธอได้รู้จักกันยังไงล่ะ”

“คุณป้าครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ!” ลู่จื่อเซียนวางสายทันที

เด็กคนนี้!

ลู่หยินหยินวางโทรศัพท์ลง ภายในใจเธอก็เกิดความสงสัย หรือว่าจื่อเซียนกับซีหว่านจะเป็นคนเคยรู้จักกันมาก่อน?

เมื่อครู่จื่อเซียนยังบอกว่าจะไม่มาแล้วอยู่เลย แต่พอได้ยินชื่อเซี่ยซีหว่านก็เปลี่ยนคําพูดทันที แถมยังรีบตามมาที่นี่อีก นี่ดูเหมือนจะอธิบายอะไรบางอย่างได้แล้วล่ะ

เซี่ยซีหว่านหยิบแก้วทรงสูงขึ้นมาจิบไวน์แดง จากนั้นเซี่ยเหยียนเหยียนก็เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าคร่ำเครียด แล้วถามคาดคั้นเสียงเบาว่า “หว่านหว่าน เธอรู้จักกับอาจารย์ใหญ่ได้ยังไง เธอมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่ใช่ไหม?”

เซี่ยซีหว่านรู้ว่าเซี่ยเหยียนเหยียนรู้สึกแย่มากราวกับมีหนามทิ่มแทงเข้าที่อก เพราะอย่างไรแล้วการศึกษาและการแพทย์เป็นสิ่งที่เซี่ยเหยียนเหยียนภาคภูมิใจมากที่สุด และเป็นสิ่งสำคัญหนึ่งเดียวในชีวิตเธอ หากวันใดเธอสูญเสียเครื่องประดับที่เปรียบดังแสงสว่างนี้ไป เมื่อถึงวันนั้นเธอก็จะไร้ค่า

“เซี่ยเหยียนเหยียน สิ่งที่เธอให้ความสำคัญมากที่สุดคืออะไร เธอจงสนุกไปกับวิธีการของฉันเถอะนะ เพราะฉันจะแย่งทุก ๆ สิ่งที่เธอรักเอามาให้หมด และให้เธอได้ลิ้มรสชาติที่ฉันสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปเมื่อสิบปีก่อนและถูกทุกคนบนโลกนี้ทอดทิ้ง”

ความรู้สึกของเซี่ยเหยียนเหยียนจมดิ่งลงอย่างไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน เซี่ยซีหว่านรู้จักอาจารย์ใหญ่ เธอคิดว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะยังมีเรื่องที่น่ากลัวอีกมากที่กำลังจะตามมา

เซี่ยเหยียนเหยียนกําหมัดแน่น “หว่านหว่าน งั้นเรามาคอยดูกัน!”

ทันใดนั้นเองลู่หยินหยินก็เรียกเธอขึ้นจากด้านข้าง “ซีหว่าน มานี่หน่อยสิจ๊ะ”

ลู่หยินหยินกำลังเรียกเธอ เซี่ยซีหว่านรีบวางแก้วไวน์ลงอย่างรวดเร็ว เธอมองเซี่ยเหยียนเหยียนด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ขอโทษด้วยนะ ฉันขอตัวก่อนล่ะ”

เซี่ยซีหว่านเดินไปหาลู่หยินหยิน แล้วลู่หยินหยินก็จูงมือเล็กของเธอเดินจากไป

เซี่ยเหยียนเหยียนมองตามทางที่ทั้งสองคนค่อย ๆ เดินหายลับจากไป ภายในใจก็อิจฉาจนแทบจะกระอักเลือดออกมา เมื่อครู่ลู่หยินหยินไม่ได้ปลายตามองเธอเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของเธอมีเพียงเซี่ยซีหว่านเท่านั้น!

เซี่ยเหยียนเหยียนไม่ชอบความรู้สึกที่ถูกปฏิบัติอย่างเย็นชาและถูกเมินเฉยมากที่สุดในชีวิตของเธอ เหมือนกับเมื่อหลายปีก่อนที่เธอคอยตามหลังเป็นเงาของเซี่ยซีหว่านและเยี่ยหลิง เธอเป็นเหมือนกับตัวประกอบที่ส่งเสริมให้หว่านสาวงามแห่งทิศใต้และหลิงสาวงามแห่งทิศเหนือดูโดดเด่นก็เท่านั้น ไม่มีได้ตัวตนอะไรให้คนพูดถึง แถมยังถูกหัวเราะเยาะว่าเป็นทาสรับใช้ที่คอยตามติดเหมือนเงาตามตัวและคำอื่น ๆ อีกมากมาย

...

เซี่ยซีหว่านเดินตามลู่หยินหยินไป เธอถามขึ้นอย่างสงสัย “อาจารย์ใหญ่คะ คุณจะพาฉันไปที่ไหนคะ ไปพบกับคนสําคัญคนนั้นหรือเปล่าคะ?”

ลู่หยินหยินพยักหน้ารับและพูดว่า “ใช่แล้วจ๊ะซีหว่าน ฉันกำลังจะแนะนําคนคนนี้ให้เธอรู้จัก! นั้นไง เขามาแล้ว!”

เมื่อเซี่ยซีหว่านเงยหน้ามอง สายตาก็ปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่หล่อเหลาร่างหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามา ลู่จื่อเซียนมาถึงแล้ว

ลู่จื่อเซียนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ดูมีกลิ่นอายของความสะอาดและเยือกเย็นในเวลาเดียวกัน และในมือของเขาถือเสื้อเบสบอลสีดําเอาไว้ตัวหนึ่ง เขาเพิ่งจะกลับมาจากข้างนอก ไม่นาน เขาก็หยุดฝีเท้าลงอย่างรวดเร็ว

เมื่อทั้งสองคนสบตากัน ขนตาที่เรียวยาวเป็นแพของเซี่ยซีหว่านก็สั่นระริก เธอไม่คิดว่าบุคคลสําคัญที่อาจารย์ใหญ่พูดอย่างมีเลศนัยจะเป็นเขา

ลู่จื่อเซียนมองเห็นเซี่ยซีหว่านที่อยู่ด้านหน้าในทันที หญิงสาวยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ภายใต้แสงไฟระยิบระยับ ดวงตาสดใสคู่นั้นมองเขาด้วยความประหลาดใจอยู่หลายเท่า

เมื่อสองปีก่อนเธอไปที่มหานครเอมพีเรียล เด็กสาวที่อายุยังไม่ครบ18 ปีบริบูรณ์ดูอ่อนเยาว์และไร้เดียงสามาก แต่ก็ไม่สามารถปกปิดกลิ่นอายของความงดงามไร้ที่ติได้ ลู่จื่อเซียนยังจําได้ว่าวันนั้นเธอใส่เสื้อยืดและกางเกงยีนส์สีดำ ท่าทางเหมือนสาวน้อยที่มีหน้าตาสวยงามและอ่อนเยาว์

เขาและเธอรักษาชีวิตผู้ป่วยที่มีเลือดออกอย่างรุนแรงบนถนนใหญ่ในมหานครเอมพีเรียล นิ้วเรียวนุ่มของเธอเคยสัมผัสผ่านปลายนิ้วเรียวยาวและนิ้วทั้งสิบของเขา กดลงบนหัวใจของผู้ป่วยเพื่อทำการปั๊มหัวใจไปพร้อมกัน

ดังนั้นเมื่อเซี่ยซีหว่านปรากฏตัวครั้งแรกที่ซูมี่ เพียงแค่มองเขาก็จําเธอได้ในทันที

หญิงสาวที่สวมผ้าคลุมหน้าเติบโตขึ้นอย่างเงียบ ๆ ในความทรงจําของเขา และตอนนี้เธอก็เติบโตภายใต้รูปลักษณ์ที่สวยงามสดใสเลิศล้ำ

เขาตามหาเธอมาเป็นปี ๆ เมื่อเวลาใกล้จะหมดลง ตอนที่เขากําลังจะเตรียมกลับมหานครเอมพีเรียล เธอก็มาช้าไป

ลู่จื่อเซียนก้าวเท้าเดินออกไปและเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเซี่ยซีหว่าน

เซี่ยซีหว่านมองเขาด้วยความประหลาดใจ “คุณเองเหรอคะ? จริงสิ วันนั้นคุณเอาตำราหัวใจสูตรต้าหลัวจากจ้าวลี่หยิงไปเหรอคะ? คุณช่วยฉันไว้อีกครั้งแล้ว ฉันอยากจะกลับไปขอบคุณ แต่คุณก็ไปซะแล้ว หลังจากนั้นฉันก็ไม่เห็นคุณมาสองวันแล้วค่ะ”

ลู่จื่อเซียนมองเธอ “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ”

ทันใดนั้นเองลู่หยินหยินก็เดินเข้ามา “จื่อเซียน หลานกับซีหว่านรู้จักกันเหรอ?”

“จื่อเซียน นี่คือชื่อของคุณเหรอคะ?” เซี่ยซีหว่านยังไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินชื่อเขา เธอมองไปที่ลู่หยินหยินด้วยสายตาประหลาดใจ

“อาจารย์ใหญ่คะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่สถาบันวิจัยซูมี่ พวกเราทั้งสองคนอยู่ที่ห้องยาและยังเป็นเพื่อนร่วมงานกันด้วยค่ะ”

“ซีหว่าน ตอนนี้เธออยู่ที่สถาบันวิจัยซูมี่ของนักวิชาการหลี่เหวินฉิงหรอกเหรอ งั้นเธอกับจื่อเซียนก็ช่างมีวาสนาต่อกันจริง ๆ ฉันยังคิดจะฉวยโอกาสงานเลี้ยงอาหารค่ำครั้งนี้แนะนําพวกเธอให้รู้จักอยู่เลย คิดไม่ถึงว่าพวกเธอจะรู้จักกันแล้ว พวกเธออยู่ด้วยกันเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ?”

เอ่อ...

เซี่ยซีหว่านกระพริบตาอย่างทะเล้นเล็กน้อย และเอ่ยอยากตะกุกตะกัก “อันนี้พูดได้ไหมคะ? พวกเราไม่เคยคุยกันเลยสักคำ เขาชอบ...ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะตลอดเลยค่ะ…”

อะไรนะ หลับเหรอ?

ลู่หยินหยินยกมือขึ้นตีลู่จื่อเซียนไปหนึ่งที “เจ้าเด็กคนนี้ หลานบ้าไปแล้วเหรอ เอาเวลาของตัวเองมานอนได้ยังไง และยังสร้างความประทับใจที่ไม่ดีให้เซี่ยซีหว่านด้วยเหรอ?”

เซี่ยซีหว่านคิดไม่ถึงว่าลู่หยินหยินจะตีลู่จื่อเซียน ถ้ารู้แต่แรกเธอจะไม่พูดเลย เธอเงยหน้าเรียวเล็กมองลู่จื่อเซียนอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย “ดูเหมือนฉันจะทำผิดไปแล้วค่ะ ที่เอาคุณมาฟ้อง…”

ลู่จื่อเซียนมองเซี่ยซีหว่าน น้ำเสียงที่โอนอ่อนของหญิงสาวแฝงไว้ด้วยความรู้สึกผิดและรอยยิ้มที่นุ่มนวล เธอมองซ้ายมองขวาไปมาราวกับ...ลูกแมวน้อย

แม่สื่อลู่หยินหยินคนนี้คอยสังเกตการกระทำและสีหน้าอยู่ตลอด เธอเห็นสายตาของลู่จื่อเซียนที่มองมาทางเซี่ยซีหว่านอยู่ตลอดเวลา ก็รู้ได้เลยว่าเรื่องนี้ประสบความสําเร็จแล้ว

“ซีหว่าน จื่อเซียนของฉันไม่ใช่คนขี้เซาอะไร เขาน่าจะเบื่อ ดังนั้นการนอนก็เป็นอะไรที่ต้องใช้เวลาสักหน่อย จื่อเซียนของฉันคือบุตรสวรรค์แห่งวงการแพทย์ อายุ 20 ปีก็เป็นนักวิชาการของมหานครเอมพีเรียลแล้ว”

ทำไมเขาเก่งกาจขนาดนี้?

เซี่ยซีหว่านเคยเจอนักวิชาการของมหานครเอมพีเรียลมาบ้าง แต่พวกเขาล้วนเป็นผู้อาวุโสแล้วทั้งนั้น นักวิชาการหลี่เหวินฉิงก็นับว่าอายุค่อนข้างน้อยแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับนักวิชาการที่อายุน้อยเท่าลู่จื่อเซียน ดูแล้วเขาน่าจะอายุประมาณ 24 ปีได้

เธอคิดว่าเขาเข้ามาที่สถาบันซูมี่ไปอย่างนั้นเอง

“อย่างนั้นก็ขออภัยที่เสียมารยาทด้วยนะคะ ต่อไปโปรดชี้แนะด้วยค่ะ” เซี่ยซีหว่านยกยิ้มริมฝีปากสีแดงขึ้น

ลู่จื่อเซียนมองเธอ ริมฝีปากบางเย็นชาของเขายกยิ้มขึ้นบาง ๆ เธอจําเขาไม่ได้เลย ไม่อยากนั้นเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเธอมีความสามารถที่อยู่ระดับเดียวกันกับเขา?

ในที่สุดลู่หานถิงก็มาถึง ทันทีที่เขาปรากฏตัว เขาก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกสายตาในงานทันที ทุกคนมารุมล้อมต้อนรับเขา เขาพูดคุยกับคนเหล่านั้นอย่างพอเป็นพิธี หลังจากนั้นเขาก็ไปหาลู่หยินหยิน

เขาเพิ่งจะเดินเลี้ยวเข้ามาตรงมุมมุมหนึ่ง จากนั้นเขาก็ชะงักฝีเท้าลงทันที เพราะเขามองเห็นลู่จื่อเซี่ยนและเซี่ยซีหว่านอยู่ทางด้านหน้า แสงไฟสีเหลืองสดใสสาดส่องลงมาจากเหนือศีรษะ ลู่จื่อเซียนและเซี่ยซีหว่านยืนอยู่ตรงข้ามกัน คนหนึ่งเป็นบุตรสวรรค์นักวิชาการแห่งมหานครเอมพีเรียล และอีกคนเป็นหญิงสาวอัจฉริยะที่งดงามไร้ที่ติ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี