พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 147

มันเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยจริง ๆ เซี่ยซีหว่านไม่รู้ว่าทําไมทุกคนถึงได้มีปฏิกิริยาใหญ่โตกันขนาดนี้

หญิงชราตะลึงงันไปเล็กน้อยและยอมรับในทันทีว่าเรื่องนี้เกินความคาดหมายไปมาก แต่พอคิดอย่างถี่ถ้วนด้วยเหตุและผลแล้ว ลูกสาวของหลินสุ่ยเหยาจะเป็นคนธรรมดาไปได้อย่างไร?

คุณท่านตบมือเล็กของเซี่ยซีหว่านอย่างทะนุถนอม “นี่หว่านหว่าน หนูทําให้ย่ารู้สึกทึ่งจริง ๆ หนูยังมีเรื่องอื่นปิดบังย่าอยู่อีกไหม?”

เซี่ยซีหว่านแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย แล้วออดอ้อนด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “คุณย่าคะ หนูไม่รู้ว่าคุณย่าได้ยินอะไรกันมาบ้าง หนูกับคุณป้าไม่สนิทกันจริง ๆ และหนูก็ไม่ได้ไปเรียนที่สถาบันเซิงลี่ด้วย เลยไม่มีอะไรที่จะต้องพูด อีกอย่างเรื่องก็เป็นเรื่องของคนอื่น หนูคิดว่าไม่มีความจําเป็นอะไรที่จะต้องพูดค่ะ”

เธอพูดมาแบบนี้ คุณท่านจึงรู้แล้วว่าตัวเธอต้องมีเรื่องอื่น ๆ อีกแน่นอน บางทีสําหรับการออกมาพูดของเทพธิดาสวรรค์ผู้นี้แล้วก็เหมือนกับไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องพูดเหมือนที่ลู่หยินหยินทำ แต่กลับเป็นความลับในสายตาของคนอื่น

ทันใดนั้นหญิงชราก็มองเห็นรัศมีที่เปล่งออกมาจากร่างของหญิงสาวคนนี้ได้ทันที เซี่ยซีหว่านลูกสาวของหลินสุ่ยเหยานั้นเปรียบเสมือนกับไข่มุก เพราะตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ เธอก็เริ่มส่องแสงแล้ว

หญิงชรากุมมือเล็กของเซี่ยซีหว่านไว้แน่นพลางเอ่ยปากชมเชยไม่หยุด “จุ๊จุ๊ อายุ 15 ปีก็ได้เป็นมหาบัณฑิตน้อยแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมลู่หยินหยินถึงบอกว่าหนูทําลายสถิติของประวัติศาสตร์วงการแพทย์ทั้งหมด วิสัยทัศน์หยินหยินของฉันสูงมาก หนูน่าจะเป็นเด็กสาวคนแรกที่เธอชอบ”

ขณะพูดหญิงชราก็พลางหันไปมองลู่หานถิง แล้วพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ว่า “หานถิง เจ้าเด็กดื้อนี่โชคดีจริง ๆ หว่านหว่านเพียบพร้อมขนาดนี้ ต่อไปหลานต้องดีกับหว่านหว่านให้มากขึ้นอีกเท่าตัวเลยนะ”

เซี่ยซีหว่านเงยหน้ามองลู่หานถิง ขาเรียวยาวของชายหนุ่มยืนตระหง่านอยู่ในห้องนั่งเล่นได้สักพักแล้ว เขากําลังหลุบตาลงปลดกระดุมสีเงินที่อยู่บนแขนเสื้อเชิ้ต ด้วยท่าทางที่ไม่ใส่ใจนัก เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาคมเข้มมองไปที่เธอ

ทั้งสองคนสบตากัน ไม่นานลู่หานถิงก็ละสายตาไป “คุณย่าครับ ผมขอไปจัดการเอกสารในห้องทำงานสักหน่อยนะครับ”

ลู่หานถิงก้าวขายาวขึ้นชั้นบนไป

เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของเขาหายไปจากสายตา เซี่ยซีหว่านก็ก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า “คุณย่าคะ หนูเองก็จะขึ้นไปข้างบนเหมือนกันค่ะ”

“ได้ ไปเถอะ ไปอาบน้ำแล้วลงมาทานมื้อเย็น วันนี้อู๋หม่าทําอาหารที่หนูชอบทานทั้งนั้นเลย”

หญิงชราพูดด้วยรอยยิ้มอย่างรักใคร่เอ็นดู

...

ภายในห้องทำงาน

ลู่หานถิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ นิ้วเรียวยาวทั้งสองคีบบุหรี่เอาไว้หนึ่งม้วน ขณะที่เอกสารกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะทำงาน แต่เขากลับไม่ได้จัดการอะไรกับมันเลย กลับกันแววตาที่หม่นหมองกําลังเหม่อลอยออกไป

ไม่นานก้นบุหรี่ก็ถูกขยี้ลงไปบนที่เขี่ยบุหรี่ ลู่หานถิงลุกขึ้นยืนเดินออกจากห้องไป และมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องนอน

มือใหญ่วางไปบนประตูคิดจะผลักเปิดออก แต่จู่ ๆ เขาก็หยุดชะงักการกระทำลง ลู่หานถิงยืนอยู่นอกประตูเงียบ ๆ ครู่หนึ่ง ก่อนจะถือเสื้อโค้ทและออกจากบ้านไป

หญิงชราที่อยู่ในห้องนั่งเล่นเห็นก็รีบเรียกเขาไว้ “หานถิง มืดขนาดนี้แล้วหลานจะออกไปไหน?”

ลู่หานถิงปิดเปลือกตาคมคายลง เสียงทุ้มต่ำที่น่าหลงใหลของเขาทำให้คาดเดาไม่ได้ว่าตอนนี้อารมณ์เปลี่ยนไปอย่างไร “ในบริษัทมีเรื่องด่วนต้องจัดการครับ คุณย่าครับ คืนนี้ผมจะไม่กลับมาแล้ว”

“คืนนี้หลานจะไม่กลับมาที่บ้านแล้วก็ไม่ต้องบอกย่าหรอก หลานบอกเซี่ยซีหว่านหรือยัง?”

ลู่หานถิงเม้มปากเล็กน้อย และไม่พูดอะไร

“จื่อเซียน...ถูกใจหว่านหว่านเข้าแล้วใช่ไหม?” คิดว่าหญิงชราผู้นี้เป็นใคร แค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติระหว่างคนสองคนนี้ เพียงแค่คิดทบทวนดูก็เดาออกแล้ว

ลู่หานถิงมองไปยังคุณย่าของเขา “ไม่แน่ใจครับ แต่น่าจะใช่”

“จื่อเซียนผู้หยิ่งยโสและมีชื่อเสียงในฐานะชายผู้มีความอัจฉริยะ ตอนนี้ดูเหมือนว่าหว่านหว่านคงจะเป็นสิ่งที่เขาโปรดปรานไปแล้วแน่ ๆ การที่เขาจะหวั่นไหวกับหว่านหว่านนั้นก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก” หญิงชรากล่าว

ลู่หานถิงหยิบกุญแจรถขึ้นมา และไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก “คุณย่าครับ ผมไปบริษัทแล้วนะครับ”

“หานถิง” หญิงชราร้องเรียกขึ้น “หว่านหว่านเป็นเด็กดี หลานอย่าทิ้งเธอไว้คนเดียวแบบนี้เลย ความรักและชีวิตแต่งงานล้วนต้องใช้ความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย หว่านหว่านไม่เคยรังเกียจอาการป่วยของหลานเลย แต่ในทางกลับกันเธอพยายามทําเพื่อหลานมาตลอด เธออยากให้หลานดีขึ้น หว่านหว่านคนนี้ทําให้หลานมีเหตุผลอะไรที่จะถอยหนี หากทำให้เธอหลุดมือไป ต่อจากนี้หลานคงไม่บังเอิญเจอผู้หญิงแบบเธออีกแล้ว สิ่งที่มนุษย์กลัวที่สุดในชีวิตก็คือความผิดพลาดนะ”

ลู่หานถิงยืนอยู่ตรงประตู เขาไม่ได้หันกลับไป แต่กลับยืนอยู่ตรงนั้นอยู่ครู่ใหญ่ แสงจากโคมไฟแบบพระราชวังโบราณสาดส่องเงาจากร่างของเขาให้ทอดยาวออกไป ราวกับส่งผ่านความอ้างว้างเข้ามาอย่างไร้เหตุผล

...

แต่ไม่ว่าอย่างไรลู่หานถิงก็เดินจากไปแล้ว หญิงชรานั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น พ่อบ้านฝูป๋อพูดเสียงเบาว่า

“คุณท่านครับ สถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีนัก คุณนายนั้นดีเลิศเกินไป หากชาติกําเนิดของเธอถูกเปิดเผยอีกครั้ง แล้วทำให้ตระกูลลู่รู้ว่าคุณนายก็คือคู่หมั้นของคุณชายจื่อเซียน ผมรู้สึกว่าจะต้องมีคนมากมายมาร่วมในการแก่งแย่งคุณนายในครั้งนี้แน่”

คุณท่านอุ้มเจ้าหยวนหยวนแล้วตัดขนบนตัวมัน ท่านเค้นเสียงพูดว่า “วางใจเถอะ ตราบใดที่มีฉันคอยปกครองอยู่ที่นี่ ใครก็มาวุ่นวายไม่ได้ทั้งนั้น เพียงแต่…”

คุณท่านกอดเจ้าหยวนหยวนไว้ในอ้อมกอดของตน แล้วพูดขึ้นราวกับคิดอยู่คนเดียวว่า “การแต่งงานเป็นเรื่องของพวกเขาสองคน ขอเพียงพวกเขาไม่ปล่อยมือจากกัน ก็ไม่มีใครสามารถทำให้พวกเขาแยกจากกันไปได้ แต่ถ้าพวกเขาปล่อยมือกันเอง ก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้”

ฝูป๋อเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ ในตอนนั้นเองเซี่ยซีหว่านก็เปิดประตูห้องแล้วเดินลงบันไดไป

เหมียวเหมียว

เมื่อเห็นเจ้านายของตัวเอง เจ้าหยวนหยวนก็รีบกระโดดลงมาจากอ้อมกอดของหญิงชราทันที แล้ววิ่งไปที่เท้าของเซี่ยซีหว่านพลางร้องเสียงแจ๋ว

เซี่ยซีหว่านย่อตัวลงและอุ้มเจ้าหยวนหยวนขึ้นมา ริมฝีปากแดงระเรื่อยกยิ้ม “หยวนหยวน แกคิดถึงฉันใช่ไหม?”

เหมียวเหมียว

คุณท่านยิ้มแล้วพูดว่า “หว่านหว่าน หิวแล้วใช่ไหม ไปกันเถอะ ไปทานมื้อเย็นกัน”

เซี่ยซีหว่านเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมดำยาวพริ้วสลวยที่เปียกชื้นไปด้วยกลุ่มหยดน้ำหลายหยดพาดอยู่บนไหล่ เธอไม่ได้สวมผ้าคลุมหน้า เผยให้เห็นใบหน้าเล็กงดงามขนาดเท่าฝ่ามือที่สะอาดสะอ้าน

“คุณย่าคะ” เซี่ยซีหว่านเรียกคุณท่านเอาไว้ ดวงตาสดใสเปล่งประกายของเธอมองขึ้นไปบนห้องทำงานที่อยู่ชั้นบน “เรารออีกหน่อยไหมคะ คุณลู่...ยังไม่ลงมาเลยค่ะ”

“หานถิงเพิ่งจะออกไปเมื่อครู่นี้เอง เขาบอกว่าบริษัทมีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการ เขายังบอกอีกว่าคืนนี้จะไม่กลับมาแล้ว”

อะไรนะ?

ขนตาเรียวยาวของเซี่ยซีหว่านสั่นระริก เธอไม่รู้ว่าเขาออกไปแล้ว คืนนี้เขาไม่กลับมาแล้วแถมไม่ได้บอกเธอเลยสักคำ เขาไม่เคยไม่กลับบ้านตอนกลางคืนมาก่อน

เซี่ยซีหว่านกอดเจ้าหยวนหยวน แล้วก้มหน้าลงอย่างรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เขาโกรธอะไรกันแน่ หรือเขายังสงสัยเธอกับลู่จื่อเซียนอยู่?

ระหว่างเธอกับลู่จื่อเซียนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น

ตอนนั้นเองคุณท่านก็เดินเข้ามาลูบหัวเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่าน แล้วพูดว่า “หว่านหว่าน เวลารักกันน่ะมันง่ายแต่เวลาอยู่ด้วยกันน่ะมันยาก การแต่งงานต้องปรับตัวเข้าหากัน หานถิงเป็นคนที่โดดเดี่ยวมาก หลายปีมานี้มีแค่ย่าที่คอยอยู่ข้าง ๆ เขา หนูรู้ไหมว่าสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคืออะไร สิ่งนั้นก็คือ...ความรู้สึกปลอดภัยยังไงล่ะ”

“คืนนี้หนูโดดเด่นและเปล่งประกายจนเกินไปจึงทําให้เขาไม่รู้สึกปลอดภัย เขาก็เป็นเหมือนหนูนั่นแหละ เขาอยากจะจับหนูไว้ที่กลางใจให้แน่น ๆ แต่เขาก็กลัว...ว่าจะจับหนูแน่นจนเจ็บเกินไป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี