ที่นี่คือห้องผู้ป่วยระดับสูงของสถาบันวิจัย แม้ว่าจะได้รับการยินยอมจากคุณท่านลี่ว่าอนุญาตให้นักข่าวเหล่านี้เข้ามาได้ แต่ทุกคนทำได้เพียงกระซิบกระซาบด้วยเสียงแผ่วเบาเท่านั้น จึงทำให้บรรยากาศทั้งหมดในตอนนี้ค่อนข้างเงียบสงบ
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากโถงทางเดินที่เงียบสงัด จากนั้นบอดี้การ์ดชุดดําหลายคนก็เข้ามา ด้านหน้าสุดคือชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อโค้ทสีดํา ใบหน้าหล่อเหลาเปล่งประกายราวกับเทพบุตร ดวงตาเฉี่ยวคมเรียวยาวคู่นั้นแฝงไว้ด้วยรังสีแห่งความเลือดเย็น รัศมีที่เต็มไปด้วยความหยิ่งยโสและความเกรี้ยวกราดของเขานั้นทําให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะพากันถอยหนี
บอดี้การ์ดชุดดําทำการอารักขาอยู่ภายนอกห้องผู้ป่วย จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออก และชายคนนั้นก็เดินเข้ามา
เมื่อลมหนาวจากภายนอกพัดโชยเข้ามา ผู้คนในห้องผู้ป่วยก็พากันหันมามอง ทันใดนั้นทุกคนก็เห็นชายหนุ่มรูปงามยืนตระหง่านอยู่ตรงประตู
เขาเป็นใคร?
สีหน้าของโจวผิงเปลี่ยนไป เธอรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มคนนั้น แล้วพูดว่า “คุณชายสวี่ คุณมาที่นี่ได้อย่างไรคะ?”
คุณชายสวี่?
นามสกุลสวี่เหรอ?
นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้นึกขึ้นได้อย่างรวดเร็วว่า ไม่มีตระกูลผู้มั่งคั่งในเมืองไห่เฉิงที่นามสกุลสวี่อยู่จริง ๆ แต่...พวกเขาเคยได้ยินนามสกุล...สวี่!
มหานครเอมพีเรียลเป็นเมืองหลวงที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด ภายในเมืองนั้นมีผู้คนที่มีความสามารถแต่ยังไม่ถูกเปิดเผยอีกมากมาย ใจกลางเมืองของมหานครเอมพีเรียลมีกลุ่มของตระกูลใหญ่ที่มั่งคั่งประกอบไปด้วยผู้ทรงเกียรติและเศรษฐีอยู่หลายตระกูล ได้ยินว่า ในใจกลางเมืองมีอยู่สี่ตระกูลใหญ่ คือ ตระกูลลี่ ตระกูลลู่ ตระกูลสวี่ และตระกูลเยี่ย ส่วนลูกชายของตระกูลสวี่ สวี่เส้าหนานนั้นมีนิสัยดื้อรั้นและไม่ชอบอยู่ในกฎเกณฑ์ ตั้งแต่ยังหนุ่มเขาจึงกลายเป็นผู้นำของมหานครเอมพีเรียล
ในหมู่พวกเขา ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลลี่กับตระกูลสวี่เกิดจากการแต่งงานระหว่างชนชั้นมั่งคั่ง ลูกสาวของตระกูลลี่แต่งงานกับนายน้อยของตระกูลสวี่ และลูกชายที่ถือกำเนิดจากพวกเขาก็คือสวี่เส้าหนาน
หากถามว่าตระกูลไหนร่ำรวยที่สุดในบรรดาตระกูลใหญ่มั่งคั่งเหล่านี้ อันดับที่หนึ่งในลิสต์ก็ต้องตกเป็นของตระกูลลี่ ลี่จวินโม่ผู้คุมหางเสือของตระกูลลี่คือเศรษฐีอันดับหนึ่ง
สวี่เส้าหนานถอดถุงมือหนังสีดําที่อยู่ในมือออกแล้วโยนให้ลูกน้องที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็เดินไป
ที่ข้างเตียง เขามองไปที่คุณท่านลี่ แล้วพูดว่า “คุณยายครับ ทําไมคุณยายถึงได้แอบหนีมาที่เมืองไห่เฉิงคนเดียวครับ? และหน้าคุณยายก็ซีดขนาดนี้อีก พวกเขาดูแลคุณยายไม่ดีใช่ไหมครับ?”
ขณะที่สวี่เส้าหนานกำลังพูด เขาก็หรี่ตาคู่เฉี่ยวคมมองไปที่ผู้อํานวยการโจวอย่างเลือดเย็น แล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าสถาบันวิจัยซูมี่แห่งนี้จะไม่จําเป็นต้องมีอีกต่อไป ใครก็ได้ ทําลายที่นี่ให้หมดแล้วหารถสักสองสามคันมาถล่มที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลองซะ !”
เมื่อสิ้นเสียงนี้ ทุกคนก็พากันส่งเสียงฮือฮาออกมาด้วยความตกใจ ชายคนนี้กําลังพูดอะไรอยู่ สถาบันวิจัยซูมี่เป็นโรงพยาบาลจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เขาจะหาคนมาถล่มที่นี่เหรอ?
เดิมทีจากที่ทุกคนฟังก็อาจเข้าใจว่าเป็นเรื่องตลกได้ แต่ดวงตาของสวี่เส้าหนานอันเฉี่ยวคมคู่นั้นที่หรี่ลงเข้าหากันได้แผ่กลิ่นอายของความเอาแต่ใจและดุร้ายออกมาตั้งแต่หัวจรดเท้า ทําให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่นเข้าไปจนถึงกระดูกดำ
เขาดูไม่มีวี่แววว่าเป็นการล้อเล่นเลย
โจวผิงแทบอยากจะร้องไห้ออกมา เธอไม่รู้ว่านายท่านแห่งมหานครเอมพีเรียลท่านนี้ตามมาเจอที่นี่ได้อย่างไร เขาไม่ได้พูดล้อเล่นใด ๆ เลยจริง ๆ ครั้งหนึ่งนายท่านคนนี้ไปเที่ยวบาร์ที่ใหญ่ที่สุดในมหาครเอมพีเรียล และเกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อย เขาปีนขึ้นไปบนรถดันดินด้วยตัวเองและขับมันถล่มบาร์ของคนอื่นจนราบคาบ
โจวผิงไม่อยากไปขัดแข้งขัดขาคนแบบนี้ เธอจึงมองไปยังคุณท่านลี่เพื่อขอความช่วยเหลือในทันทีว่า “คุณท่านคะ คือ…”
“เพี๊ยะ” คุณท่านลี่ที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยยกมือขึ้นตบไปที่หัวของสวี่เส้าหนานในทันทีพร้อมกับดึงหูของเขาอย่างแรง แล้วพูดว่า “เจ้าเด็กเหลือขอ หลายวันทีผ่านมานี้ฉันยังไม่ได้จัดการกับแกเลย แกอยากตายนักใช่ไหม ทําตัวให้มันดี ๆ หน่อย!”
สวี่เส้าหนานคนนี้ไม่เคยกลัวฟ้ากลัวดิน แต่กลับกลัวคุณท่านลี่ ดังนั้นทุกคนจึงเห็นกับตาตัวเองว่า คนที่เพิ่งทําตัวเอาแต่ใจและโหดเหี้ยมเมื่อครู่นี้กำลังแสดงท่าทางน่าสงสารและไร้พิษสงราวกับเด็กน้อยออกมาอย่างรวดเร็ว เขาร้องตะโกนโอดโอยว่า “คุณยายครับ มันเจ็บนะครับ รีบปล่อยมือเร็วเข้า ผมผิดไปแล้ว ผมอับอายขายหน้าเขาไปหมดแล้ว คุณยายช่วยไว้หน้าผมต่อหน้าคนข้างนอกหน่อยเถอะครับ...”
สวี่เส้าหนานพูดอ้อนวอนขอความเมตตาไม่หยุด หญิงชราผู้เข้มงวดจึงยอมแพ้
เซี่ยซีหว่านมองดูคุณชายสวี่ที่จู่ ๆ ก็มาถึงที่นี่และเข้าใจเรื่องราวได้คร่าว ๆ ว่า นี่คือหลานชายทางสายเลือดของหญิงชราท่านนี้ ยายหลานคู่นี้ดูน่าสนใจมาก
“คุณท่านคะ กินลูกอมสักหน่อยไหมคะ?” เซี่ยซีหว่านเอ่ยปาก
“ลูกอมเหรอ? นี่คือลูกอมอะไร?” ดวงตาเฉี่ยวคมของสวี่เส้าหนานคู่นั้นมองหน้าเซี่ยซีหว่านอย่างไม่พอใจทันที เขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วพูดว่า “คุณเป็นใคร คุณจะเอาของให้คุณยาย
ผมกินได้ยังไง ผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้มีจุดประสงค์ร้าย?”
สวี่เส้าหนานรีบยื่นมือออกไปแย่งลูกอมในมือของเซี่ยซีหว่านในทันที
จากนั้นก็มีเสียง “เพี๊ยะ” ดังขึ้น คุณท่านลี่ยื่นมือออกมาตบมือสวี่เส้าหนานอย่างแรง แล้วพูดว่า “เจ้าเด็กบ้า พูดจาให้มันสุภาพหน่อย หว่านหว่านเป็นเทพธิดาน้อยของฉันนะ !”
สวี่เส้าหนานก้มหน้าลงและเห็นว่าบนมือของเขาถูกตีจนแดงไปหมด จึงพูดต่อว่า “คุณยายครับ คุณยายทำรุนแรงกับผมมากเลยนะครับ นี่ผมเป็นหลานชายทางสายเลือดของคุณยายหรือเปล่าครับ? แล้วยังมีเทพธิดาน้อยอะไรคนนี้อีก ผมว่าเธอเป็นผู้หญิงอัปลักษณ์มากกว่า ไม่อย่างนั้นทําไมเธอถึงสวมผ้าคลุมหน้าเอาไว้ล่ะ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากให้ใครเห็นหน้า..”
จากนั้นสายตาที่เต็มไปด้วยความดุดันของคุณท่านลี่ก็มองมาที่สวี่เส้าหนานอย่างอาฆาตอีกครั้ง เขาจึงรีบเงียบปากลงในทันที
“เทพธิดาน้อย เธออย่ากลัวไปเลย วันนี้ฉันขอยืนกรานเอาไว้ตรงนี้เลยว่า ถ้าหากเขากล้าแตะต้องเส้นผมของเธอแม้แต่เส้นเดียว ฉันจะตัดมือเขาทิ้งทันที และถ้าหากว่าเขารังแกเธอ อย่าได้พูดพล่ามไร้สาระกับเขา แค่ตบไปทีหนึ่ง เขาจะได้ไม่อยากหาเรื่องกับเธออีก” คุณท่านลี่พูดพลางมองเซี่ยซีหว่านแล้วยิ้มจนตาหยี
สวี่เส้าหนานพูดอะไรไม่ออก...
ให้ตายสิ !
คุณยาย นี่แม่ของผมถูกเก็บมาจากถนนใช่ไหม?
สวี่เส้าหนานมองอย่างตกตะลึง เขาไม่เคยเห็นคุณยายชอบผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อนเลย
แน่นอนว่าเซี่ยซีหว่านไม่ได้ถือสาเอาความอะไรกับสวี่เส้าหนาน และมองข้ามเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้ไป เธอกลับไปสนใจที่ประเด็นหลักแล้วพูดว่า “คุณท่านคะ วางใจเถอะค่ะ ถ้ามีคนกล้ารังแกฉัน ฉันจะไม่ยอมอ่อนข้อให้แน่นอน เรากินลูกอมกันก่อนนะคะ”
“ลูกอมนี้รสอะไร?”
“เอ่อ...รสมิ้นท์ค่ะ”
ลูกอมรสมิ้นท์ คุณท่านลี่ไม่เคยกินมาก่อน แต่เธอคิดว่าคงมีรสชาติหวานมาก เธอชอบแอบกินของหวานกับชุ่ยเฟินที่บ้านตระกูลลู่ที่สุด
คุณท่านลี่อ้าปากกินลูกอมสีขาวอย่างง่ายดาย
แต่วินาทีต่อมา รสขมของสมุนไพรจีนก็เริ่มแผ่ซ่านไปทั่วปากของเธอ คุณท่านลี่จึงทําหน้ายู่ยี่เพราะความขมของลูกอม แล้วพูดว่า “มันคือยานี่ เทพธิดาน้อย เธอโกหกฉันเหรอ !”
ทันใดนั้น เซี่ยซีหว่านยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วแทงเข็มทองคำเล่มที่กำลังจับอยู่ระหว่างนิ้วมือเข้าไปในศีรษะคุณท่านลี่อย่างรวดเร็ว
“บ้าเอ๊ย คุณกล้าให้คุณยายผมกินยาได้ยังไง คุณยายผมไม่ชอบกินยาที่มีรสขมที่สุด คุณยายครับ รีบคายออกมาเร็วเข้า !” สวี่เส้าหนานรีบพุ่งเข้าไปพร้อมกับใช้สองมือประคองกระเป๋าเสื้อของเขาเพื่อให้คุณท่านลี่คายยาที่อยู่ในปากออกมา
คุณท่านลี่อยากจะคายออกมา แต่เสียงอันไพเราะที่เต็มไปด้วยความสุขุมของเซี่ยซีหว่านก็ดังขึ้นว่า “คุณท่านคะ ตอนนี้เข็มปักอยู่บนศีรษะ ขยับไม่ได้นะคะ ไม่อย่างนั้นจะเจ็บมาก”
หญิงชราตกใจจนตัวแข็งทื่อ เธอกลัวความขมขื่นและก็กลัวความเจ็บปวดด้วย
ตอนนี้เซี่ยซีหว่านกะพริบขนตาเรียวยาวปริบ ๆ แววตาของเธอยกยิ้มขึ้น “คุณท่านคะ เวลาอมยาจีนในปากแล้วขมมากใช่ไหมคะ ฉันมีวิธีหนึ่งที่ทำให้ไม่ขมจะบอกท่าน นั้นก็คือกลืนมันลงไปอย่างกล้าหาญค่ะ”
“......”
คุณท่านลี่จะขยับตัวก็ไม่กล้าขยับ จะคายยาออกมาก็คายไม่ได้ เธอจึงทำได้เพียงแค่หลับตากลืนยาลงไปเท่านั้น
สวี่เส้าหนานที่อยู่ด้านข้างตกตะลึงจนตาค้าง คุณยายของเขากลัวการกินยาที่สุด ทุกครั้งเวลาที่ท่านกินยา ทั้งตระกูลสวี่จะต้องมาล้อมรอบท่านเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ท่านกินยา แต่ท่านก็มักหันหน้าไปทางอื่นและแอบทํายาหาย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคุณยายกลืนยาลงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี