เซี่ยซีหว่านรู้ดีว่าตัวเองกําลังต่อต้านสวรรค์ ตํานานเรื่องการเอาชีวิตแลกชีวิตเหล่านั้นอาจไม่เป็นความจริง เธอไม่เชื่อทฤษฎีเหนือธรรมชาติ แต่เชื่อมั่นในตัวเองเท่านั้น
แต่พิษของดอกลำโพงนั้นรุนแรงมาก การทดสอบพิษครั้งแรกก็ได้กัดกร่อนเลือดอันมีค่าของเธอไปแล้ว เป็นพลังเงียบที่ค่อนข้างรุนแรงมาก การทดสอบพิษครั้งที่สองจะเป็นอย่างไร เธอเองก็ไม่มีความมั่นใจอะไรเลย
เธอไม่รู้ว่าลู่จื่อเซียนเคยได้รับพิษดอกลำโพงต้นสุดท้ายมาแล้ว เขาเป็นนักวิชาการแห่งมหานครเอมพีเรียล และมีทีมวิจัยแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของตัวเองภายใต้การบัญชาของเขา ตอนนี้เขาบอกเธออย่างชัดเจนว่าพิษดอกลำโพงจะยังคงอยู่ในร่างกายของเธอ และคนที่ถูกพิษของมันจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน
ความจริงแล้วนี่คือเกมแห่งความเป็นความตาย เธอกับลู่หานถิงสามารถมีชีวิตอยู่ได้แค่คนเดียว !
ลู่จื่อเซียนลุกขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณลองคิดทบทวนดูให้ดี ๆ ก็แล้วกันนะครับ”
เมื่อเขาพูดจบก็เดินจากไปทันที
“คุณชายรองลู่คะ” เซี่ยซีหว่านรีบเข้าไปคว้าแขนเสื้อของลู่จื่อเซียนไว้ แล้วพูดว่า “คุณอย่าบอกเรื่องนี้กับพี่ชายคุณนะคะ นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับพี่ชายคุณ เรื่องนี้คุณไม่มีสิทธิ์ไปบอกเขา !”
ลู่จื่อเซียนหยุดฝีเท้าแล้วหลุบตาลง ดวงตาดําขลับเป็นประกายมองไปบนมือเธอ ตอนนี้นิ้วมือเรียวยาวของเธอกำลังงอตัวและดึงแขนเสื้อของเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ทันใดนั้นเอง เสียง “แกร๊ก แกร๊ก” ก็ดังเข้ามากระทบใบหู ประตูใหญ่ถูกเปิดออก จากนั้นบรรดานักข่าวกลุ่มหนึ่งก็กรูกันเข้ามา
พวกเขาถือกล้องไว้ในมือและจับภาพฉากนี้กันพัลวันด้วยความตื่นเต้นดีใจราวกับปลากระดี่ได้น้ำ
เซี่ยซีหว่านดึงมือเล็กของเธอกลับมา เธอเงยหน้ามองนักข่าวกลุ่มนี้ที่จู่ ๆ ก็แห่กันเข้ามา ทว่าเซี่ยเหยียนเหยียนไม่ได้มา แต่นักข่าวกลับมาที่นี่ เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็รู้แล้วว่านี่เป็นกลลวงของเซี่ยเหยียนเหยียน
เซี่ยเหยียนเหยียนคงกลัวมาก คาดว่าหล่อนคิดจะใช้โอกาสในช่วงเวลาที่เธอยังเป็นปริศนาอยู่ตอนนี้เพื่อถอนรากถอนโคนเธอ ดังนั้นหล่อนจึงอดใจรอไม่ไหวที่จะจัดฉากระหว่างเธอกับลู่จื่อเซียนขึ้นมา
จากนั้นนักข่าวก็แย่งกันส่งไมค์มาให้
“คุณนายลู่คะ คุณกับหนุ่มหล่อคนนี้อยู่ห้องเดียวกันสองต่อสอง แล้วกำลังยื้อยุดทำอะไรกันอยู่ คุณมีชู้หรือเปล่าคะ?”
“คุณนายลู่ครับ ประธานลู่รู้เรื่องนี้ไหม ประธานลู่รักใคร่คุณมาก คุณแอบสวมเขาให้ประธานลู่หรือเปล่าครับ?”
“คุณนายลู่คะ จากการปิดผนึกจุดฝังเข็มด้วยเข็มทองคำของคุณ คุณเพิ่งได้นั่งบนตําแหน่งสาวน้อยอัจฉริยะไป แต่ยังไม่ทันไรก็มีข่าวอื้อฉาวการนอกใจแพร่สะพัดออกมา คุณเคยคิดถึงผลที่จะตามมาไหมคะ?”
“หนุ่มหล่อท่านนี้ คุณดูไม่คุ้นหน้าเลยนะครับ คุณมาจากเมืองไห่เฉิงหรือเปล่าครับ คุณรู้ไหมครับว่าเซี่ยซีหว่านเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว?”
“หนุ่มหล่อท่านนี้ คุณช่วยพูดอะไรหน่อยค่ะว่า ระหว่างคุณกับคุณนายลู่ใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เธอเป็นคนยั่วยวนคุณก่อนใช่ไหมคะ?”
ลู่จื่อเซียนเผชิญหน้ากับไมค์และกล้องเหล่านี้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เครื่องหน้าทั้งห้าส่วนที่หล่อเหลาของเขาไม่มีความสะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียว ไม่ตื่นตระหนกหรือลนลาน แต่กลับเย็นชาและเฉยเมย
เซี่ยซีหว่านเองก็ไม่ได้ถอยหนี เธอยืดแผ่นหลังบอบบางอันสง่างามให้ตั้งตรงขึ้นแล้วมองบรรดานักข่าวอย่างใจเย็นโดยไม่พูดอะไรสักคํา
เพียงไม่นาน ฝูงชนที่วุ่นวายเสียงดังก็เงียบสงบลง พวกเขาได้ทำการสัมภาษณ์มาก็หลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นผู้ให้สัมภาษณ์ทั้งสองคนที่นิ่งสงบขนาดนี้
เซี่ยซีหว่านและลู่จื่อเซียนมองพวกเขาอย่างเฉยเมยราวกับกำลังสื่อว่า “พวกเราจะคอยดูเงียบ ๆ พวกคุณก็พยายามให้มากขึ้นหน่อยแล้วกัน”
นี่เป็นการจับชู้ได้คาหนังคาเขาเลยนะ แล้วข่าวฉาวใหญ่ขนาดนี้ สองคนนี้ไม่ไว้หน้ากันเลยจริง ๆ
ทุกคนต่างพากันเงียบลงแล้ว จากนั้นเซี่ยซีหว่านก็ยกริมฝีปากสีแดงของเธอขึ้นอย่างเนิบนาบ จากนั้นเสียงอันไพเราะของเธอที่ใสแจ๋วราวกับไข่มุกเม็ดงามก็ดังผ่านเข้ามาในโสตประสาทของทุก ๆ คนว่า “พวกคุณกําลังพูดอะไรคะ นอกใจเหรอ? คำที่ผู้คนเล่าต่อกันมาว่า จับชู้ต้องไปจับบนเตียง แต่พวกคุณจับอะไรกันคะ จับลมจับเงาอย่างนั้นเหรอคะ?”
“นี่…”
ดวงตาคู่สดใสของเซี่ยซีหว่านเยือกเย็นลงในฉับพลัน เธอค่อย ๆ กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณด้วยรัศมีที่เย็นชาและทรงพลัง ยิ่งทำให้แววตางดงามดูมีชีวิตชีวาและน่าดึงดูดมากขึ้นกว่าเดิม
“พวกคุณต่างก็พร่ำเรียกฉันว่าคุณนายลู่อยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้กลับคิดจะใช้เรื่องจับลมจับเงาเล็กน้อยนี้มาใส่ร้ายฉันว่านอกใจและสวมเขาคุณลู่ ดูเหมือนว่าคุณนายลู่อย่างฉันจะเป็นสิ่งบันเทิงเริงใจในสายตาของพวกคุณนะคะ คิดอยากจะรังแกก็รังแกกันได้ พวกคุณรอก่อนเถอะ ฉันจะให้สามีของฉันส่งหมายศาลให้พวกคุณทีละคนและฟ้องพวกคุณโทษฐานหมิ่นประมาท !”
เซี่ยซีหว่านแผ่รังสีอำมหิตปกคลุมไปทั่วทุกอณู ท่าทีข่มขวัญศัตรูนั่นสามารถสะกดคนได้อย่างเชือดเฉือนพอตัว นักข่าวที่สบตาเธอเหล่านั้นต่างก็ขวัญผวา สายตาเริ่มเบือนหนีออกไปกันคนละทาง
ตอนนี้ไม่มีใครในเมืองไห่เฉิงไม่รู้ว่าประธานลู่มักจะตามใจและเชื่อฟังภรรยามาก คุณนายลู่ผู้นี้เพิ่งจะขอเงิน 1.2 พันล้านหยวนคืนจากเซี่ยเหยียนเหยียนในการไลฟ์สดไป และหมายศาลของบริษัทลู่กรุ๊ปก็ถูกส่งออกมาแล้ว
เรื่องราวในอดีตยังคงไม่อาจลืมเลือน คุณนายลู่ผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่อาจล่วงเกินได้
สามีภรรยาคู่นี้ร้ายกาจพอกัน
ลู่จื่อเซียนเองก็มองไปที่หญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขาเช่นกัน ในความเข้าใจของเขา หญิงสาวคนนี้งดงามและบอบบางมาก เธอฉลาดเป็นกรดแต่กลับยังคงความดื้อรั้นและความกล้าหาญเอาไว้ ครั้งก่อนเธอปกป้องซวงซวงเพื่อนของเธอ และพยายามทําให้คนรอบข้างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดียิ่งขึ้น ครั้งนี้เธอสามารถกดดันบรรดานักข่าวเหล่านี้จนไม่สามารถปริปากพูดอะไรได้อีก เธอก็เหมือนกับดวงดาวที่สว่างเจิดจ้าที่สุดบนท้องฟ้าที่ทําให้ผู้คนคลั่งไคล้และต้องการที่จะครอบครองเธอ
“คุณนายลู่คะ นี่คงจะเป็นเรื่อง...เข้าใจผิดบางอย่าง ตอนนี้พวกเราไม่กล้ารังแกคุณแล้วล่ะค่ะ และถ้าคุณไม่รังแกเราก็จะนับว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ…” เสียงของนักข่าวเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อย ๆ
“ใช่ครับ ใช่ครับ คุณนายลู่ คนที่เอาข่าวมารายงานให้เราคือเซี่ยเหยียนเหยียนครับ เป็นเซี่ยเหยียนเหยียนที่โทรมารายงานให้พวกเรามาที่นี่ เรื่องนี้ตัวต้นเหตุต้องเป็นคนรับผิดชอบ คุณนายลู่คุณไปตามเธอมาคิดบัญชีเถอะ พวกเราบริสุทธิ์จริง ๆ ครับ !”
เซี่ยเหยียนเหยียนก็อยู่ที่นี่เช่นกัน เธอแอบซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งเพื่อชมการแสดงสนุก ๆ แต่ใครจะรู้ว่าพวกนักข่าวที่เพิ่งจะบุกเข้าไปในสนามรบเหล่านี้ จะถูกเซี่ยซีหว่านฟาดจนล้มลง กำลังการต่อสู้ของผู้คนเหล่านี้อ่อนแอเกินไป จึงถูกเซี่ยซีหว่านเหยียบจนจมลงกับพื้นในทันที
และตอนนี้พวกเขาก็สารภาพออกมาแล้วว่าเธอเป็นคนทำอีกด้วย เซี่ยเหยียนเหยียนจึงรู้สึกว่าเธอไม่สามารถซ่อนตัวได้อีกต่อไป เธอจะพลาดโอกาสอันล้ำค่าในคืนนี้ไม่ได้เป็นอันขาด
เซี่ยเหยียนเหยียนรีบเดินออกมาทันที “หว่านหว่าน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธออย่าแก้ตัวเลยนะ เธอน่ะนอกใจและสวมเขาให้ลู่หานถิงแน่นอน ถ้าเธอยอมรับมันตอนนี้ ฉันก็ยังจะเห็นแก่มิตรภาพความเป็นพี่น้องของเราได้อยู่ และจะไม่เอารูปออกมาทําให้เธอขายหน้าหรอก”
อะไรนะ เซี่ยเหยียนเหยียนมีรูปเหรอ?
ดวงตาของนักข่าวเหล่านี้เป็นประกาย คืนนี้พวกเขายังถ่ายรูปที่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย แล้วถ้าใช้แค่รูปที่เซี่ยซีหว่านดึงแขนเสื้อลู่จื่อเซียนมาเป็นหลักฐาน มันก็ยังดูไม่ค่อยมีน้ำหนักสักเท่าไหร่ เมื่อครู่พวกเขาเลยยอมแพ้และพากันล้าถอยไปทีละคน แต่หากเซี่ยเหยียนเหยียนมีรูปอะไรที่ดูใกล้ชิดกันอยู่ในมือล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นเกมนี้คงชนะได้อย่างแน่นอน
คิดไม่ถึงว่าเซี่ยเหยียนเหยียนมาคราวนี้จะพลิกสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ !
เซี่ยซีหว่านมองที่เซี่ยเหยียนเหยียน เธอรู้ว่าเซี่ยเหยียนเหยียนหมายถึงภาพที่เธอสลบอยู่ในอ้อมกอดของลู่จื่อเซียนในวันนั้น นี่เป็นแต้มต่อที่สูงที่สุดของหล่อนในตอนนี้
เซี่ยซีหว่านยกริมฝีปากแดงขึ้นอย่างเยือกเย็น แล้วพูดว่า “เซี่ยเหยียนเหยียน งั้นเรามากล่าวคำสาบานกันเถอะ ถ้าฉันนอกใจขอให้ฉันตายก่อนวัยอันควร แต่ถ้าเธอใส่ร้ายฉัน ก็ขอให้เธอตายก่อนวัยอันควรเช่นกัน เธอกล้าไหมล่ะ?”
“...”
เซี่ยเหยียนเหยียนไม่รับคำท้าแล้วพูดว่า “หว่านหว่าน ดูเหมือนเธอจะยังไม่ยอมรับนะ งั้นฉันคงต้องเอารูปออกมาให้ทุกคนดู !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...