พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 178

เซี่ยเหยียนเหยียนหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาเปิดรูปภาพนั้นขึ้นแล้วยื่นส่งออกมาต่อหน้าทุกคน

ทุกคนกลั้นหายใจมองไปที่รูปอย่างใจจดจ่อ พวกเขาเพ่งมองอย่างตื่นเต้นและระทึกว่าคุณนายลู่ผู้นี้จะสวมเขาให้ประธานลู่อย่างไร

แต่ยังไม่ทันได้เห็นอะไร จู่ ๆ ก็มีมือขาวเรียวเล็กยื่นโผล่มาจากด้านหลัง แล้วแย่งเอาโทรศัพท์ในมือของเซี่ยเหยียนเหยียนไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า

เซี่ยเหยียนเหยียนตกใจจนชะงักไปแล้ว ใครจะคิดว่าเซี่ยซีหว่านจะขโมยโทรศัพท์ของเธอไปท่ามกลางสายตาของทุกคนที่กำลังมองมา

ภาพนั้นเป็นถึงไพ่คิงของเธอเลยนะ !

“เซี่ยซีหว่าน เธอทําอะไรน่ะ เอาโทรศัพท์คืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ !” เซี่ยเหยียนเหยียนอยากจะแย่งมันกลับมาเดี๋ยวนั้น

แต่เซี่ยซีหว่านยื่นมือออกไป และโทรศัพท์ก็ถูกโยนลงไปในสระบัวนอกหน้าต่างทันที

เสียงน้ำกระจายดังขึ้นมา น้ำในสระบัวสาดกระเซ็นไปไม่น้อย แต่ไม่นานก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง

บ้าจริง !

การกระทําอันรวดเร็วของเซี่ยซีหว่านนั้นว่องไวยิ่งกว่าเสือ ทุกคนถึงกับอึ้งไปเลย ใครจะคิดว่าเธอจะขโมยโทรศัพท์ของเซี่ยเหยียนเหยียนไป ทั้งยังโยนตรงดิ่งลงไปในก้นสระอีก

ดีล่ะคราวนี้

ไม่มีรูปแล้ว

สีหน้าของเซี่ยเหยียนเหยียนซีดเผือด เธอคิดจะใช้รูปนี้ข่มเซี่ยซีหว่าน แต่ตอนนี้เธอมองดูเซี่ยซีหว่านทําลายหลักฐานสำคัญไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย

หล่อนกล้าดีอย่างไร?

“เซี่ยซีหว่าน นี่เธอบ้าไปแล้วเหรอ ทําไมเธอถึงโยนโทรศัพท์ฉันลงไปในสระบัวล่ะ เธอหวั่นใจขึ้นมาแล้วล่ะสิ เธอกลัวว่าฉันจะเอารูปที่เธอนอกใจไปเผยแพร่ให้สาธารณชนดู !” เซี่ยเหยี่ยนเหยียนพูดลอดไรฟันด้วยความโกรธ

เซี่ยซีหว่านรู้อยู่แล้วว่าเซี่ยเหยียนเหยียนจะใช้รูปนี้มาสร้างปัญหา ดังนั้นเมื่อครู่จึงเป็นจุดพลิกสถานการณ์ เธอฉวยเอาโทรศัพท์ของเซี่ยเหยียนเหยียนไปด้วยความว่องไว ถือเป็นการตัดปัญหาที่จะตามมาอย่างถาวร !

นัยน์ตาอันสดใสของเซี่ยซีหว่านฉายรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ดูทะเล้นอย่างแพรวพราว ราวกับจิ้งจอกน้อย “เซี่ยเหยียนเหยียน ตอนนี้เธอไม่มีหลักฐานแล้ว พูดอะไรก็ระวังหน่อยจะดีกว่านะ ใครจะรู้ว่าในโทรศัพท์เธอมีรูปอะไร หรือมีคนเห็นแล้ว? ไม่แน่ว่าเธออาจต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการแพร่ภาพลับส่วนตัวของเธอให้ทุกคนดู และต้องการที่จะใช้มันเพื่อปิดหูปิดตาตัวเอง !”

“เธอ !”

เซี่ยเหยี่ยนเหยียนโกรธจนแทบกระอักเลือด เซี่ยซีหว่านคนนี้รุกโจมตีได้ก่อนอย่างไม่น่าเชื่อ หล่อนแว้งกัดเธอแล้ว !

ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์แล้ว เธอเสียไพ่คิงในมือไปแล้ว เซี่ยเหยียนเหยียนกําหมัดแน่นอย่างเคียดแค้น เธอมองเซี่ยซีหว่านอย่างอาฆาต “เซี่ยซีหว่าน ไม่ว่าเธอจะเล่นแง่อะไรก็ตาม แต่ที่เธอถูกถ่ายวันนี้เป็นความจริง เธออยู่ห้องเดียวกับลู่จื่อเซียนกันสองต่อสองกลางดึก จะถูกทำให้เป็นข่าวอะไรออกมาก็แสนจะง่ายดาย เธอกลับไปคิดให้ถี่ถ้วนจะดีกว่าว่าควรจะอธิบายให้ชาวเน็ตฟังอย่างกระจ่างยังไง ฉันจะคอยดูว่าเธอจะมีวิธีอะไรมาหยุดการซุบซิบปากต่อปากของทุกคนได้ !”

สิ่งที่หลายคนชอบมากที่สุดก็คือเรื่องซุบซิบนินทา ต่อให้เป็นเรื่องจับลมจับเงาก็ยังมีความบันเทิงอยู่ดี เมื่อไรที่ภาพถูกเผยแพร่ออกไป จะต้องมีข่าวลือซุบซิบแพร่สะพัดออกไปแน่ เซี่ยเหยียนเหยียนรับรองได้

จากนั้นก็มีเสียงทุ้มต่ำที่ทรงพลังจากด้านนอกดังใกล้เข้ามาในทันใดว่า “ผมไปที่มหานครเอมพีเรียลเพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาทางวิชาการคราวนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าในเวลาเพียงไม่กี่เดือน สถาบันวิจัยของเราจะเปลี่ยนมาคึกคักได้ขนาดนี้ ผมพลาดข่าวอะไรไปหรือเปล่า?”

ทุกคนหันกลับไปมองอย่างรวดเร็วก็เห็นเพียงแสงที่สว่างไสวไปทั่วสถาบันวิจัยซูมี โจวผิงและคณะผู้นําทั้งหมดมาถึงแล้ว คนที่ถูกรุมล้อมอยู่ด้านหน้าสุดคือ เงาร่างที่เต็มไปด้วยกำลังวังชาที่มีชีวิตชีวา อธิการบดีหลี่เหวินฉิง !

ในที่สุดอธิการบดีหลี่เหวินฉิงก็กลับมาแล้ว

หลี่เหวินฉิงเป็นเจ้าแห่งนักวิชาการและมีชื่อเสียงค่อนข้างมาก เขามีรัศมีของผู้มีวิชาคร่ำครึเป็นอย่างมาก ทั้งยังได้รับความเคารพและชื่นชมจากผู้คนทั่วทั้งเมืองไห่เฉิง เขาคือแพทย์ที่แท้จริง

“พระเจ้า อธิการบดีหลี่กลับมาแล้ว ผมไม่ได้ยินข่าวมาก่อนเลยสักนิด !”

“อธิการบดีหลี่ ยินดีต้อนรับคุณกลับมานะคะ !”

หลี่เหวินฉิงเดินนําทุกคนเข้าไปในห้องยา นักปราชญ์ทางการแพทย์ท่านนี้กลับมานั่งแท่นบัญชาการแล้ว บรรยากาศอันเซ็งแซ่เมื่อครู่เงียบสงบลงอย่างรวดเร็ว ราวกับมีหัวเรือใหญ่คอยสั่งการ

หลี่เหวินฉิงมองไปที่ทุกคนเพียงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่อ่อนโยนว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่เหรอ?”

“อธิการบดีหลี่ คืออย่างนี้ค่ะ พวกเราถ่ายรูปที่เซี่ยซีหว่านนัดเจอชายชู้กลางดึกได้ ดูเหมือนว่าคุณนายลู่คนนี้จะนอกใจสามีค่ะ”

“อธิการบดีหลี่ครับ ความจริงแล้วพวกเราอยากรู้มากว่าเซี่ยซีหว่านเข้ามาทำงานที่สถาบันวิจัยได้ยังไง หลายวันมานี้คุณอยู่ที่มหานครเอมพีเรียลตลอด คงยังไม่รู้ว่าที่ซูมี่รับเซี่ยซีหว่านเข้ามาใช่ไหมครับ?”

“อธิการบดีหลี่คะ ช่วงนี้เมืองไห่เฉิงมีแต่เรื่องประเด็นร้อน สถาบันวิจัยซูมี่กลายเป็นจุดสนใจของสาธารณชนยิ่งกว่าเดิมไปแล้ว และตอนนี้ในโลกออนไลน์ก็ลือกันว่าเซี่ยซีหว่านเพียงคนเดียวทำให้ทั้งสถาบันวิจัยซูมี่โดดเด่น ในตอนนี้อธิการบดีหลี่มีอะไรจะพูดไหมคะ?”

พวกนักข่าวต่างพากันส่งไมค์ให้อธิการบดีหลี่เหวินฉิง แต่โจวผิงรีบมาขวางเอาไว้ แล้วพูดขึ้นว่า “อธิการบดีของเราเพิ่งจะกลับมาจากมหานครเอมพีเรียล ตอนนี้จึงยังไม่อนุญาตให้สัมภาษณ์นะคะ สถาบันวิจัยซูมี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางการแพทย์ ไม่ใช่สถานที่ซุบซิบนินทา เชิญพวกคุณออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงต้องเรียกรปภ.”

โจวผิงออกคําสั่งไล่แขกในทันที จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว และรปภ.ของสถาบันวิจัยซูมี่ก็รีบเข้ามาในทันที

การมีเรื่องทะเลาะวุ่นวายขนาดนี้ ยิ่งแสดงบารมีของอธิการบดีหลี่เหวินฉิงออกมา นักข่าวเหล่านี้จึงรีบสำรวมอาการในทันที

เซี่ยเหยียนเหยียนที่อยู่ด้านข้างมองอธิการบดีหลี่เหวินฉิงด้วยความชื่นชมอย่างเต็มเปี่ยม เธอมาที่ซูมี่ก็เพื่อเฝ้ารอการกลับมาของเขา และอยากจะฝากตัวเป็นศิษย์ของหลี่เหวินฉิงมาก

เมื่อเห็นท่าทางที่ดูมีวิชาคร่ำครึของอธิการบดีหลี่เหวินฉิงแล้ว เธอก็แทบอยากจะคุกเข่าลงเรียกเขาว่าอาจารย์ตอนนี้เลย

แต่เธอเองก็ไม่คิดว่าอธิการบดีหลี่เหวินฉิงจะกลับมาเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ ทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่สําคัญขนาดนี้อีก ถ้านักข่าวเหล่านี้ถูกไล่ออกไปในเวลานี้ อย่างนั้นการจับชู้ครั้งนี้ก็จะถูกขัดจังหวะ

ทันใดนั้นอธิการบดีหลี่เหวินฉิงก็ยกมือขึ้น แล้วพูดว่า “ผู้อํานวยการโจว ไม่เป็นไร ผมพูดได้อยู่”

คราวนี้อธิการบดีหลี่เหวินฉิงจะตอบคำถามแล้วอย่างนั้นเหรอ?

พระเจ้า !

บรรดานักข่าวเหล่านี้รู้สึกว่าที่การที่พวกเขามาในคืนนี้มันคุ้มค่ามาก นี่เป็นการสัมภาษณ์ครั้งแรกของอธิการบดีหลี่เหวินฉิงหลังกลับมาจากมหานครเอมพีเรียล !

ดวงตาของเซี่ยเหยียนเหยียนเองก็เป็นประกายเช่นกัน เธอคิดว่าอธิการบดีหลี่เหวินฉิงจะต้องไม่ชอบคนที่อาศัยลู่ทางพิเศษเข้ามาที่สถาบันวิจัยซูมี่อย่างเซี่ยซีหว่านแน่นอน อีกเดี๋ยวหากท่านอธิการบดีพูดอะไรที่ทำให้เซี่ยซีหว่านอับอายล่ะก็ นั่นคงจะเยี่ยมมากเลยล่ะ

ท่ามกลางความคาดหวังของทุกคน สายตาของอธิการบดีหลี่เหวินฉิงมองไปที่ลู่จื่อเซียน แล้วพูดว่า “จื่อเซียน ผมคิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่กลับมาจากมหาครเอมพีเรียลคุณจะกลายมาเป็นชายชู้ไปซะแล้ว หรือว่าคุณไม่คู่ควรกับนามสกุลที่ติดตัวมาแล้วเหรอ?”

สายตาของทุกคนหัน “ขวับ” และมองไปที่ลู่จื่อเซียนในทันที เขานิ่งเงียบมาตลอดเวลา เสียงอันคึกโครมที่นี่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาเลยด้วยซ้ำ

สองมือของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางและมองดูการแสดงอย่างเฉยชาและนิ่งเงียบ รูปลักษณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ดูดีและเย็นชาของเขาทำให้เขาดูเหมือนคุณชายผู้สง่างามที่ดูปราดเปรียว

จากนั้นก็มีนักข่าวถามขึ้นว่า “อธิการบดีหลี่คะ การที่คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรคะ หรือว่าคน ๆ นี้จะมีสถานะพิเศษอะไรบางอย่างคะ?”

อธิการบดีหลี่เหวินฉิงหัวเราะดัง ฮ่าฮ่าแล้วพูดว่า “อย่าบอกนะว่าพวกคุณไม่เคยได้ยินชื่อลู่จื่อเซียนคุณชายรองแห่งตระกูลลู่ ณ มหานครเอมพีเรียลมาก่อน? เขาเกิดมาเพื่อเป็นบุตรแห่งสวรรค์ ตอนอายุ 20 ปีก็ได้กลายเป็นหนึ่งเดียวในบรรดานักวิชาการที่อายุน้อยที่สุดในมหานครเอมพีเรียลแล้ว จื่อเซียน งานอภิปรายทางวิชาการในครั้งนี้น่าเสียดายจริง ๆ ที่ขาดคุณไป เพราะปีก่อน ๆ คุณจะเอาวิทยานิพนธ์ทางการแพทย์อันน่าทึ่งของคุณมาสอนให้กับผู้อาวุโสอย่างพวกเราไงล่ะ !”

ปกติการจะเข้าร่วมงานอภิปรายทางวิชาการของมหานครเอมพีเรียลได้นั้น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเจ้าแห่งนักวิชาการที่ทรงเกียรติ เมื่อมองออกไปก็จะเห็นว่าพวกเขาล้วนเป็นผู้อาวุโส แต่มีคนที่ถูกยกเว้นอยู่คนหนึ่ง นั่นก็คือลู่จื่อเซียนนั่นเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี