ทุกคนล้วนเป็นผู้อาวุโสทั้งนั้น แต่กลับมีชายหนุ่มคนหนึ่งกลับโผล่เข้ามา หลี่เหวินฉิงและผู้อาวุโสเหล่านี้จึงแสดงความไม่พอใจ ก็เห็นกันอยู่ว่าทุกคนล้วนเป็นนักวิชาการที่มีคุณวุฒิที่เสมอกัน คนหนุ่มอย่างเขามีสิทธิ์อะไร?
แต่งานอภิปรายทางวิชาการตลอดสามปี ลู่จื่อเซียนได้นําเอาวิทยาการอันล้ำหน้าและวิทยานิพนธ์ทางการแพทย์ที่น่าทึ่งของตัวเองมาให้ความรู้แก่ผู้อาวุโสเหล่านี้เป็นอย่างดี ผู้อาวุโสเหล่านี้จึงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เนื่องจากพวกเขายังมีกำแพงกับคนหนุ่มสาวอยู่ดี พวกเขารู้สึกไม่ยอมรับ แต่ถึงไม่ยอมรับก็ทําอะไรไม่ได้
งานอภิปรายทางวิชาการในปีนี้ทุกคนไม่เห็นแม้แต่เงาของชายหนุ่มลู่จื่อเซียนผู้นี้เลย หลายวันที่มาร่วมงานผู้อาวุโสเหล่านี้จึงรู้สึกเสียดายเป็นอย่งมาก
เมื่ออธิการบดีหลี่เหวินฉิงพูดจบ ทุกคนในเหตุการณ์ก็ตกใจเฮือกใหญ่ อะ...อะไรนะ? คุณชายรองลู่แห่งตระกูลลู่ ณ มหานครเอมพีเรียล ลู่จื่อเซียนนักวิชาการผู้เก่งกาจที่อายุน้อยที่สุดในวงการแพทย์ที่เขาลือกันคนนั้นน่ะเหรอ?
แน่นอนว่านักข่าวเหล่านี้ต่างตกตะลึงเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกพวกเขาคิดว่าผู้ชายคนนี้หล่อเหลามาก บุคลิกก็ดูสะอาดสะอ้าน แต่พวกเขาจะไปกล้าคิดได้อย่างไรว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคนนี้จะเป็น...นักวิชาการลู่?
นักวิชาการผู้เก่งกาจที่ผู้คนเล่าขานกันได้มาปรากฎตัวที่เมืองไห่เฉิงเล็ก ๆ แห่งนี้ อีกทั้งยังถูกพวกเขา...จับชู้ ...ทุกคนจึงรู้สึกราวกับฝันไปเล็กน้อย
คนที่ตกใจอีกคนหนึ่งก็คือเซี่ยเหยียนเหยียน ดวงตาทั้งสองข้างของเธอแทบจะถลนออกมานอกเบ้า เธอมองลู่จื่อเซียนที่อยู่ข้างกายเซี่ยซีหว่านด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เป็นเขาอย่างนั้นเหรอ?
เซี่ยเหยียนเหยียนคาดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายที่นอนหลับอยู่ในห้องยาของซูมี่มาตลอดคนนี้จะเป็นลู่จื่อเซียนนักวิชาการผู้เก่งกาจที่เขาเล่าขานกันคนนั้น และเขายังเป็นถึงคุณชายรองลู่แห่งตระกูลลู่ ณ มหานครเอมพีเรียลอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการลู่ หรือคุณชายรองลู่ ก็ล้วนเป็นบุคคลสําคัญของกลุ่มที่อยู่ใจกลางมหานครเอมพีเรียลทั้งนั้น ซึ่งเซี่ยเหยียนเหยียนและนักข่าวเหล่านี้ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นอธิการบดีหลี่เหวินฉิงก็เดินขึ้นมาหยุดอยู่ข้างกายเซี่ยซีหว่าน แล้วพูดว่า “ส่วนเรื่องเซี่ยซีหว่าน ทุกคนไม่ต้องเดากันไปเองอีก เซี่ยซีหว่านไม่ได้เข้ามาที่ซูมี่ผ่านช่องทางพิเศษอะไรทั้งนั้น แต่เป็นเพราะในคืนเดียวกันนั้นผมได้เสนอชื่อสั่งการให้เธอมาที่นี่เอง”
“...”
ทันใดนั้นทุกคนก็รู้สึกราวกับว่ามีเสียงวิ้งดังเข้ามาในโสตประสาท ทุกคนจ้องมองเซี่ยซีหว่านด้วยความตกตะลึง เรื่องวิธีการเข้ามาที่ซูมี่ของเซี่ยซีหว่านถูกใส่ร้ายมาตั้งนาน แต่ความจริงคือเธอได้รับการสั่งการจากท่านอธิบการบดีให้มาด้วยตัวเองเลยอย่างนั้นเหรอ?
ท่านอธิการบดีหลี่เหวินฉิงยืนอยู่ด้านข้างของเซี่ยซีหว่านพลางมองไปที่นักข่าวเหล่านั้น แล้วพูดว่า “อีกอย่างคืนนี้ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ทําไมซีหว่านกับจื่อเซียนถึงมาปรากฏตัวที่นี่พร้อมกันน่ะเหรอ นั่นเป็นเพราะผมนัดพวกเขาสองคนมาเพื่อหารือเรื่องการผ่าตัดของคุณท่านลี่ การผ่าตัดของคุณท่านลี่ครั้งนี้จะดำเนินการร่วมกันระหว่างจื่อเซียนกับซีหว่าน ซึ่งคนหนึ่งจะเป็นผู้นำการผ่าตัด และอีกคนหนึ่งจะเป็นผู้นำการฝังเข็ม นี่เป็นการร่วมมือกันระหว่างแพทย์แผนจีนและตะวันตกในรอบศตวรรษ เพื่อร่วมกันรักษาคุณท่านลี่ครับ !”
อธิการบดีหลี่เหวินฉิงประกาศขึ้นทันที
ทันใดนั้นสีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ท่านอธิการบดีหลี่เหวินฉิงจึงพูดต่อว่า “การผ่าตัดครั้งนี้ของคุณท่านลี่นั้นอันตรายพอสมควร แต่ผมเชื่อมั่นในตัวจื่อเซียนและซีหว่าน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สองคนนี้ได้ทำงานร่วมกัน พวกคุณกลับไปสืบค้นข่าวเมื่อสองปีก่อนดูนะครับ ตอนที่อยู่บนถนนใหญ่ในมหานครเอมพีเรียล จื่อเซียนกับสาวน้อยปริศนาคนหนึ่งเคยร่วมมือกันช่วยชายชราคนหนึ่งเอาไว้ พวกเขาได้ทำการผ่าตัดกลางถนนอย่างน่าระทึกขวัญ การผ่าตัดครั้งนั้นถูกทีมแพทย์ชั้นนำทั้งหลายใช้เป็นแบบอย่างในการวิเคราะห์เชิงลึกมาจนทุกวันนี้ หลังจากที่ชายชราคนนั้นได้ถูกนําตัวส่งโรงพยาบาลจนพ้นขีดอันตรายในตอนนั้น สาวน้อยปริศนาคนนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยจนถึงตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ ใช่แล้วครับ ผมตามหาสาวน้อยปริศนาคนนั้นพบแล้ว เธอก็คือ เซี่ยซีหว่าน !”
เมื่ออธิการบดีหลี่เหวินฉิงพูดจบก็หัวเราะหึหึออกมา เพราะรู้สึกภาคภูมิใจมากที่ตัวเองตามหาสาวน้อยปริศนาอย่างเซี่ยซีหว่านจนพบ
เรื่องสะเทือนวงการในคืนนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนที่เรื่องการผ่าตัดเมื่อสองปีก่อนในมหานครเอมพีเรียลถูกเปิดเผย ทุกคนแทบจะลืมหายใจกันไปเลย
สายตาของทุกคน “กวาด” มองไปที่เรือนร่างของเซี่ยซีหว่าน ต้องโทษพวกเขาที่มีความสามารถและสมองเพียงน้อยนิด ขณะที่กำลังมองเซี่ยซีหว่าน พวกเขาก็นึกถึงคำว่าสุดยอดได้แค่สองคำเท่านั้น
แต่ช้าก่อน เซี่ยซีหว่านเมื่อสองปีก่อนเพิ่ง...เพิ่งจะอายุเท่าไหร่?
เมื่อไม่นานมานี้ลู่หานถิงเพิ่งฉลองวันเกิดให้เธอ เธอเพิ่งจะอายุ 20 ปีบริบูรณ์เอง
ถ้าอย่างนั้นสองปีก่อนเธอก็...อายุ 18 ปีเหรอ?
ไม่ใช่ว่าเป็นแค่คนบ้านนอกที่กลับมาจากชนบทหรอกเหรอ ทําไมขนาดมหานครเอมพีเรียลถึงยังเคยไปมาแล้วล่ะ ทั้งยังทําให้เกิดความโกลาหลในตอนนั้นอีก?
ทุกคนมองเซี่ยซีหว่านด้วยความตกตะลึงสุดขีดจนแทบลืมหายใจ
เซี่ยเหยียนเหยียนเองก็ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจของตัวเองเหมือนกับทุกคน ตอนนี้ในหัวของเธอสับสนมึนงงไปหมด เพราะไม่รู้เลยว่าอธิการบดีหลี่เหวินฉิงกําลังพูดอะไร !
นักข่าวเหล่านี้อาจจะยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับเรื่องการผ่าตัดบนถนนในมหานครเอมพีเรียลเมื่อสองปีก่อน แต่เธอเข้าใจมันเป็นอย่างดี เพราะตอนที่เธอเรียนอยู่ที่ต่างประเทศที่สถาบันเซิงลี่แห่งประเทศฝรั่งเศสนั้น ครั้งหนึ่งอาจารย์ใหญ่ลู่อินอินบรรยายโดยใช้วิธีฉายโปรเจคเตอร์เหตุการณ์ผ่าตัดนั้นเพื่ออธิบายและตีความ อาจารย์ใหญ่ยังยกย่องชื่นชมสาวน้อยปริศนาที่หายตัวไปในตอนนั้นอีกด้วย
เซี่ยเหยียนเหยียนยังจําได้ว่าหลังจากจบการบรรยายในครั้งนั้น คนรอบข้างเธอต่างก็พูดคุยกันเกี่ยวกับสาวน้อยปริศนาคนนั้นว่า หล่อนมีทักษะทางการแพทย์ที่มหัศจรรย์ แต่กลับทำตัวเรียบง่ายและอ่อนน้อมถ่อมตนจนได้รับคําชื่นชมจากทุกคน
เซี่ยเหยียนเหยียนคาดไม่ถึงเลยว่าสาวน้อยปริศนาแห่งมหานครเอมพีเรียลคนนั้นจะอยู่แค่ปลายจมูกเธอนี่เอง เธอก็คือยัยเซี่ยซีหว่านคนบ้านนอกนี่เอง !
ทุกคนยังคงรู้สึกตกใจจนไม่สามารถเรียกสติตัวเองกลับมาได้และรู้สึกพูดไม่ออกไป จากนั้นอธิการบดีหลี่เหวินฉิงก็ได้พูดสรุปว่า “สิ่งที่ควรอธิบาย ผมได้อธิบายไปจนหมดที่นี่แล้ว ผมรู้ว่าตอนนี้ทุกคนยังคงสงสัยเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาของซีหว่าน พรุ่งนี้ผมจะจัดงานแถลงข่าวเพื่อตอบคําถามทั้งหมดที่ทุกคนสังสัยด้วยตัวเอง แต่วันนี้ผมตอบเท่านี้ก่อนนะครับ สวัสดีครับ”
จากนั้นอธิการบดีหลี่เหวินฉิงก็พาเซี่ยซีหว่านและลู่จื่อเซียนเดินจากไป
พอตัวเอกเหล่านั้นถอยออกจากฉาก นักข่าวเหล่านี้ถึงได้แตกกระเจิงกันออกมา และพวกเขาก็เห็นสีหน้าที่ซีดเผือดราวกับผีของเซี่ยเหยียนเหยียน จากนั้นก็พากันพูดอย่างดูถูกและรังเกียจ
“เซี่ยเหยียนเหยียน คุณบอกว่าจะพาพวกเรามาจับชู้ เป็นยังไงล่ะ ถูกอธิการบดีหลี่ตบหน้าเองกับมือไปเลยสิ !”
“เซี่ยเหยียนเหยียน คุณนี่น่าสงสารและน่าหัวเราะจริง ๆ คิดจะเอาเปรียบเขาแต่ตัวเองกลับเสียเปรียบซะเอง และยังทําให้อธิการบดีหลี่ได้เปิดเผยสถานะของสาวน้อยปริศนาอย่างเซี่ยซีหว่านอีกด้วย”
“เซี่ยเหยียนเหยียน คุณเองก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันล่ะสิว่านั้นจะเป็นคุณชายรองลู่นักวิชาการผู้เก่งกาจแห่งมหานครเอมพีเรียล คุณชายรองลู่คือบุตรแห่งสวรรค์ เซี่ยซีหว่านคือสาวน้อยอัจฉริยะ ตัวเองใจแคบสกปรกแล้วยังจะใส่ร้ายคนอื่นอีก!”
“ช่างมันเถอะ เลิกพูดไร้สาระกับเธอได้แล้ว พวกเรารีบกลับไปเขียนข่าวประชาสัมพันธ์กันเถอะ คืนนี้มีประเด็นร้อนเยอะแยะมากมาย ใครเร็วคนนั้นได้! ไปเร็วเข้า !”
ทุกคนรีบวิ่งกันออกไปแล้ว
เซี่ยเหยียนเหยียนยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เซี่ยเจิ้งกั๋วโทรเข้ามา
สัญญาณอาฆาตของเซี่ยเจิ้งกั๋วกลับมาอีกครั้งแล้ว !
เซี่ยเหยียนเหยียนกรีดร้องออกมาอย่างเหลืออด และใช้มือทั้งสองข้างรุมทึ้งผมตัวเองอย่างแรง
…
เมื่อมาถึงด้านนอก อธิการบดีหลี่เหวินฉิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน แล้วพูดว่า “จื่อเซียน เรื่องการผ่าตัดของคุณท่านลี่ คุณคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม คุณท่านลี่เป็นพี่น้องที่ดีกับคุณย่าของคุณ ครั้งนี้ประธานลี่เดินทางไปทําธุรกิจที่ยุโรป คุณท่านลี่จึงเก็บกระเป๋ามาเที่ยวกับคุณย่าของคุณที่เมืองไห่เฉิงด้วยตัวเอง คิดไม่ถึงว่าอาการของท่านจะกำเริบระหว่างเดินทาง โชคดีที่ได้การปิดผนึกจุดฝังเข็มด้วยเข็มทองคำของเซี่ยซีหว่านไว้ถึงรอดมาได้ ทั้งหมดทั้งมวลคุณจึงควรมาทำการผ่าตัดครั้งนี้นะ”
ลู่จื่อเซียนมองไปที่อธิการบดีหลี่เหวินฉิงเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เมื่อครู่นี้คุณก็เพิ่งประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนไปหมดแล้วนี่ครับ ตัดทางหนีทีไล่ของผมจนไม่เหลือแล้ว ผมจะไม่ทำตามได้เหรอครับ?”
อธิการบดีหลี่เหวินฉิงไม่ได้รู้สึกผิดในใจ เพราะการจะจัดการกับคนพิเศษก็ต้องใช้วิธีแบบพิเศษกันหน่อย
“ซีหว่าน เรื่องนี้คุณเองก็ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...