พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 195

คนที่รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่สุดนั้นก็คือซวงซวง เพราะอยู่ดี ๆ เพื่อนรักของตัวเองก็กลายเป็นเด็กอัจฉริยะ ช่างเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมอะไรขนาดนี้ ซวงซวงบีบใบหน้าเรียวเล็กของเซี่ยซีหว่านเบา ๆ เล็กน้อย แล้วพูดว่า “หว่านหว่าน เธอต้องสู้ ๆ นะ เธอคือความภาคภูมิใจของฉัน !”

เซี่ยซีหว่านยกยิ้มขึ้น ตอนนี้สถาบันวิจัยซูมี่ได้กลายเป็นครอบครัวใหญ่อันอบอุ่นไปแล้ว สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความปรารถนาดี ทุกคนเป็นกําลังใจให้กันและกัน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนดีงามมาก

เซี่ยซีหว่านพยักหน้าอย่างแน่วแน่ แล้วพูดว่า “ค่ะ ฉันจะทำให้เต็มที่ที่สุดแน่นอนค่ะ !”

ลู่จื่อเซียนยืนอยู่ด้านข้างพลางมองหญิงสาวที่ถูกรายล้อมด้วยความสนใจ เธอเข้ามาที่ซูมี่ได้เพียงเวลาไม่กี่เดือน แต่เธอกลับสามารถดลใจผู้คนได้มากมาย ทุกคนต่างก็กลายเป็นคนที่จิตใจดีเพราะเธอ

ดวงตาเย็นชาสีดําขลับของลู่จื่อเซียนฉายแววอ่อนโยนมากขึ้น บางทีร่างกายของเธออาจมีพลังเวทมนต์ที่ทำให้ผู้คนไม่อาจต้านทานได้

ทันใดนั้นเองอธิการบดีหลี่เหวินฉิงก็ตบมือขึ้น แล้วพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาผ่าตัดแล้ว จื่อเซียน ซีหว่าน พวกคุณควรจะเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ได้แล้ว ตอนนี้คุณท่านลี่กําลังรอพวกคุณอยู่ !”

“ได้ค่ะ/ครับ !” เซี่ยซีหว่านหยิบสมุดบันทึกของตัวเองขึ้นมา แล้วโบกมือลาทุกคน ก่อนที่จะเดินตามลู่จื่อเซียนไปยังห้องผ่าตัด

ณ ด้านหน้าประตูห้องผ่าตัด คุณชายสวี่เส้าหนานกำลัวนั่งพิงกําแพงอย่างอ้อยอิ่งรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเขาเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาก็รีบพูดขึ้นมาว่า “นี่” ออกมาอย่างรวดเร็ว

เซี่ยซีหว่านไม่ได้มีท่าทีวอกแวกแต่อย่างใด เพราะปกติเธอก็ไม่ได้สนใจเขาอยู่แล้ว เธอจึงเดินตรงเข้าห้องผ่าตัดในทันที

“...”

สวี่เส้าหนานไม่เคยถูกเมินแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยถูกเมินเลย เขาจึงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเซี่ยซีหว่านพร้อมกับขวางทางเธอเอาไว้ แล้วพูดว่า “นี่ ยัยสาวอัปลักษณ์ ฉันเรียกเธอนั่นแหละ ไม่ได้ยินเหรอ?”

เซี่ยซีหว่านมองเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า “อ้อ ที่แท้ก็เป็นคุณชายสวี่นี่เอง เมื่อครู่นี้ฉันรู้สึกหนวกหูมาก เหมือนมีใครบางคนตรงนั้นกำลังส่งเสียงร้องออกมาไม่หยุด ที่แท้ก็เป็นคุณที่ร้องนี่เอง”

“...”

นี่เธอกำลังด่าเขาทางอ้อมอย่างนั้นเหรอ !

ช่างเป็นสาวอัปลักษณ์ที่ปากคอเราะร้ายจริง ๆ !

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าการผ่าตัดกำลังใกล้เวลาเข้ามาแล้ว สวี่เส้าหนานจึงพยายมอดทนอดกลั้นเอาไว้ก่อน เขามองไปที่เซี่ยซีหว่านตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งหญิงสาวอยู่ในชุดกาวน์สีขาวก็ยิ่งดูสะอาดสะอ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะมองอย่างไรเธอก็เป็นแค่เด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่ง เขาสงสัยในทักษะทางการแพทย์ของเธอมาก เขาจึงพูดขู่เตือนอย่างเยือกเย็นว่า “ยัยเด็กอัปลักษณ์ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทําไมคุณยายของฉันถึงได้ชื่นชมเธอนัก แต่คุณยายของฉันถูกส่งให้ไปอยู่ในมือเธอแล้ว ฉะนั้นจะต้องไม่มีความผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ถ้าการผ่าตัดล้มเหลว คงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะหาคนมารุมข่มขืนเธอซ้ำ ๆ จากนั้น…”

สวี่เส้าหนานยังพูดไม่ทันจบ เสียง “ผัวะ” ก็ดังขึ้น เซี่ยซีหว่านยกมือขึ้น แล้วตบไปบนเหนือศีษะของเขาอย่างแรง

ในทันใดนั้น ทั่วทั้งโถงทางเดินก็เงียบกริบ

บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนเป็นบรรยาที่แปลกประหลาดในทันที

บอดี้การ์ดชุดดําเหล่านั้นมองเซี่ยซีหว่านด้วยความตกตะลึงสุดขีด เธอ...เธอทําอะไรน่ะ เธอรู้ไหมว่าตัวเองกำลังทำร้ายใครอยู่ เธอบังอาจทำร้ายคุณชายผู้เป็นทายาทแห่งมหานครเอมพีเรียลเลยเหรอ?

สวี่เส้าหนานเองก็อึ้งไปเช่นกัน ตั้งแต่เล็กจนโต นอกจากคุณยายที่กล้าตบหัวเขาแล้ว ก็ยังไม่มีใครกล้าแตะต้องเขาเลยสักคน ยัยเด็กอัปลักษณ์คนนี้เสียสติไปแล้วเหรอ?

เซี่ยซีหว่านดึงมือตัวเองกลับมา เธอมองสวี่เส้าหนานด้วยสายตาเย็นชา พร้อมกับท่าทางที่ดูเหนือชั้นกว่าเป็นไหน ๆ แล้วพูดว่า “คุณท่านกำลังนอนอยู่ด้านในเลยไม่สะดวกที่จะลงมือ ฉันจึงสั่งสอนเด็กอันธพาลอย่างคุณแทนท่านสักหน่อย ! เจ้าเด็กอันธพาล จําเอาไว้เลยนะว่า ต่อไปต้องพูดจาสุภาพกับฉันด้วย !”

เมื่อเซี่ยซีหว่านพูดจบก็เดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องผ่าตัดทันที จากนั้นเสียง “ปัง” ของประตูห้องผ่าตัดก็ปิดลง

“...”

สวี่เส้าหนานอารมณ์เดือดพล่านค้างอยู่กลางอากาศ ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็โพล่งสบถคําหยาบออกมาว่า บัดซบ ยัยเด็กที่ทั้งอัปลักษณ์และป่าเถื่อนคนนี้ เขาไม่จบเรื่องนี้กับเธอง่าย ๆ แน่ !

...

ลู่จื่อเซียนกับเซี่ยซีหว่านเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว เนื้องอกในสมองของคุณท่านลี่นั้นค่อนข้างอันตราย โดยการผ่าตัดครั้งนี้ถูกประเมินอัตราความสําเร็จว่าไม่เกินสิบเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นการผ่าตัดร่วมกันระหว่างแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนตะวันตกในครั้งนี้จึงทําให้ทั่วทั้งวงการแพทย์สั่นสะเทือนซึ่งเรียกได้ว่าเป็นที่จับตามองของทุกคนเลยทีเดียว

การผ่าตัดได้ดําเนินมาเป็นเวลาแปดชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงช่วงเย็น ไฟสีแดงในห้องผ่าตัดยังคงเปิดอยู่ โดยที่ยังไม่มีใครออกมาเลยสักคน

เวลา 18.00 น. เมื่อความมืดค่อย ๆ คล้อยตัวลงมา เสียง “แอ๊ด” ก็ดังขึ้น ในที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก จากนั้นก็มีใครบางคนเดินออกมาแล้ว

เซี่ยซีหว่านในชุดกาวด์สีขาวเดินออกมา

อธิการบดีหลี่เหวินฉิง ผู้อํานวยการโจว ซวงชวง และอีกหลายคนต่างก็เข้ามาล้อมรอบพวกเขาอย่างรวดเร็ว แต่ก็เร็วไม่เท่าความเร็วของสวี่เส้าหนาน เขาพุ่งเข้าไปจับไหล่ของเซี่ยซีหว่านแล้วพูดว่า “ยัยเด็กอัปลักษณ์ การผ่าตัดเป็นยังไงบ้าง แล้วคุณยายฉันเป็นยังไงบ้าง?”

เซี่ยซีหว่านยกมือขึ้นถอดหน้ากากสีขาวออกจากใบหน้า เผยให้เห็นผ้าโปร่งเนื้อบางด้านใน การผ่าตัดแปดชั่วโมงทําให้หน้าผากขาวเนียนของเธอมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดออกมาเล็กน้อย ท่ามกลางการรอคอยของทุกคน เธอก็เผยรอยยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “การผ่าตัด...สําเร็จแล้วค่ะ”

ว้าว !

ทุกคนต่างพากันโห่ร้องด้วยความดีอกดีใจ การผ่าตัดที่ทั้งวงการแพทย์ตัดสินว่าจะต้องล้มเหลวในครั้งนี้กลับสําเร็จลุล่วงด้วยดีอย่างไม่น่าเชื่อ มันสําเร็จแล้ว !

อารมณ์คุกกรุ่นของสวี่เส้าหนานจากการโดนตบเมื่อครู่นี้ก็จางหายไปจากข่าวดีนี้ในทันที เมื่อเขามองไปที่เซี่ยซีหว่าน เขาก็มองด้วยสายตาพึงพอใจ แล้วพูดว่า “ยัยเด็กอัปลักษณ์ ครั้งนี้เธอโชคดีไป ฉันจะปล่อยเธอไปก่อน...”

เขาพูดยังไม่ทันจบ ขาทั้งสองข้างของเซี่ยซีหว่านก็อ่อนยวบจนทำให้ทั้งร่างกายของเธอร่วงไถลลงไปบนพื้น

“นี่ ยัยเด็กอัปลักษณ์!” สวี่เส้าหนานตกใจ เขาจึงรีบยื่นมือออกไปโอบเอวของเซี่ยซีหว่านและโอบรัดเธอไว้

มือของสวี่เส้าหนานที่โอบเอวของเซี่ยซีหว่านอยู่นั้นแข็งทื่อในทันที เพราะเอวของหญิงสาวทั้งบอบบางและนุ่มนิ่ม เธอเอวคอดกิ่วจนสามารถโอบรัดได้ด้วยมือเดียว

ยัยเด็กอัปลักษณ์ก็คือยัยเด็กอัปลักษณ์ แต่รูปร่างของเธอนั้นดีมาก ทันใดนั้นความคิดชั่วร้ายก็ผุดขึ้นมาในหัวของสวี่เส้าหนาน

แต่ทันใดนั้น เซี่ยซีหว่านก็โดนซวงซวงดึงแย่งไป ซวงซวงประคองเซี่ยซีหว่านให้นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วถามด้วยความเป็นห่วงว่า “หว่านหว่าน เธอเป็นอะไรไป เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

จากนั้นอธิการบดีหลี่เหวินฉิงก็เดินเข้าแล้วยิ้มพูดว่า “ระยะเวลาการผ่าตัดแปดชั่วโมงนั้นยาวนานเกินไป หว่านหว่านก็เลยอ่อนเพลีย แค่พักดื่มน้ำสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้วล่ะ”

ในขณะเดียวกันนั้นเองก็มีพยาบาลเข็นเตียงของคุณท่านลี่ออกมา ยาสลบหลังการผ่าตัดยังไม่หมดฤทธิ์ ตัวชี้วัดทางกายภาพต่าง ๆ ของคุณท่านลี่ก็ปกติดี ท่านจึงถูกส่งตัวไปที่ห้องพักผู้ป่วย

สวี่เส้าหนานมองไปที่เซี่ยซีหว่านแวบหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปมองยายของตัวเอง

ลู่จื่อเซียนเดินออกมาเป็นคนสุดท้าย หลังจากแปดชั่วโมงของการผ่าตัด ชุดกาวน์สีขาวบนเรือนร่างของเขายังคงสะอาดสะอ้านหมดจดเหมือนกับตอนก่อนเข้าไป อารมณ์และท่าทางของเขายังคงเย็นชาเช่นเดิม หลังจากเขาล้างมือเสร็จก็ส่งน้ำร้อนแก้วหนึ่งให้เซี่ยซีหว่าน แล้วพูดว่า “คุณหมอเซี่ยครับ วันนี้คุณทําได้ดีมากครับ”

เขาเรียกเธอว่าคุณหมอเซี่ย

เซี่ยซีหว่านนั่งพักอยู่ครู่หนึ่งก็รู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมาแล้ว เธอรับน้ำแก้วนั้นมาพลางมองลู่จื่อเซียน แล้วพูดว่า “นักวิชาการลู่คะ วันนี้คุณก็สุดยอดเหมือนกันค่ะ”

ทั้งสองคนเคยร่วมงานกันบนถนนใหญ่ในมหานครเอมพีเรียลเมื่อสองปีก่อนมาแล้ว การผ่าตัดครั้งนี้จึงยิ่งทำงานเข้ากันได้ดีจนแทบจะไม่ต้องพูดอะไรให้ยุ่งยาก และตอนนี้พวกเขาก็ยิ้มให้กันและกัน

“จื่อเซียน ซีหว่าน พวกคุณสุดยอดมาก ไป ไปผ่อนคลายกันสักหน่อย คืนนี้ผมเลี้ยงเอง เชิญทุกคนไปดื่มกัน” อธิการบดีหลี่เหวินฉิงพูดประกาศ

จากนั้นทุกคนก็โห่ร้องดีใจขึ้นมา แล้วพูดว่า “ซีหว่านจงเจริญ นักวิชาการลู่จงเจริญ ท่านอาจารย์ใหญ่จงเจริญ !”

...

ทันใดนั้นเอง รถโรลส์-รอยซ์ ฟอนทอมสุดหรูก็มาจอดอยู่หน้าประตูใหญ่ของสถาบันวิจัยซูมี่ ลู่หานถิงมารับเซี่ยซีหว่านกลับบ้านหลังเลิกงานแล้ว

เขารู้ถึงชัยชนะของการผ่าตัดร่วมวงการแพทย์ครั้งนี้ตั้งแต่มาก่อนแล้ว เพราะเว่ยป๋อและสถานีโทรทัศน์ช่องใหญ่ทุกช่องทางต่างแย่งชิงกันรายงานข่าวความสําเร็จของการผ่าตัดในครั้งนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี