เซี่ยซีหว่านใช้เวลาสองสามวินาทีในการนำเด็กหนุ่มที่ซูบผอมคนนั้นในวิดีโอผนึกกับชายรูปร่างสูงโปร่งที่อยู่ต่อหน้าไว้ด้วยกัน “คุณชายลู่...คุณชายลู่ คุณมาได้ยังไงคะ?”
ลู่หานถิงก้มมองลงมาแล้วยกโทรศัพท์ในมือขึ้น ดวงตาของเขากำลังยิ้ม แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งแกล้งยิ้มราวกับพายุลูกเล็ก ๆ สองลูกที่กำลังก่อตัวขึ้น หากไม่ระวังก็สามารถถูกกลืนลงไปได้ เขาพูดว่า “ประโยคนี้ผมน่าจะเป็นคนที่ต้องถามคุณมากกว่าว่าคุณมาทำอะไรที่นี่ครับ คุณกำลังดูอะไรอยู่ครับ?”
เซี่ยซีหว่านไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าเมื่อก่อนเวลาที่อาการป่วยของเขากำเริบก็ไม่มีความเคร่งเครียดและน่ากลัวอย่างนี้ เธอจึงพูดว่า “คุณชายลู่คะ ฟังฉันอธิบายก่อนนะคะ...”
ลู่หานถิงยื่นมือของเขาออกมาแล้วทุบโทรศัพท์ลงบนผนังเสียงดัง “ปึง” จนโทรศัพท์แตกละเอียด
พลังอันดุดันของชายผู้นี้ระเบิดขึ้นในหูของเซี่ยซีหว่านเสียงดังมาก เธอตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือดขณะที่เธอกำลังตื่นตระหนกด้วยความตกใจอยู่นั้น มือใหญ่ของเขาก็ยื่นมือออกมาดึงข้อมือเรียวเล็ก ของเธอขึ้นมาจากเก้าอี้นั่ง
“พอแล้ว ลู่หานถิง” ลู่อินอินลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า “ปล่อยซีหว่านซะ ป้าเป็นคนที่นัดเธอมาเอง ตอนนี้หลานรู้สึกโกรธมากเลยใช่ไหมและหลานกำลังจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ปล่อยซีหว่านไปซะ อย่าทำร้ายเธอ !”
ลู่หานถิงดึงเซี่ยซีหว่านเอาไว้ไม่ยอมปล่อย หางตาเรียวยาวของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาจ้องมองไปที่ลู่อินอินอย่างเย็นชา หน้าอกอันแข็งแกร่งหายใจหอบกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง ทันใดนั้นน้ำเสียงอันน่าสะพรึงกลัวก็ออกมาจากลำคอว่า “ผมเคยเตือนคุณป้าแล้วนะครับ หุบปากซะ เพื่อเห็นแก่คุณย่าก็ควรออกไปจากเมืองไห่เฉิงวันนี้เลย นี่คือความเมตตาครั้งสุดท้ายของผมที่มีต่อคุณป้า !”
“ลู่หานถิง แกกล้าพูดกับป้าแบบนี้เหรอ ฉันเป็นป้าของแกนะ แล้วแกรู้ได้ยังไงว่าป้ากับซีหว่านนัดเจอกันที่นี่ ไม่ใช่ว่าแกส่งคนมา...คอยสะกดรอยตามป้าใช่ไหม?” ลู่อินอินมองลู่หานถิงด้วยความประหลาดใจ เธอคิดไม่ออกถึงว่า ชีวิต 24 ชั่วโมงของเธออยู่ภายใต้การจับตามองของคนอื่น
ลู่หานถิงเหลือบมองลู่อินอินด้วยหางตาอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็สั่งให้บอดี้การ์ดชุดดำคนหนึ่งที่มีสายตาราวกับเหยี่ยวว่า “เอาตัวเธอไป”
คำพูดง่าย ๆ แต่เผด็จการที่ไม่อนุญาตให้คนอื่นพูดแทรก
“ครับ ท่านประธาน” บอดี้การ์ดชุดดำก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ลู่หานถิงไม่ได้มองไปที่ลู่อินอินอีกเลย เขาดึงเซี่ยซีหว่านออกมาและก็เดินจากไป
ลู่อินอินที่ถูกจับกุมมองดูเงาร่างสูงโปร่งที่หายลับตาไปของลู่หานถิงด้วยความหวาดกลัว แล้วพูดว่า “ลู่หานถิง แกบ้าหรือเปล่า แกกล้ากักขังฉันไว้แบบนี้ แกก็ไม่ปกติแล้ว แกเป็นโรคจิต !”
......
เซี่ยซีหว่านที่ถูกมือใหญ่ดึงข้อมือเอาไว้ เธอเดินตามจังหวะการก้าวเท้าของชายหนุ่มข้างหน้าที่ก้าวเท้ายาวมากจนทำให้เธอเดินสะดุดอยู่ข้างหลังหลายครั้ง เธอมองด้านหลังศีรษะอันแข็งกร้าวของชายหนุ่มแล้วพูดว่า “คุณชายลู่คะ คุณอย่าโกรธเลยนะคะ คุณฟังฉันอธิบายก่อนค่ะ”
ฝีเท้าของลู่หานถิงหยุดลงอย่างช้า ๆ เขาหันกลับมามองเธอด้วยดวงตาคมคายสีแดงเข้ม จากนั้นเขาก็ยื่นมือใหญ่ออกมาบีบใบหน้าเรียวเล็กของเธอเข้ามา แล้วพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมเคยบอกคุณว่ายังไงบ้างคุณลืมทุกอย่างไปหมดแล้วเหรอ คุณต้องการฟังอะไร ถ้าผมสามารถบอกได้ผมก็จะบอกคุณ และมีบางสิ่งที่ผมไม่สามารถบอกคุณได้ คุณก็เลยอยากรู้ขนาดนี้เหรอ ผมขอร้องกับคุณว่าอย่าไปฟังที่ลู่อินอินพูดอะไรกับคุณ ทำไมคุณถึงไม่เชื่อฟังผม?”
เมื่อคืนนี้ลู่อินอินมาที่โรงพยาบาล เธอกับลู่อินอินพบกันที่ระเบียงทางเดิน ทั้งหมดนี้เขารู้แล้ว เมื่อคืนนี้เธอก็โกหก แต่เขาไม่ได้เปิดโปงเธอ
เขาต้องการให้โอกาสเธอสักครั้ง แต่เธอทำให้เขารู้สึกผิดหวังมากเกินไปแล้ว
ใบหน้าเรียวเล็กของเซี่ยซีวหว่านถูกฝ่ามือใหญ่บีบอย่างรุนแรงจนแดงไปหมด แต่เธอไม่ได้ร้องโอดโอยออกมาแต่อย่างใด เธอกลับจับมือใหญ่ของเขาเอาไว้และพูดขอโทษด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ฉันผิดไปแล้วค่ะ คุณชายลู่ ฉันผิดไปแล้วค่ะ คุณอย่าโกรธเลยนะคะ ฉันยอมรับว่าฉันอยากรู้อดีตของคุณ ฉันอยากมีส่วนร่วมในอดีตของคุณค่ะ...”
ลู่หานถิงเลียริมฝีปากอันบางแห้งของเขา ในลำคอของเขาเต็มไปด้วยน้ำเสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างเย้ยหยันแล้วพูดว่า “คุณจะมีส่วนร่วมยังไง ตอนที่ผมอายุสิบกว่าขวบ ผมอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช แต่คุณกับลู่จื่อเซียนตอนอายุสิบกว่าขวบถูกส่งเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแพทย์ อัจฉริยะกับปีศาจร้ายที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน เมื่อรู้อย่างนี้แล้วพอใจคุณหรือยังล่ะ มันสามารถทำให้คุณรู้สึกพอใจกับความรู้สึกจอมปลอมของคุณได้บ้างไหมล่ะ?”
เซี่ยเหยียนเหยียนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดว่า “คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงคะ คุณก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉันอยากรักษาคุณและอยากให้อาการป่วยของคุณดีขึ้น”
ลู่หานถิงมองดูเธอและถามทันทีว่า “แล้วถ้ารักษาไม่หายล่ะ?”
“ไม่ได้ค่ะ ยังไงฉันก็จะต้องรักษาให้หายค่ะ ฉัน...”
ลู่หานถิงปล่อยมือจากใบหน้าเรียวเล็กของเธอให้เป็นอิสระ จากนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็บีบไหล่ที่ขาวเนียนของเธอแล้วดันเธอชิดเข้ากับผนัง แสงที่นี่มืดมากจนมองไม่เห็นสายตาอันดุดันของเขา เขาพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมถามคุณหน่อย ถ้าคุณรักษาผมไม่หาย คุณจะทำยังไง?”
เบ้าตาขาวบริสุทธิ์ของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีแดง หัวใจของเธอไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดเท่านี้มาก่อน เธอรู้สึกเสียใจกับใครบางคน เธอมองเขาพูดทุกคำทุกประโยคว่า “ไม่ค่ะ ถึงอย่างไรฉันจะรักษาคุณให้หายอย่างแน่นอนค่ะ !”
นี่ไม่ใช่คำตอบที่เขาต้องการ
ลู่หานถิงหลับตาอันคมคายของเขาลงอย่างแรงและบังคับตัวเองให้ปล่อยไหล่ขาวเนียนของเธอ เพราะเขารู้ว่าตัวเองจะต้องรีบปล่อยเธอทันที อารมณ์ของเขาไม่มั่นคงและอาจสูญเสียการควบคุมตัวเองได้ เขาไม่อยากทำร้ายเธอ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงแค่อยู่ห่างจากเธอเท่านั้น
เขาหันกลับและก็เดินจากไป
ทำไมเขาไปแล้วล่ะ ?
เซี่ยซีหว่านรีบวิ่งไปข้างหน้า มือเรียวเล็กทั้งสองข้างเอื้อมออกมาโอบเอวบางของเขาจากด้านหลัง และกอดเขาเอาไว้แน่น
ลู่หานถิงหยุดเดิน เขาไม่หันมามองและพูดด้วยเสียงที่เย็นชาอันแผ่วเบาว่า “ปล่อยมือครับ”
“ไม่ค่ะ ฉันอยากกอดคุณเอาไว้แน่น ๆ คุณชายลู่คะ ถ้าตอนนั้นฉันอยู่ด้วย ฉันก็จะกอดคุณอย่างแน่นอนและไม่ปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวเด็ดขาดค่ะ”
ลู่หานถิงไม่ต้องการนึกถึงความทรงจำในช่วงเวลานั้นที่เต็มไปด้วยความมืดมิดและอับชื้น แม้ว่าภาพเหล่านั้นจะฝังอยู่ในสมองของเขาเพื่อคอยเตือนสติเขาตลอดเวลาว่าเขามีอดีตที่ไม่น่าจดจำ
ร่างกายที่อ่อนนุ่มราวกับไร้กระดูกของหญิงสาวที่กอดเขาจากด้านหลังนั้นช่างอบอุ่นและหอมกรุ่น ความไร้เหตุผลอย่างมหาศาลภายในอกของเขานั้นทำให้เขารู้สึกมีความปรารถนาอันน่าสะพรึงกลัวที่อยากจะทำลายล้างเธอที่งดงามและไม่แปดเปื้อนมลทินอย่างนี้ !
ลู่หานถิงจับมือเรียวเล็กของเธอแล้วดึงออกมาทีละนิ้ว
เซี่ยซีหว่านไม่ยอมปล่อยอย่างดื้อรั้น เธอพูดว่า “คุณชายลู่คะ คุณจะไปไหนคะ เรากลับบ้านด้วยกันเถอะค่ะ”
“คุณกลับไปก่อนเถอะ คืนนี้ผมไม่กลับไปแล้ว”
“คุณจะไปที่บริษัทเหรอคะ งั้นฉันจะไปกับคุณด้วยค่ะ”
“ผมจะไปที่บาร์หาสาวสวย ๆ นั่งดื่มด้วยกัน ผมไม่สะดวกที่จะพาคุณไปด้วย”
เซี่ยซีหว่านตัวแข็งทื่อและพูดอย่างรวดเร็วว่า “ไม่อนุญาตค่ะ ฉันไม่อนุญาตให้คุณไปค่ะ !”
ลู่หานถิงดึงนิ้วเธอออก แล้วก้าวเท้าเดินจากไป
“คุณชายลู่คะ ฉันจะคิดว่าคุณพูดล้อเล่นแล้วกันค่ะ คุณจะโกรธฉัน หรือ ทะเลาะกับฉันก็ได้ แต่เส้นตายของการแต่งงานนั้นคุณไม่สามารถแตะต้องได้ คุณก็รู้ว่าฉันไม่สามารถทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวได้ ถ้าบนร่างกายของคุณมีกลิ่นของผู้หญิงติดตัวมา ถ้าฉันได้กลิ่น เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะไม่ต้องการคุณอีกต่อไปแล้ว !”
ลู่หานถิงไม่ตอบเธอ เงาร่างสูงโปร่งอันหล่อเหลาก็หายวับไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว
เซี่ยซีหว่านยืนกระทืบเท้าอยู่ตรงนั้นด้วยความโกรธ
ทันใดนั้นก็มีใครบางคนซ่อนตัวอยู่ที่ซอกหลืบ นั่นคือ เซี่ยเหยียนเหยียน
เซี่ยเหยียนเหยียนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง เธอเบะปากอย่างเย้ยหยัน แล้วเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...