พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 213

เซี่ยซีหว่านโยนโทรศัพท์ให้เซี่ยเหยียนเหยียน จากนั้นก็หันหลังกลับและเดินจากไปในทันที

เซี่ยเหยียนเหยียนยืนนิ่งอยู่กับที่ มันน่าโมโหเกินไปแล้ว เธอไม่คิดเลยว่าหลังจากเซี่ยซีหว่านได้ดูวิดีโอนั้นแล้วจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ เธอไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้เซี่ยซีหว่านโมโหได้ แต่กลับโดนเซี่ยซีหว่านกระตุ้นให้โมโหแทนอีกด้วย !

เซี่ยเหยียนเหยียนจึงกระทืบเท้าด้วยความโกรธแค้น

...

เมื่อเซี่ยซีหว่านออกจากโรงพยาบาล เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา จากนั้นก็โทรหาเยี่ยหลิง

เพียงไม่นานเยี่ยหลิงก็กดรับสาย น้ำเสียงอ่อนโยนและมีเสน่ห์ของเยี่ยหลิงดังขึ้นที่ปลายสายว่า “หว่านหว่าน ฉันจัดการส่งคุณปู่ของเธอไปที่โรงพยาบาลแล้ว บอดี้การ์ดคอยดูแลท่านอยู่ 24 ชั่วโมง เธอไม่ต้องกังวลนะ ฉันอยู่ที่นี่แล้ว”

เซี่ยซีหว่านรู้สึกอบอุ่นภายในใจ เพื่อนสนิทของเธอคนนี้พึ่งพาได้มากกว่าแฟนหนุ่มจริง ๆ เธอจึงพูดว่า “หลิงหลิง ฉันทำให้เธอลำบากอีกแล้ว คืนนี้ฉันจะไม่ไปที่นั่น ฉันเกรงว่าเซี่ยเหยียนเหยียนจะส่งคนสะกดรอยตามฉัน”

“ได้สิ แพทย์และพยาบาลต่างก็อยู่ที่นี่แล้ว ชายชราฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เธอรีบกลับไปสวีทกับคุณชายลู่เถอะ”

เมื่อพูดถึงคุณชายลู่ร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านก็ทรุดลงกับพื้นอย่างเงียบ ๆ เธอรู้สึกเศร้าโศกเล็กน้อย

“หว่านหว่าน เธอเป็นอะไรไหม?” เยี่ยหลิงสามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของ เซี่ยซีหว่านได้เป็นครั้งแรกหลังจากสนิทกับเพื่อนคนนี้มานานหลายปีแล้ว เธอจึงพูดว่า “เธอทะเลาะกับคุณชายลู่เหรอ?”

เซี่ยซีหว่านจ้องมองพื้นถนนใต้ฝ่าเท้าของเธอ และตอบว่า “ใช่แล้วล่ะ”

“ไม่มีสามีภรรยาคู่ไหนที่ไม่ทะเลาะกันหรอก นี่เป็นเรื่องปกติ แต่อย่าให้เซี่ยเหยียนเหยียนมาทำให้พวกเธอทะเลาะกันข้ามคืนเลย พวกผู้ชายก็เป็นแบบนี้ การเอาใจเขาเป็นเรื่องที่ง่ายดาย เธอพยายามเอาใจเขาไปก่อน ทำให้เขามีความสุข ต่อไปในวันข้างหน้าพวกเขาก็จะมาเอาใจเธอเอง ฉันจะบอกให้นะว่าการที่เธอทำแบบนี้จะทำให้เขาหลงรักเธอหัวปักหัวปำเลยล่ะ สามีจะเป็นแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของภรรยาที่มีต่อเขา”

เซี่ยซีหว่านพูดแบบติดตลกว่า “หลิงหลิง เธอยังไม่มีแฟน ทำไมเธอถึงรู้มากขนาดนี้ล่ะ”

เยี่ยหลิงตอบว่า “ไม่รู้สิ มันน่าจะเป็นพรสวรรค์ของฉันนะ !”

เซี่ยซีหว่านอารมณ์ดีขึ้นในทันที เธอรู้ว่าเยี่ยหลิงกำลังพยายามทำให้เธอมีความสุข หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นเสมอเมื่อได้พูดคุยกับเพื่อนสนิทคนนี้

แต่เพียงไม่นานนักเซี่ยซีหว่านก็ต้องหยุดนิ่งชะงักในทันที เพราะการมองเห็นของเธอกลับมามืดมนอีกครั้ง และทันใดนั้นเธอก็มองไม่เห็นอะไรอีกเลย

เซี่ยซีหว่านรีบหลับตาลง จากนั้นก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แต่เธอก็ยังคงมองไม่เห็นอะไร

“หลิงหลิง ถ้าอย่างนั้นฉันกลับบ้านก่อน ไว้ค่อยคุยกันนะ”

“ได้สิ ไว้ค่อยคุยกันนะ” เยี่ยหลิงพูดจบก็กดวางสายไป

เซี่ยซีหว่านเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า เธอไม่กล้าคุยกับเยี่ยหลิงต่อเพราะเธอกลัวว่าเยี่ยหลิงจะสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอ

ตอนนี้ดวงตาของเธอมองไม่เห็นอะไรเลย โลกทั้งใบตกอยู่ในความมืดมน ความตื่นตระหนกและความไม่สบายใจตามสัญชาตญาณของมนุษย์ได้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายของเซี่ยซีหว่าน เธอยืนนิ่งอยู่กับที่และไม่กล้าขยับไปไหน

เมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่งเธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็กดโทรหาใครบางคน

หมายเลขโทรศัพท์ของคุณชายลู่เป็นหมายเลขติดต่อฉุกเฉินของเธอ เพียงแค่กดปุ่มปุ่มเดียวก็สามารถโทรหาเขาได้ในทันที

เสียงรอสายอันไพเราะของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็กดรับสายอย่างไม่รีบร้อน น้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีเสน่ห์ของลู่หานถิงดังขึ้นที่ปลายสายว่า “ว่าไงครับ”

เซี่ยซีหว่านบีบโทรศัพท์มือถือของเธอแน่น และพูดว่า “คุณชายลู่คะ นี่ฉันเองนะคะ ตอนนี้คุณยังอยู่ที่บริษัทไหมคะ คุณมารับฉันกลับบ้านได้ไหมคะ?”

“คุณอยู่ที่ไหนครับ?”

“ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลบนถนนจงซานค่ะ”

เวลาผ่านไปเพียงไม่นานนักรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมก็จอดลงอย่างช้า ๆ ที่ข้างถนน หน้าต่างฝั่งที่นั่งข้างคนขับเลื่อนลงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขา

นั่นคือลู่หานถิง

ลู่หานถิงอยู่ที่นี่แล้ว

วันนี้ลู่หานถิงสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ เขาดูหล่อเหลาและสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาของเขาช่างวิจิตรงดงามราวกับภาพวาด แขนเสื้อถูกม้วนขึ้น มือใหญ่บนพวงมาลัยสวมใส่นาฬิกาหรูหรา เขาดูนิ่งสงบและสง่างามในแบบชายที่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ

ลู่หานถิงหันไปมองและเห็นเซี่ยซีหว่านกำลังยืนอยู่ที่ริมถนนในทันที

หญิงสาวสวมเสื้อสเวตเตอร์ถักสีแดงเข้มกับกางเกงทรงดินสอสีดำ เธอมีรูปร่างที่ผอมเพรียวตามประสาเด็กสาววัยรุ่น สายลมยามเย็นที่พัดผ่านทำให้ผมยาวสีดำขลับปลิวไสวไปทั่วไหล่ของเธอ แม้แต่ในอากาศก็ยังมีกลิ่นหอมของเธอฟุ้งกระจายไปทั่ว

“คุณชายลู่คะ...” หญิงสาวเรียกเขา

ลู่หานถิงมองร่างเพรียวของหญิงสาวอย่างไม่ละสายตา แต่ทว่าเขากลับเม้มริมฝีปากบางและพูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ผมไม่ว่าง คุณกลับเองเถอะ”

“คุณชายลู่ ฉัน...”

เซี่ยซีหว่านต้องการจะพูดต่อ แต่ด้วยเสียง “ปี๊บ” ที่ดังขึ้นทำให้เธอรู้ว่าลู่หานถิงได้กดวางสายไปแล้ว

ลู่หานถิงต้องบังคับตัวเองให้กดวางสายเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงนุ่ม ๆ ของเธอทำให้เขาใจอ่อนลงได้ หากเธอพูดออกมาอีกแค่หนึ่งคำ เขาก็อาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป

ทันใดนั้นอยู่ ๆ ก็มีข้อความหนึ่งถูกส่งมาที่เขา ลู่จื่อเซียนส่งข้อความมาว่า “เซี่ยซีหว่านโดนพิษจากดอกลำโพงเล่นงาน พี่ต้องบอกให้เธอกลับไปที่มหานครเอมพีเรียลพร้อมกับผม ผมสามารถช่วยเธอได้”

ลู่หานถิงเอนหลังลงบนเบาะ คิ้วที่งดงามของเขาเต็มไปด้วยความหม่นหมองและความละอายใจ การทดสอบพิษครั้งที่สองทำให้เธอโดนพิษจากดอกลำโพงเล่นงาน !

เธอโดนพิษจากดอกไม้เล่นงานแล้ว !

ลู่จื่อเซียนต้องการพาเธอไปยังมหานครเอมพีเรียลในทันทีอีกด้วย !

ลู่หานถิงหรี่ตาคมคายของเขาลง ริมฝีปากบางของเขาเหยียดยิ้มขึ้นดูถูกตัวเองอย่างเยือกเย็น เขาพูดเรื่องหย่ากับเธอออกไปแล้ว แต่เขากลับไม่ให้เวลาเธอสักนิด

ขณะเดียวกันก็มีเสียงตะโกนขึ้นมาว่า “หลีกทางหน่อยครับ หลีกทางหน่อยครับ !”

ลู่หานถิงเงยหน้าขึ้น เขาเห็นคนขี่สกู๊ตเตอร์กำลังเข้ามาใกล้เซี่ยซีหว่านและกำลังจะชนเธอ

ชายคนนั้นตะโกนขึ้นเพื่อเตือนเซี่ยซีหว่าน แต่เซี่ยซีหว่านกลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เธอยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับคนโง่เขลา

ลู่หานถิงเบิกตากว้าง เมื่อเขารู้ตัวอีกที เขาก็เปิดประตูรถและวิ่งออกไปแล้ว

เมื่อสกู๊ตเตอร์กำลังจะชนเซี่ยซีหว่าน คุณป้าที่เดินผ่านมาจึงรีบเอื้อมมือออกมาคว้ามือเซี่ยซีหว่านเอาไว้ ลู่หานถิงมาช้าไป จากนั้นคุณป้าก็พูดว่า “สาวน้อยระวัง !”

ถ้าเซี่ยซีหว่านไม่ถูกคว้ามือเอาไว้ เธอคงจะโดนสกู๊ตเตอร์คันนั้นชนเข้าอย่างแรงซึ่งอันตรายเป็นอย่างมาก

ลู่หานถิงหยุดฝีเท้าลง เมื่อครู่นี้เขารู้สึกตกใจมากจนหัวใจแทบจะระเบิดออกมา เขาจ้องไปที่ร่างที่เพรียวบางของเซี่ยซีหว่าน เพราะกลัวว่าเธอจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเธออีกครั้ง

แต่เขากลับไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า ดังนั้นเขาจึงหยุดอยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าว และมองดูเธอจากมุมนั้น

“คุณป้าคะ ขอบคุณนะคะ” ใบหน้าของเซี่ยซีหว่านซีดเซียวเล็กน้อย เธอน่าจะคาดเดาได้ว่าเมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น เธอจึงพูดขอบคุณคุณป้าคนนั้น

คุณป้าท่าทางใจดีส่ายหัวและพูดบ่นว่า “สาวน้อย สกู๊ตเตอร์กำลังมาทางนี้ ทำไมเธอถึงไม่หลีกทางล่ะ เมื่อครู่นี้มันอันตรายมากนะ ถ้าป้าคว้ามือเธอช้ากว่านี้อีกสักนิด เธอได้ถูกสกู๊ตเตอร์คันนั้นชนเข้าอย่างแรงแน่นอน”

“คุณป้าคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นนะคะ จริง ๆ แล้วฉันมองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ”

เธอพูดว่าอะไรนะ?

ร่างสูงโปร่งของลู่หานถิงหยุดนิ่งอยู่กับที่เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ คำพูดที่บอกว่า “ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย” ดังก้องกังวานอยู่ในหูของเขา

เธอมองไม่เห็นอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?

ลู่หานถิงจึงเดินไปด้านหน้าของเซี่ยซีหว่าน

ดวงตาคู่นั้นของหญิงสาวยังคงสดใสและเปล่งประกาย แต่กลับไม่มีสีสันเหมือนแต่ก่อนแล้ว อีกทั้งเธอยังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นแล้ว

ดวงตาของเธอมองไม่เห็นอะไรแล้วจริง ๆ !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี