พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 38

ภายในห้องเพรสซิเดนท์สวีทอีกห้องหนึ่ง ลู่หานถิงอาบน้ำชำระร่างกายด้วยน้ำเย็น เขาเดินออกมาขณะที่สวมชุดนอนผ้าไหมสีดำ

กู้เยี่ยจิ่นยื่นไวน์แดงแก้วหนึ่งส่งให้เขา “ว่ากันตามจริงแล้ว คืนนี้เซี่ยซีหว่านไม่สามารถร่วมเตียงกับนายได้ แล้วเธอใช้วิธีไหนทำให้อารมณ์ของนายจากเศร้ากลายมาเป็นอารมณ์ดีได้?”

ลู่หานถิงค่อย ๆ จิบไวน์แดงอย่างช้า ๆ “ฉันอารมณ์ดีจนดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ?”

กู้เยี่ยจิ่นเอนตัวพิงไปบนเคาน์เตอร์บาร์ แล้วจิบไวน์แดงเข้าปากอย่างละเมียดละไม “ก็เพิ่งบอกคนอื่นเมื่อครู่เองว่านายอารมณ์ดีมาก”

ลู่หานถิงเม้มริมฝีปากบางเข้าหากัน เขายอมรับว่าตอนนี้เขาอารมณ์ดีมาก เซี่ยซีหว่านหึงเขาจนวุ่นวายเรื่องสายโทรศัพท์นั่น เขาจะดีใจไม่ได้เหรอ?

ขณะนั้นก็มีเสียง “กริ๊ง” จากกริ่งหน้าประตูดังขึ้น

มีคนเคาะประตู

เป็นเหยียนอี้นั่นเอง

เมื่อเธอได้รับโทรศัพท์ก็รีบตรงมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเธอก็กำลังสังเกตสีหน้าของลู่หานถิงอย่างระมัดระวัง “ท่านประธานคะ ท่านเรียกดิฉันมามีเรื่องอะไรหรือคะ?”

ลู่หานถิงที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาก็พูดขึ้น “เลขาเหยียน ตอนนั้นที่หัวหรงรับโทรศัพท์ของผม ทำไมคุณไม่บอกผมเรื่องนี้?”

ตอนนี้เหยียนอี้ได้รู้แล้วว่าท่านประธานของเธอเรียกเธอมาเรื่องอะไร ก็แค่เรื่องสายโทรศัพท์นั่นเท่านั้นเอง ตอนนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจมันด้วยซ้ำ

“ท่านประธานมีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้หรือเปล่าคะ ผู้จัดการหัวได้แอบฟังความลับทางธุรกิจอะไรหรือคะ?” เหยียนอี้ดูตกใจและลุกลนเป็นอย่างมาก

กู้เยี่ยจิ่นที่ตอนนี้นั่งอยู่บนโซฟาอีกตัวข้าง ๆ เหลือบมองไปที่ลู่หานถิงแล้วพูดว่า

“คืออย่างนี้นะ ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำให้เลขาเหยียนตกใจกลัวน่ะ ก็เป็นเพียงแค่โทรศัพท์สายเดียวก็เท่านั้น ไม่ใช่ความลับทางธุรกิจอะไรหรอก เพียงแค่ว่าโทรศัพท์สายนั้นคุณภรรยาของท่านประธานบริษัทโทรมาและมีคนรับสาย จากนั้นเธอก็เข้าใจผิด หึงหวง และทะเลาะกับท่านประธานของคุณอยู่สองวันเต็ม ๆ และนั่นทำให้ท่านประธานของคุณงอนจนต้องมาอยู่ที่ร้านบาร์แห่งนี้”

“...”

เหยียนอี้รู้สึกตกตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก จากภาพพจน์ของเขาแล้ว ท่านประธานบริษัทเขาเป็นหนุ่มหล่อที่ชาญฉลาดและดูภูมิฐานเป็นผู้ใหญ่ อีกทั้งยังดูมีอำนาจและน่าเกรงขามถึงเพียงนี้ ไม่น่าจะเป็นคนที่กลัวภรรยาไปได้นะ?

ทันใดนั้นก็มีเสียง “กริ๊ง” จากกริ่งหน้าประตูดังขึ้น

มีคนมาอีกแล้ว

เหยียนอี้รีบเดินไปเปิดประตูทันที และพบว่าคนนั้นก็คือ...หัวหรง

เพิ่งพูดถึงไปยังไม่ทันไรก็มาเสียแล้ว

“ผู้จัดการหัว คุณมีธุระอะไรคะ?”

หัวหรงเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่มักจะคบหาผู้ชายไม่เคยขาด เธอสวยหยาดเยิ้มและมีเสน่ห์อย่างเป็นธรรมชาติ ผมยาวดัดลอนสวย ทำให้เรือนร่างที่สวมใส่ชุดกระโปรงสีแดงดูร้อนแรงราวกับไฟ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ไม่อาจต้านทานได้

ในมือของเธอนั้นถือกระติกน้ำร้อนเอาไว้ขวดหนึ่งแล้วเธอก็พูดพร้อมกับยิ้มอย่างมีเสน่ห์ว่า “เลขาเหยียน ฉันได้ยินมาว่าตลอดสองวันมานี้ท่านประธานเล่นไพ่อยู่ที่บาร์ตลอดทั้งคืน ฉันก็เลยลงมือต้มซุปมาให้ท่านประธานค่ะ หวังว่าเลขาเหยียนจะอนุญาตให้ฉันเอาเข้าไปส่งด้านใน”

เหยียนอี้เหงื่อตกชื้นบนหน้าผาก “ผู้จัดการหัว เรื่องของท่านประธานฉันไม่กล้าตัดสินใจแทนโดยพละการได้ ฉันจะเข้าไปถามท่านประธานให้เดี๋ยวนี้”

เหยียนอี้ปิดประตูห้องลงแล้วหันหลังกลับไป “ท่านประธานคะ ผู้จัดการหัวมาค่ะ เธอบอกว่าลงมือต้มซุปมา แล้ว...”

กู้เยี่ยจิ่นขบเม้มริมฝีปากแล้วพูดขึ้น “เขาว่ากันว่าสัมผัสที่หกของผู้หญิงนั่นแม่นยำที่สุด ดูเหมือนว่าอาการหึงหวงของเซี่ยซีหว่านจะไม่ใช่เรื่องเลอะเทอะซะแล้ว”

หัวหรงเอาซุปเนื้อตุ๋นมาส่งให้ลู่หานถิงกลางดึก เพราะรู้เป็นอย่างดีว่าสองวันมานี้เขาอารมณ์ไม่ดี

ประจวบเหมาะกับกำลังทะเลาะกับภรรยาของตัวเองอยู่

การที่เธอตั้งใจมาที่นี่เพื่อปลอบประโลมความเศร้าของเขาให้หายไป ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะใช้ช่องว่างในตอนนี้เพื่อเข้าหาเขา

ดูเหมือนว่าผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์หัวหรงคนนี้จะโหยหาอยากอยู่ใกล้ลู่หานถิงมาตั้งนานแล้ว

ข้างกายของลู่หานถิงมีผู้หญิงไม่เคยขาด ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มักจะวิ่งเข้าหาเขาทั้งนั้น ก็เหมือนกับแผนการตื้น ๆ ของหัวหรงที่เพียงมองด้วยตาเปล่าก็ดูออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

ลู่หานถิงไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา ก่อนที่น้ำเสียงเย็นชาจะเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วแบา

“ให้เธอเข้ามา”

“ค่ะ ท่านประธาน”

“รอเดี๋ยวก่อน” ลู่หานถิงกลับเปลี่ยนใจกระทันหัน “รับซุปเนื้อตุ๋นนั่นมา แล้วให้เธอกลับไป”

“ค่ะ ท่านประธาน”

หลังจากนั้นกู้เยี่ยจิ่นจึงมองไปที่ลู่หานถิง แล้วพูดว่า “นี่ยังโดนเซี่ยซีหว่านหึงไม่พออีกเหรอ ที่นายไม่ทำให้หัวหรงหายสาบสูญไป เพราะยังอยากจะใช้หัวหรงมายั่วโมโหเซี่ยซีหว่านใช่ไหม?”

ลู่หานถิงเอนแผ่นหลังแกร่งพิงไปบนโซฟา เขาจับแก้วไวน์แดงในมือวนไปมาด้วยท่าทีสง่างาม

เขาก็แค่ชอบเห็นเธอหึงเขา แค่เวลาที่หึงก็ทำให้ผู้หญิงที่ทั้งสวยและฉลาดแบบเธอสูญเสียความเป็นตัวเอง และแสดงอาการโวยวายและงอแงต่อหน้าเขาราวกับเด็กน้อย

เธอก็คือคนปากแข็งคนหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช้หัวหรงมาเป็นตัวกระตุ้นเธอล่ะก็ เธอก็คงไม่มีทางเปิดใจตัวเองให้เขาได้เข้าไปเป็นแน่

......

งานหมั้นของซูซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยได้ถูกจัดขึ้นคืนนี้ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยหน้าแดงระเรื่ออย่างมีความสุข เธอได้โทรเตือนเซี่ยซีหว่านเพื่อไม่ให้ลืมมางานหมั้นคืนนี้ เพราะอยากจะไหว้วานให้เซี่ยซีหว่านมาเป็นสักขีพยานและเห็นความสุขของเธอด้วยตาตัวเอง

เซี่ยซีหว่านยิ้มและตอบรับไป แน่นอนว่างานหมั้นคืนนี้เธอจะไม่มาไม่ได้เด็ดขาด เพราะเธอได้เตรียมของขวัญปริศนาชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งเอาไว้แล้ว

ขณะนั้นคุณท่านลู่ก็เดินเข้ามาหาเธอ “หว่านหว่าน ย่ามีเรื่องหนึ่งจะคุยกับหนู ตอนนี้ย่าต้องไปสวดมนต์ขอพรที่วัด เพื่อขอให้พวกเธอมีหลานชายให้ย่าไว ๆ ย่าต้องไปอยู่ที่เมืองซานซ่างหลายวัน ไม่ได้กลับมาแล้ว หนูโทรบอกลู่หานถิงให้เขารีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนหนูล่ะกันนะ”

“เข้าใจแล้วค่ะ คุณย่า”

จากนั้นคุณท่านลู่ก็เดินจากไป เซี่ยซีหว่านหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ความจริงแล้วเธอไม่ได้คิดที่จะโทรหาลู่หานถิงหรอก

คืนนั้นหลังจากที่เขาเดินออกไปจากห้องเพรสซิเดนท์สวีท เขาก็ไม่กลับมาที่บ้านอีก แถมเขาและเธอก็ไม่ได้ติดต่อหากันด้วย

แต่ในเมื่อคุณย่าสั่ง เธอก็จะโทรไปบอกเขาหน่อยแล้วกัน

เซี่ยซีหว่านโทรออกไปที่เบอร์โทรศัพท์ของเขา เสียงรอสายดังขึ้นแล้วรอบหนึ่ง จากนั้นไม่นานสายก็ถูกกดรับ

เสียงทุ้มนุ่มชวนฝันของลู่หานถิงก็ดังผ่านสายโทรศัพท์เข้ามา “ฮัลโหล”

นิ้วมือขาวของเซี่ยซีหว่านจับโทรศัพท์ไว้แน่น “คุณลู่ คุณย่าให้ฉันโทรมาบอกคุณ ว่าท่านจะไปสวดมนต์ภาวนาที่วัด และต้องอยู่ที่นั่นหลายวันถึงจะกลับมา”

“คุณย่าได้พูดอะไรอีกไหม?”

คุณย่าสั่งทิ้งท้ายว่าให้เขารีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ…

แต่เซี่ยซีหว่านไม่กล้าบอกคำนี้กับเขา หากบอกเขาแบบนี้ก็เหมือนกับว่าเธออยากให้เขากลับมาอยู่เป็นเพื่อนน่ะสิ

ทันใดนั้นก็มีเสียงไพเราะหวานหูดังออกมาจากปลายสายของลู่หานถิง “ท่านประธานคะ ฉันมีเรื่องที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับสัญญานิดหน่อย อยากจะรบกวนปรึกษาท่านประธานค่ะ”

ร่างเพรียวบางของเซี่ยซีหว่านสั่นเทาทันที ผู้หญิงทุกคนมักจะความรู้สึกไวกับเรื่องแบบนี้เป็นพิเศษ แค่ฟังเธอก็จำเสียงนั้นได้แล้ว

เสียงนี้ก็คือเสียงเดียวกันกับที่มารับโทรศัพท์ของเขาวันนั้น

ต่อมาเซี่ยซีหว่านก็ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มนวลที่ฟังดูอ่อนโยนเป็นพิเศษของลู่หานถิงดังขึ้น “ไม่เข้าใจตรงไหนครับ เดี๋ยวผมอธิบายให้คุณฟัง”

ฟันสีขาวของเซี่ยซีหว่านกัดไปบนริมฝีปากสีแดงของเธอ

ขณะนั้นลู่หานถิงทำราวกับว่าเพิ่งนึกถึงเธอได้ขึ้นมา เขาจึงถามเธอกลับไป “คุณมีเรื่องอะไรอีกไหม?”

“ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ฉันแค่นึกไม่ถึงว่าคุณลู่จะมีนิสัยชอบแอบกินเล็กกินน้อยกับพนักงานหญิง ฉันไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ!”

เซี่ยซีหว่านกดวางสายทันที

เธอนำโทรศัพท์ใส่เข้าไปในกระเป๋า เซี่ยซีหว่านสูดหายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งทีอย่างไม่สบอารมณ์ เธอคิดว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่พนักงานคนสนิทของเขาแน่ ๆ

เคยได้ยินมาว่าพวกเจ้านายส่วนใหญ่มักเลี้ยงดูพนักงานคนสนิทที่สาว ๆ สวย ๆ เพื่อเอามาเป็นคนรักของตัวเอง เวลาไปทำงานที่ห่างไกลก็มักจะพาไปด้วย ได้ทั้งทำงานและมีความสุขไปพร้อมกัน ที่แท้คนอย่างลู่หานถิงก็เป็นคนแบบนี้นี่เอง!

เซี่ยซีหว่านหลับตาลงอย่างแรง ไม่อยากนึกถึงเรื่องของเขา เธอต้องรีบไปงานหมั้นของซูซีกับเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยอีก

......

งานหมั้นในครั้งนี้จัดขึ้นที่วิลล่าแชมเปญ ซึ่งค่อนข้างโรแมนติกและหรูหรามาก

เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยสวมชุดเดรสชีฟองปาดไหล่สีขาวที่ทำขึ้นจากเมืองมิลาน ผมยาวถูกเกล้าขึ้นและถักเปียเป็นรูปดอกไม้ เธอสวมมงกุฏอันแวววาวที่งดงามราวกับผี้เสื้อหลากสี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี