พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 61

เยี่ยหลิงเป็นดาราดัง ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนนักข่าวก็มักจะตามไปแอบถ่ายรูปเธอ ดังนั้นวันนี้เธอจึงสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่เป็นที่สังเกตมากนัก

บนตัวของเยี่ยหลิงสวมเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่ง คลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำ และกระเป๋าใบเล็ก ๆ ประดับพู่ระย้าที่กำลังเป็นที่นิยม เดิมทีเป็นการแต่งกายที่เรียบง่าย แต่เมื่อสวมใส่บนร่างกายของเยี่ยหลิงนั้นก็ทำให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปจากคนอื่น เธอดูสวยสดใสและมีชีวิตชีวา อีกทั้งขาขาวเรียวทั้งสองข้างของเธอนั้นช่างเรียวยาวเย้ายวนสายตาเป็นอย่างมาก

เนื่องจากกลัวว่าผู้คนจะจำได้ เยี่ยหลิงจึงสวมหมวกแก๊ป ผมหยิกสีน้ำตาลยาวประบ่าและใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือสวมใส่แว่นกันแดดทรงกว้างคู่หนึ่งซึ่งดูปกปิดมิดชิดเป็นอย่างมาก แต่เมื่อสาวงามริมฝีปากแดงคนนี้เดินเข้าไปในสนามบินก็ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นและดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก

เซี่ยซีหว่านโบกมือเล็ก ๆ ของเธอ อารมณ์ของเธอเปลี่ยนจากมืดมนเป็นสดใสขึ้นในทันที “หลิงหลิงทางนี้”

เยี่ยหลิงเหลือบมองแล้วเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว เธอยื่นมือออกมาบีบใบหน้าเล็กที่งดงามของเซี่ยซีหว่านและพูดว่า “จุ๊ ๆ หว่านหว่าน ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันเธอทำให้ฉันประหลาดใจอีกแล้วนะ”

เซี่ยซีหว่านพูดติดตลกว่า “เธอก็เหมือนกันนะ”

ขณะที่จินฮวาผู้จัดการของเยี่ยหลิงกำลังลากกระเป๋าเดินทางนั้น เธอเห็นคนจำนวนมากหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปการรวมตัวกันของหว่านสาวงามแห่งทิศใต้และหลิงสาวงามแห่งทิศเหนือซึ่งไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก เธอจึงจำเป็นต้องเตือนสองสาวสวยให้หยุดก่อน “หลิงหลิง คุณเซี่ย ตอนนี้เป็นที่สังเกตมากเกินไปแล้ว ขึ้นรถก่อนแล้วค่อยคุยกันดีกว่าค่ะ”

“ได้ค่ะ”

เซี่ยซีหว่านและเยี่ยหลิงออกจากล็อบบี้ของสนามบิน รถตู้มารอรับพวกเธออยู่ก่อนแล้ว จินฮวาจึงรีบเก็บกระเป๋าเดินทางเข้าด้านใน

“หว่านหว่าน พวกเราขึ้นรถกันเถอะ” เยี่ยหลิงดึงเซี่ยซีหว่านเข้าไปในรถ

ทันใดนั้นเสียงทุ้มต่ำอันน่าดึงดูดของลู่หานถิงก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง “พวกคุณจะไปไหนกัน เดี๋ยวผมจะไปส่งพวกคุณเอง”

เยี่ยหลิงหันกลับมา เธอยื่นมือเล็ก ๆ ออกมาถอดแว่นกันแดดทรงกว้างบนใบหน้าของเธอออก เผยให้เห็นใบหน้าเล็ก ๆ ที่สดใสและเปล่งประกายราวกับแสงแดดอ่อน ๆ เธอมองดูลู่หานถิงตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนดั่งบ้านพ่อแม่ของฝ่ายหญิงที่กำลังเฟ้นหาลูกเขยเพื่อแต่งงานเข้าไปในตระกูล จากนั้นเธอจึงพูดว่า “ประธานลู่ ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้ว”

เมื่อพูดจบเยี่ยหลิงก็มองไปที่จินฮวาและพูดว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าประธานลู่ของหว่านหว่านของฉันจะมารับฉันทันทีที่ฉันกลับมายังเมืองไห่เฉิง พี่ฮวาที่นี่มีประธานลู่คอยขับรถแล้ว พี่นำกระเป๋าเดินทางของฉันไปเก็บไว้ที่จุ้ยหยูฮวนก่อนเถอะค่ะ”

จินฮวาพยักหน้า “ได้ค่ะ”

สุภาพบุรุษลู่หานถิงเปิดประตูด้านหลังของรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม และพูดว่า “เชิญครับ”

เซี่ยซีหว่านเข้าไปในรถและเยี่ยหลิงก็ตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว เธอกระพริบตาเบา ๆ และกระซิบด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “หว่านหว่าน เธอตาถึงจริง ๆ ประธานลู่ผู้นี้สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เขาดูราวกับนักพรตผู้ยิ่งใหญ่”

อันที่จริงเซี่ยซีหว่านไม่ต้องการขึ้นรถคันนี้ อีกอย่างการจูบเมื่อครู่นี้ทำให้เธอ และลู่หานถิงทะเลาะกันจนไม่มีความสุข ทันใดนั้นเมื่อเธอได้ยินประโยคที่มีความหมายสุดแสนจะลึกซึ้งอย่าง “นักพรตผู้ยิ่งใหญ่” ที่เยี่ยหลิงเป็นคนพูดนั้นยิ่งทำให้ติ่งหูสีขาวราวกับหิมะของเธอกลายเป็นสีแดงในทันที “หลิงหลิง เธอกำลังพูดถึงอะไร”

ขณะเดียวกันเมื่อลู่หานถิงขึ้นมาบนรถ หัวข้อการสนทนาระหว่างเพื่อนสนิทและสาวน้อยหน้าแดงก็จบลงด้วยการที่เยี่ยหลิงเลิกคิ้วใบหลิวของเธอขึ้น

รถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมคันหรูออกเดินทางไปยังจุ้ยหยูฮวนอย่างราบรื่น เซี่ยซีหว่านมองไปที่ เยี่ยหลิงซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ และพูดว่า “หลิงหลิง เธอกลับมาคราวนี้จะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนเหรอ”

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ตารางงานของเยี่ยหลิงแน่นมาก นอกเหนือจากการถ่ายทำภาพยนตร์แล้วยังมีกิจกรรมทางธุรกิจมากมาย รวมถึงการเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์ T ของแบรนด์หรูต่าง ๆ ในทุกไตรมาสอีกด้วย

เยี่ยหลิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดว่า “ฉันจะไม่จากไปในเร็ว ๆ นี้ อีกอย่างฉันจะช่วยเธอฉีกหน้าหมาป่าพวกนั้นก่อน”

เมื่อพูดจบเยี่ยหลิงก็เงยหน้าขึ้น และมองดูลู่หานถิงที่อยู่ตำแหน่งคนขับพร้อมพูดว่า “ประธานลู่ฉันได้ยินมาว่าคุณเสียเงิน 1.2 พันล้านหยวนไปกับเซี่ยเหยียนเหยียน หว่านหว่านของฉันนิสัยดี และไม่สามารถทำร้ายใครได้ แต่ฉันนั้นแตกต่างออกไป หากฉันไปจัดการนางตัวแสบอย่างเซี่ยเหยียนเหยียน คุณจะเสียใจไหมคะ?”

ลู่หานถิงยกเปลือกตาที่งดงามของเขาขึ้นแล้วเหลือบมองเยี่ยหลิงผ่านทางกระจก จากนั้นก็จ้องมองไปที่ดวงตาอันสดใสของเซี่ยซีหว่านและพูดว่า “ผมไม่ได้สนิทกับเธอ คุณจะทำอะไรก็ทำตามใจคุณเลย”

คำพูดนี้เป็นเหมือนการบอกกับเซี่ยซีหว่านซึ่งกำลังหลบสายตาของเขาอยู่

ขณะเดียวกันเยี่ยหลิงคว้าแขนเรียวของเซี่ยซีหว่านไว้และพูดว่า “หว่านหว่าน เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว คืนนี้เธอไม่ต้องกลับไปได้ไหม อยู่ที่จุ้ยหยูฮวนกับฉันนะ อยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ”

เซี่ยซีหว่านยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่หานถิงที่อยู่ด้านหน้าก็เงยหน้าขึ้นมามองอย่างรวดเร็ว และพูดว่า “แบบนี้ไม่น่าจะดีนะ?”

“ไม่ดีตรงไหนคะ?”

“ผมจำได้ว่าพวกคุณเพิ่งเจอกันที่ซานย่า และมันก็ไม่ได้นานขนาดนั้นนะ”

“ไม่เจอหนึ่งวันเหมือนผ่านไปสามฤดูฤดูใบไม้ร่วง ประธานลู่ ขอลาพักร้อนหน่อยสิคะ คุณยังได้รับอนุญาตให้ใช้เงิน 1.2 พันล้านไปกับสาวสวยเลย แต่คุณกลับไม่อนุญาตให้หว่านหว่านของฉันมาอยู่เป็นเพื่อนกับเพื่อนสนิทอย่างฉันงั้นเหรอคะ นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยนะคะ”

ลู่หานถิงเริ่มรู้สึกปวดหัว เขารู้ว่าเยี่ยหลิงที่เป็นเพื่อนสนิทของเซี่ยซีหว่านคนนี้จงใจที่จะทำเช่นนี้จึงพูดว่า “หากหว่านหว่านไม่กลับไป จะมีหลายคนที่คิดถึงเธอ เช่น คุณย่าและหยวนหยวนตัวน้อย…”

เยี่ยหลิงพูดอย่างไร้ความเมตตาว่า “นั่นก็เป็นเรื่องของพวกเขาค่ะ”

ลู่หานถิงหยุดพูด ดวงตาคมคายและมีเสน่ห์ของเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของเซี่ยซีหว่าน ในดวงตาฉายแววเร่าร้อนและมืดมนเล็กน้อย

แน่นอนว่าเซี่ยซีหว่านเข้าใจถึงสิ่งที่เขาต้องการจะบอก เขาไม่อนุญาตให้เธอไปอยู่เป็นเพื่อนเยี่ยหลิง และเขาต้องการให้เธอกลับบ้าน

ประธานลู่ผู้สง่างามยกคุณย่าและหยวนหยวนตัวน้อยออกมาพูด ซึ่งอันที่จริงแล้วนี่คือโล่กำบังของเขา

เซี่ยซีหว่านพยักหน้ารับและพูดว่า “ตกลงหลิงหลิง ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ คุณชายลู่ช่วยบอกคุณย่าให้ฉันหน่อยนะคะว่าคืนนี้ฉันจะไม่กลับไปค่ะ”

ลู่หานถิงหยุดมองเธอ เขาเหลือบมองแสงนีออนที่สว่างไสวอยู่นอกหน้าต่าง จากนั้นจึงยกริมฝีปากบาง ๆ ของเขาขึ้น และพูดว่า “แค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้นนะ พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณกลับ”

“แบบนั้นไม่ได้สิคะ หว่านหว่านจะอยู่กับฉันนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของหว่านหว่านของฉันค่ะ” เยี่ยหลิงพูด

ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าไม่พูดอะไรอีก เพราะโต้เถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ อีกทั้งยังไม่สามารถแย่งเพื่อนสนิทของเธอไปได้อีกด้วย?

เซี่ยซีหว่านแหงนหน้าขึ้นและเหลือบมองไปที่ลู่หานถิงซึ่งอยู่ด้านหน้าเธอ ใบหน้าที่หล่อเหลา และสง่างามของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา แขนเสื้อเชิ้ตสีขาวถูกม้วนขึ้นสองครั้ง มือใหญ่ที่สวมใส่นาฬิการาคาแพงกดลงไปบนพวงมาลัยรถหรูแบบหนักแน่นช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก

แต่ทว่าเซี่ยซีหว่านรู้ดีว่าเขากำลังโกรธ เพราะเธอเห็นเขายกมือขึ้นเพื่อปลดกระดุมเสื้อหนึ่งเม็ดด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ แต่เขาต้องกักเก็บมันเอาไว้ภายในใจ

เซี่ยซีหว่านจึงมองออกไปที่อื่น

...

ณ จุ้ยหยูฮวน

เซี่ยซีหว่านและเยี่ยหลิงลงจากรถ เยี่ยหลิงพูดกับลู่หานถิงอย่างสุภาพว่า “ขอบคุณและลาก่อนนะคะประธานลู่” จากนั้นเธอก็ดึงมือเล็กของเซี่ยซีหว่านจากไปโดยไม่หันหลังกลับมาอีกเลย

เมื่อทั้งสองขึ้นลิฟต์ เยี่ยหลิงหลิงพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ประธานลู่คนนี้ดูโกรธมาก เขาสมควรได้รับมันแล้วล่ะ ในฐานะบ้านพ่อแม่ของฝ่ายหญิง หากฉันจะไม่ช่วยเธอระบายความแค้น แล้วใครล่ะจะช่วยเธอ”

ตอนนี้เซี่ยซีหว่านไม่อยากคุยกับลู่หานถิงจริง ๆ และเป็นการดีที่จะแยกกันก่อนเพื่อรอให้แต่ล่ะฝ่ายใจเย็นลง

ทั้งสองคนเข้าไปในคอนโด เยี่ยหลิงยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าคืนที่เธอกลับจากซานย่าจะทำให้ประธานลู่พอใจมากนะ เธอไม่เห็นสีหน้าของประธานลู่เมื่อสักครู่นี้ในรถตอนที่ฉันพูดว่าจะไม่ให้เธอกลับไปเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะการให้ท้ายของเธอ ฉันคงกลัวไปนานแล้วล่ะ”

ติ่งหูสีขาวราวกับหิมะของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว “พวกเราไม่ได้ทำอะไรกันเลย”

“จริงหรือหลอก หว่านหว่านรีบเล่าความจริงมาเดี๋ยวนี้นะ พวกเธอถึงขั้นไหนกันแล้ว”

“พวกเรา...” เซี่ยซีหว่านพูดอย่างอึกอักว่า “พวกเราแค่... จูบกัน…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี