“จูบ...ตรงไหนล่ะ?”
เมื่อมองไปยังแววตาที่มีเลศนัยของเยี่ยหลิง เซี่ยซีหว่านจึงพูดด้วยความเขินอายว่า “แค่จูบเหนือต้นคอเอง!”
เยี่ยหลิงค่อนข้างประหลาดใจและพูดว่า “หว่านหว่าน เมื่อครู่นี้ฉันเพิ่งพูดว่าประธานลู่เป็นนักพรตผู้ยิ่งใหญ่ ความเป็นผู้ใหญ่ของผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่แค่การพูดและท่าทางของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมั่งคั่งและอำนาจที่ทับซ้อนกันอีกด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของอารมณ์ทางเพศนั้นจะแสดงให้เห็นว่าเขามีความเป็นผู้ใหญ่มากแค่ไหน”
ใบหน้าที่เล็กและงดงามของเซี่ยซีหว่านแดงก่ำราวกับกุ้งต้ม “หลิงหลิง!”
“ฉันคิดว่าประธานลู่น่าจะเข้าใจดีเลยทีเดียวล่ะ ส่วนเธอเป็นเพียงกระต่ายขาวตัวน้อยไร้เดียงสาที่ตกลงไปในถ้ำหมาป่าของเขา เขาจะอดทนไม่แตะต้องเธอได้ยังไงกัน”
เซี่ยซีหว่านไม่อยากคุยอีกต่อไป…
เยี่ยหลิงมองไปยังแววตาอันสดใสของเซี่ยซีหว่านที่เปล่งประกายราวกับแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ เธอรู้ได้ในทันทีว่าเซี่ยซีหว่านตกหลุมรักลู่หานถิงเข้าแล้ว แต่เยี่ยหลิงกลับไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด เซี่ยซีหว่านที่ยังอายุไม่ถึง 20 ปี และได้พบกับลู่หานถิงในปีนี้นั้นเป็นเรื่องยากที่จะไม่หวั่นไหว
หลังจากที่เธอได้พบกับลู่หานถิง สายตาของลู่หานถิงนั้นจับจ้องไปที่ร่างกายของหว่านหว่านตลอดเวลาซึ่งเป็นการจ้องมองของชายคนหนึ่งที่กำลังมองผู้หญิงของเขา
ในฐานะบ้านของพ่อแม่ฝ่ายหญิง เขาได้ผ่านด่านของเธอแล้ว แต่ตอนนี้มีปัญหาใหญ่อยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือ เซี่ยเหยี่ยนเหยีน
เยี่ยหลิงกลับมายังบทสนทนา “หว่านหว่าน ตกลงระหว่างประธานลู่และเซี่ยเหยียนเหยียนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอได้ถามเขาหรือยัง?”
“ฉันถามแล้ว เขาบอกว่าเซี่ยเหยียนเหยียนเคยช่วยชีวิตเขาไว้จึงเป็นผู้มีบุญคุณต่อเขา”
What?
ใบหน้าของเยี่ยหลิงเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม “คิดไม่ถึงเลยว่าเซี่ยเหยียนเหยียนคนนี้จะใจดีช่วยเหลือคนอื่นด้วย อีกทั้งยังสามารถช่วยได้จริง ๆ แถมคน ๆ นั้นยังเป็นประธานลู่หานถิงแห่งตระกูลลู่อีกด้วย เธอจงใจชัด ๆ หรือไม่ นี่ก็คือแผนการของเธอ เธอส่งคนไปลอบทำร้ายประธานลู่ จากนั้นก็ทำตัวเป็นนางเอกไปช่วยพระเอกเป็นแน่”
เซี่ยซีหว่านชื่นชมเยี่ยหลิงในจุด ๆ นั้นมาก ในฐานะผู้ชื่นชอบการนินทาเป็นชีวิตจิตใจ เบาะแสเพียงน้อยนิดเยี่ยหลิงก็ยังสามารถทำให้กลายเป็นละครน้ำเน่าหลังข่าวภาคค่ำได้
ขณะเดียวกันเยี่ยหลิงก็นึกคำถามขึ้นมาได้ว่า “หว่านหว่าน แล้วผู้ชายที่เธอเคยช่วยไว้ก่อนหน้านี้ล่ะ ทำไมเธอถึงไม่ช่วยลู่หานถิงล่ะ?”
“...”
เซี่ยซีหว่านพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอกลับไปถามตัวเองเมื่อ 7 ปีก่อนหน่อยล่ะกัน?”
เยี่ยหลิงขมวดคิ้ว และพูดว่า “หว่านหว่าน ฉันคิดอยู่เสมอว่าเซี่ยเหยียนเหยียนคนนี้ต้องกำลังซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้แน่ 10 ปีก่อนหลังจากที่เธอกลับไปยังชนบท ทำไมทักษะทางการแพทย์ของเซี่ยเหยียนเหยียนถึงพุ่งทะยานสูงขึ้นจนกลายเป็นเด็กสาวอัจฉริยะไปได้ เธอใช้วิธีไหนช่วยลู่หานถิงจนกลายเป็นบุญคุณต่อตระกูลลู่ได้ถึงเพียงนี้?”
สำหรับคำถามแรก เซี่ยซีหว่านรู้สึกว่าทักษะทางการแพทย์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วของเซี่ยเหยียนเหยียนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแม่และอาการโคม่าของคุณปู่แน่นอน นี่เป็นความลับที่ถูกซ่อนอยู่
สำหรับคำถามที่สอง เธอไม่รู้ว่าเซี่ยเหยียนเหยียนช่วยชีวิตลู่หานถิงได้อย่างไร เมื่อครู่นี้ลู่หานถิงไม่ได้พูดอะไรบนรถเลย แต่ด้วยสัญชาตญาณที่เฉียบแหลมของผู้หญิง เธอรับรู้ได้ในทันทีว่าการช่วยชีวิตที่เขาพูดถึงนั้น เขากำลังปกปิดบางอย่างอยู่และเขาไม่ต้องการที่จะพูดถึงมัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานั้นมีความสำคัญต่อเขามาก และหลายปีที่ผ่านมานี้เขายังคงจดจำไม่เคยลืม
นี่คือสิ่งที่เซี่ยซีหว่านให้ความสำคัญมากที่สุด
ผู้หญิงทุกคนไม่สามารถทนต่อสิ่งกวนใจได้ อีกทั้งไม่สามารถแบ่งปันความรักของเธอกับผู้หญิงคนอื่นได้ เซี่ยซีหว่านเองก็เช่นกัน
ผู้จัดการจินฮวาจ้างคุณป้าคนหนึ่งไว้ คุณป้าคนนั้นทำอาหารหลักสามจานและซุปหนึ่งชามเสร็จอย่างรวดเร็ว
หลังอาหารเย็น เซี่ยซีหว่านที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังเช็ดผมที่เปียกหมาด ๆ ด้วยผ้าขนหนู เมื่อเธอมองลงไปที่ชั้นล่าง เธอก็พบว่ารถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมของลู่หานถิงไม่ได้จากไปไหน
เขายังคงอยู่ที่นั่น
เซี่ยซีหว่านยื่นแขนที่เรียวบางของเธอออกไปเปิดผ้าม่านขึ้น
ขณะเดียวกันเยี่ยหลิงออกมาจากห้องอาบน้ำ และพูดว่า “หว่านหว่านประธานลู่ให้เงินเซี่ยเหยียนเหยียน 1.2 พันล้าน แล้วเขาให้เงินเธอเท่าไหร่?”
เซี่ยซีหว่านหยุดชะงัก และพูดว่า “อะไรนะ?”
“หว่านหว่านที่โง่เขลาของฉัน ในมุมมองของผู้ชาย เขาให้เงินกับผู้หญิงมากแค่ไหน แสดงว่าเขารักผู้หญิงคนนั้นมากแค่นั้น ไม่ใช่ว่าประธานลู่ไม่ให้เงินเธอสักบาทใช่ไหม?”
เซี่ยซีหว่านจำได้ว่าลู่หานถิงได้มอบแบล็คการ์ดใหักับเธอ แม้ว่าเธอจะไม่เคยใช้มัน แต่เธอก็ยังคงใส่มันไว้ในกระเป๋าของเธอ
“เขาให้การ์ดฉัน” เซี่ยซีหว่านส่งแบล็คการ์ดอันนั้นให้เยี่ยหลิงดู
เยี่ยหลิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ในทันที เธอเห็นตัวอักษรสีทองสลักคำว่า “ลู่” บนแบล็คการ์ดใบนั้น “สมกับเป็นประธานลู่จริง ๆ แบล็คการ์ดใบนี้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ เธอสามารถซื้อของทั้งหมดทั่วโลกได้ภายใต้ชื่อและทรัพย์สินของลู่หานถิง หว่านหว่าน แม้ว่าประธาลู่จะให้เงินเซี่ยเหยียนเหยียน 1.2 พันล้านหยวน แต่ประธานลู่กลับมอบคลังสมบัติอาณาจักรขนาดใหญ่ของตระกูลลู่ให้กับเธอ เธอรวยแล้วล่ะ!”
เซี่ยซีหว่านไม่รู้มาก่อนว่าแบล็คการ์ดใบนี้จะทรงพลังถึงเพียงนี้ เขาให้เงินเซี่ยเหยียนเหยียน 1.2 พันล้านหยวน แต่มอบคลังสมบัติให้เธออย่างนั้นเหรอ
เซี่ยซีหว่านรู้สึกดีภายในใจ
“หว่านหว่าน พรุ่งนี้ไปช้อปปิ้งกันเถอะ มีการ์ดของประธานลู่อยู่ในมือแล้ว โลกนี้ก็กลายเป็นของเธอแล้วล่ะ”
รูดบัตรของลู่หานถิงอย่างนั้นเหรอ?
เซี่ยซีหว่านต้องการปฏิเสธ
เยี่ยหลิงกลับรั้งเธอไว้ และพูดว่า “หว่านหว่าน ประธานลู่ร่ำรวย ไม่ต้องรู้สึกกังวลเลย อีกอย่างเซี่ยเหยียนเหยียนใช้เงินเขาไปตั้ง 1.2 พันล้านหยวน คุณนายลู่อย่างเธอยังไม่เคยรูดบัตรของคุณชายลู่สักครั้งเลย แบบนี้มันได้ที่ไหนกันล่ะ? ฟังฉันนะ ไม่มีอะไรเสียหายหรอก”
เซี่ยซีหว่านไม่ได้พูดอะไรอีก
...
ลู่หานถิงยังไม่จากไป รถหรูของเขายังคงจอดอยู่ที่ใต้คอนโด
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าเปลือกตาขวาของเขากระตุกอยู่ตลอดเวลาราวกับว่ามีใครบางคนกำลังพูดไม่ดีเกี่ยวกับเขาลับหลังเท่านั้น แต่ยังวางแผนบางอย่างเกี่ยวกับทรัพย์สินของเขาด้วย
ลู่หานถิงเหลือบมองขึ้นไปยังชั้นบนผ่านหน้าต่างกระจกใส จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่งข้อความ “นอนแล้วเหรอ?”
ในขณะที่เซี่ยซีหว่านกำลังนอนอยู่บนหมอนนุ่ม ๆ บนเตียงนั้น แสงบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็สว่างขึ้น เมื่อเธอเปิดดูก็พบว่ามันคือข้อความจากลู่หานถิง
นิ้วเรียวยาวขาวนวลของเซี่ยซีหว่านกดส่งข้อความกลับ “นอนแล้วค่ะ”
ลู่หานถิงส่งกลับมาว่า “นอนแล้วแต่ยังตอบกลับฉันอย่างนั้นเหรอ?”
เซี่ยซีหว่านไม่ตอบกลับเขาแล้ว
ลู่หานถิงมองไปยังรอยฟันเล็ก ๆ บนท่อนแขนที่แข็งแรงของตนเอง ริมฝีปากบางของเขาพูดขึ้นอย่างรักใคร่และจำใจว่า “ราตรีสวัสดิ์คุณนายลู่”
โทรศัพท์กลับเข้าสู่ความเงียบ
หลังจากนั้นไม่นานลู่หานถิงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็กดหมายเลขโทรศัพท์ของคน ๆ หนึ่ง
เสียงรอสายอันไพเราะของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น จากนั้นไม่นานปลายสายก็กดรับ เสียงที่ไพเราะและแผ่วเบาของกู้เยี่ยจิ่นดังขึ้น “ทำไมต้องโทรหาฉันตอนกลางคืนด้วย?”
ลู่หานถิงดึงบุหรี่ออกจากซองบุหรี่แล้วคาบบุหรี่ไว้บนริมฝีปากบาง ๆ ของเขา เขาสูดมันเล็กน้อยพลางขมวดคิ้วอันหล่อเหลา และพูดว่า “ฉันรบกวนกิจกรรมสนุก ๆ ยามค่ำคืนของนายเหรอ?”
“นายแน่ใจเหรอว่าชายหนุ่มอย่างเราสองคนควรคุยเรื่องแบบนี้กันในยามค่ำคืน?”
กู้เยี่ยจิ่นเป็นนายน้อยแห่งตระกูลกู้ เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับหยก เขาอ่อนโยนและเรียบง่าย อย่างไรก็ตามเขามีนิสัยที่สงบ เข้าใจยาก และเย็นชา
ลู่หานถิงค่อย ๆ พ่นควันบุหรี่ออกจากปากของเขาอย่างช้า ๆ และพูดว่า “นายกำลังคิดถึงค่ำคืนอันมืดมิดที่ลมพัดแรงเมื่อสองปีก่อนตอนนายถูกขังอยู่ในห้องนั้นและทำให้นายรู้สึกแข็งแกร่งขึ้นใช่หรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...