พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 65

เซี่ยซีหว่านหยิบแบล็คการ์ดที่ลู่หานถิงมอบให้ออกมา การ์ดประเภทนี้ทุกคนต่างก็รู้จักดี มันเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งที่ไม่มีใครเหมือนและสั่งทำขึ้นเองโดยตัวบุคคลนั้น

พนักงานรีบรับบัตรอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “ได้ค่ะ ได้ค่ะคุณผู้หญิง โปรดชำระบิลทางนี้ด้วยค่ะ”

เซี่ยซีหว่านเดินไปที่แคชเชียร์เพื่อชำระบิล

ฮั่วเสวียนอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อ จากนั้นเธอพูดว่า “คนบ้านนอกคอกนาอย่างเซี่ยซีหว่านจะมีแบล็คการ์ดแบบนี้ได้ยังไงกัน อีกอย่างเมื่อครู่นี้ฉันเห็นว่าบนการ์ดมีตัวอักษรสีทองสลักคำว่า...ลู่เอาไว้ด้วย”

ฮั่วเสวียนไม่ค่อยรู้เรื่องลู่หานถิงมากนัก เพราะลู่หานถิงไม่ได้สนิทกับเธอ

อย่างไรก็ตามในเมืองไห่เฉิง เมื่อเห็นคำว่า “ลู่” ทุกคนก็จะนึกถึงลู่หานถิงบุคคลที่มีอำนาจล้นฟ้า

เซี่ยเหยียนเหยียนเป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียง เธอทั้งมีเสน่ห์และสง่างามเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับเกิดรอยร้าวขึ้นบนใบหน้าของเธอ สิ่งที่ฮั่วเสวียนเพิ่งคิดได้ เซี่ยเหยียนเหยียนกลับคิดไว้ตั้งนานแล้ว แซ่ลู่ แถมยังมีแบล็คการ์ดอีก ต้องเป็นลู่หานถิงแน่ ๆ !

เซี่ยซีหว่านมีการ์ดของลู่หานถิงได้อย่างไรกัน?

เซี่ยซีหว่านชำระบิลเสร็จแล้ว ในมือของเธอและเยี่ยหลิงเต็มไปด้วยสินค้ามากมาย เธอเดินออกไปอย่างผู้ที่ได้รับชัยชนะ การ์ดของลู่หานถิงสามารถนำมาใช้งานได้ง่ายดายมาก มันไม่ได้เป็นเพียงการ์ดธรรมดา แต่มันยังสามารถทำให้เซี่ยเหยียนเหยียนและฮั่วเสวียนตกตะลึงจนกลายเป็นคนใบ้ได้อีกด้วย

เซี่ยซีหว่านเดินไปที่ด้านข้างของเซี่ยเหยียนเหยียนและหยุดเดินอย่างกะทันหัน เธอเม้มริมฝีปากบาง จากนั้นก็ยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “แค่กิ๊กกันจะมีความหมายอะไร หากมีความสามารถก็ทำให้มันเป็นเรื่องจริงเลยสิ”

สีหน้าของเซี่ยเหยียนเหยียนฉายแววเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น เธอดูมืดมนเล็กน้อย และพูดว่า “เธอรู้จักลู่หานถิงเหรอ? เธอเป็นอะไรกับลู่หานถิง?”

“เซี่ยเหยียนเหยียน เธอฉลาดมากไม่ใช่หรอกเหรอ ลองเดาเอาเองสิ ผู้ชายมอบการ์ดของตัวเองให้กับผู้หญิง เธอคิดว่าพวกเราเป็นอะไรกันล่ะ?”

ดวงตาของเซี่ยเหยียนเหยียนแสดงความอาฆาตแค้นเหมือนกับหลี่ยู่หลานไม่มีผิด เธอเกลียด เซี่ยซีหว่านและเยี่ยหลิง!

เมื่อก่อนเซี่ยซีหว่านและเยี่ยหลิงมักจะถูกเรียกว่าหว่านสาวงามแห่งทิศใต้และหลิงสาวงามแห่งทิศเหนือ พวกเธอไปที่ไหนก็มักจะได้รับความสนใจจากผู้คนรอบข้าง ขณะที่เซี่ยเหยียนเหยียนเป็นเหมือนใบไม้สีเขียวข้าง ๆ พวกเธอเท่านั้น โอ้ ไม่สิ หากพูดตรง ๆ เธอก็เหมือนกับคนรับใช้ส่วนตัวของเซี่ยซีหว่านและเยี่ยหลิง

เซี่ยซีหว่านมองไปที่ใบหน้าของเซี่ยเหยียนเหยียนที่ไม่สามารถปกปิดความไม่พึงพอใจได้อีกต่อไปแล้ว เธอเลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า “เธอเสียใจอย่างนั้นเหรอ ทำไมตอนนั้นเธอโง่ต้องการเงินแค่ 1.2 พันล้านหยวนล่ะ ทำไมถึงไม่ขอแบล็คการ์ดลู่หานถิงด้วย มันน่าจะดีกว่าเยอะนะ น่าเสียดายจังที่เธอไม่ได้สนุกกับการรูดบัตรของเขาตามอำเภอใจ”

เซี่ยซีหว่านพูดจบก็เดินจากไปพร้อมกับเยี่ยหลิง

...

เยี่ยหลิงไม่ได้หันกลับไปมอง แต่เธอสามารถเดาได้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเซี่ยเหยียนเหยียนจะน่าเกลียดถึงเพียงไหน “หว่านหว่าน เธอนิสัยไม่ดีเกินไปแล้ว แถมเธอยังไม่บอกเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับลู่หานถิงอีก ปล่อยให้เซี่ยเหยียนเหยียนเดาแบบนั้น หัวใจของเธอคงจะทรมานจนแทบบ้าแล้วล่ะ”

นี่คือผลลัพธ์ที่เซี่ยซีหว่านต้องการ เธอรู้จักเซี่ยเหยียนเหยียนดี เซี่ยเหยียนเหยียนเป็นเหมือนกับพวกถ้ำมองที่ชอบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เธอมีจิตใจที่บิดเบี้ยวและผิดปกติเป็นอย่างมาก เธอมักจะให้ความสนใจกับเรื่องไร้สาระเป็นพิเศษ

ตอนนี้แย่งสิ่งของที่เธอครอบครองไปทีละชิ้น ๆ ทำให้เธอเผยธาตุแท้ออกมา เซี่ยเหยียนเหยียนจะต้องคลั่งจนแทบจะเป็นบ้าอย่างแน่นอน

“หลิงหลิง เราจะไปที่ไหนกันอีก ตอนนี้เราก็ซื้อของมาเยอะมากแล้ว”

เยี่ยหลิงถอนลมหายใจ และพูดว่า “การใช้จ่ายของเธอเมื่อครู่ ตอนนี้ข้อความแจ้งเตือนน่าจะส่งไปยังโทรศัพท์ของคุณชายลู่แล้วล่ะ”

เซี่ยซีหว่านรู้สึกเขินอาย เมื่อครู่ตอนที่เธอรูดบัตร เธอกำลังหงุดหงิดมาก และตอนนี้หลังจากที่เธอคิดได้แล้ว เธอรู้สึกว่าตนเองหุนหันพลันแล่นจนเกินไป

คุณชายลู่จะคิดอย่างไรหลังจากได้รับข้อความแจ้งเตือนการใช้จ่ายในครั้งนี้นะ

เยี่ยหลิงดึงเซี่ยซีหว่านไปข้างหน้า และพูดว่า “หว่านหว่าน ผู้หญิงที่ชอบใช้เงินจะทำให้ผู้ชายทั้งรัก ทั้งเกลียด แต่ลู่หานถิงร่ำรวยขนาดนั้นเธอจะไปกลัวอะไรล่ะ?”

เซี่ยซีหว่านไม่สามารถโต้เถียงได้

เยี่ยหลิงพาเซี่ยซีหว่านไปยังร้านทำเล็บ “มาเร็ว มาเร็ว พวกเรามาทำเล็บกันเถอะ”

เซี่ยซีหว่านไม่เคยทำเล็บมาก่อน เธอใช้เวลาสวนใหญ่ในการศึกษาตำราแพทย์ และเรียนรู้การพัฒนายาแต่ละชนิด ดังนั้นเธอจึงไม่มีเวลาเหลือไปแต่งเนื้อแต่งตัว

แต่ทว่าตอนนี้เหล่าบรรดาสาว ๆ ต่างก็เริ่มทำเล็บแล้ว ซึ่งมันจะทำให้ตัวเองดูมีความงดงามและละเอียดอ่อนมากยิ่งขึ้น และผู้ชายก็มักจะชอบผู้หญิงที่มีความงดงามและละเอียดอ่อนเช่นกัน

ช่างทำเล็บถามพวกเธอว่า “สาวสวยทั้งสองคน อยากทำเล็บแบบไหนคะ ขอคำแนะนำได้นะคะ”

เยี่ยหลิงเม้มริมฝีปากสีแดงสด และพูดว่า “ขอบคุณค่ะพี่สาว แต่เราจะเลือกกันเองค่ะ”

ทักษะความงามทางด้านของแฟชั่นของเยี่ยหลิงมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่ามีเธออยู่ที่นี่ทั้งคนแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นจะต้องมีคำแนะนำใด ๆ จากคนอื่น

“หว่านหว่าน เธอชอบแบบไหนล่ะ?”

เซี่ยซีหว่านพลิกดูสมุดทำเล็บ สีสันในนั้นทำให้เธอตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก

เยี่ยหลิงชี้ไปที่สี ๆ หนึ่ง “แล้วแบบนี้ล่ะเป็นไง?”

เยี่ยหลิงหมายถึงสีชมพู มันคือสีชมพูแมตต์เป็นพิเศษ

ช่างทำเล็บอดไม่ได้ที่จะชื่นชมว่า “สีชมพูนี้เป็นสีของฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเหมาะมากสำหรับหญิงสาววัยใสค่ะ”

เซี่ยซีหว่านบริสุทธิ์ผุดผ่องและอายุเธอก็ยังน้อย ซึ่งมันต่างก็เป็นสิ่งที่ลู่หานถิงชอบ

เยี่ยหลิงมองไปที่เซี่ยซีหว่าน เธอกระพริบตาเบา ๆ จากนั้นพูดเสริมด้วยเสียงโทนต่ำว่า “ยอดชายจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน”

ยอด...ชาย?

คำพูดของเยี่ยหลิงนั้นแสดงความหมายอย่างชัดเจน ลู่หานถิงเป็นคนตรง ๆ และสีชมพูนี้คือสิ่งที่เขาชอบ

ติ่งหูสีขาวราวกับหิมะของเซี่ยซีหวานกลายเป็นสีแดงเล็กน้อย เธอพูดว่า “หลิงหลิง แล้วเธอล่ะ เลือกสีอะไร?”

เยี่ยหลิงพลิกดูสมุดทำเล็บ และพูดว่า “ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าฉันมีคุณสมบัติระดับมืออาชีพ แน่นอนว่าฉันจะทำสีที่เหล่าบรรดานักลงทุนของฉันชอบเพื่อทำให้พวกเขาพอใจ”

ในฐานะเพื่อนสนิท เซี่ยซีหว่านรู้ดีว่าคนที่เยี่ยหลิงเรียกว่า “นักลงทุน” จากปากของเธอนั้นจริง ๆ แล้วคือ...กู้เยี่ยจิ่น

หลังจากจบพิธีบรรลุนิติภาวะเมื่อสองปีที่แล้ว เยี่ยหลิงก็ย้ายออกจากบ้านของตระกูลกู้ เธอออกจากเมืองไห่เฉิงและเข้าสู่วงการบันเทิง

วงการบันเทิงเปรียบเสมือนถังย้อมสีขนาดใหญ่ คนแบบเยี่ยหลิงหากเข้าไปในนั้นเกรงว่าจะโดนเหล่าบรรดานักลงทุนเอาเปรียบเอาได้ เบื้องหลังของเยี่ยหลิงคือกู้เยี่ยจิ่น กู้เยี่ยจิ่นจัดการส่งผู้จัดการมือทองและทีมงานให้กับเธอ ในส่วนของทรัพยากรนั้นเขาจัดการให้เธออย่างดีที่สุด รถที่เธอขับ อีกทั้งทุกที่ที่เธอเข้าออกล้วนเป็นระดับไฮเอนด์ทั้งหมด กู้เยี่ยจิ่นยังคงเอาอกเอาใจเยี่ยหลิงน้องสาวคนนี้เหมือนดังเมื่อก่อน

อย่างไรก็ตามมันเป็นความจริงที่เยี่ยหลิงและกู้เยี่ยจิ่นไม่ได้เจอกันมาสองปีแล้ว

เยี่ยหลิงไม่ได้กลับมาที่เมืองไห่เฉิงเป็นเวลาสองปีแล้ว เมื่อครู่นี้เป็นครั้งแรกที่เธอและกู้เยี่ยจิ่นได้พบกัน

เซี่ยซีหว่านโน้มตัวเข้าใกล้เยี่ยหลิง และพูดว่า “คุณชายกู้ดูเย็นชามาก อีกทั้งยังดูไม่น่าเข้าใกล้เลยสักนิด เขาเคร่งขรึมมากกว่าคุณชายลู่เสียอีก เขาจะชอบคนทำเล็บเหรอ”

เยี่ยหลิงไม่ได้เงยหน้าขึ้น และพูดว่า “เธอโดนรูปลักษณ์ภายนอกของเขาหลอกแล้วล่ะ เขา... เมื่อเขาถอดเสื้อผ้าของเขาออกเขาก็คือสัตว์ร้ายดี ๆ นี่เอง เขาชอบผู้หญิงที่สวยงามที่สุด และแน่นอนว่าการทำเล็บ...เขาก็ต้องชอบแบบที่พราวเสน่ห์ที่สุดเช่นกัน”

“...”

เซี่ยซีหว่านอยากจะถ่ายทอดการประเมินครั้งนี้ของเยี่ยหลิงให้กู้เยี่ยจิ่นฟังจริง ๆ

ขณะเดียวกันเยี่ยหลิงก็ชี้ไปที่สี ๆ หนึ่ง และพูดว่า “ทำแบบนี้ให้ฉันด้วยค่ะ”

เซี่ยซีหว่านเหลือบมอง เยี่ยหลิงเลือกสีแดง ซึ่งเป็นสีแดงสดที่สุดจนเกือบจะเป็นสีแดงเข้ม

...

เซี่ยซีหว่านทำเล็บเสร็จแล้ว เธอหันกลับไปมองด้านหลัง และพบว่าร่างสูงโปร่งที่หล่อเหลาราวกับหยกยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า กู้เยี่ยจิ่นอยู่ที่นี่แล้ว

“คุณชายกู้ทางนี้ค่ะ” เซี่ยซีหว่านพูดด้วยรอยยิ้ม

ขายาวของกู้เยี่ยจิ่นเดินเข้ามาด้านใน ดวงตาสีดำอันเยือกเย็นของเขาเหลือบสำรวจภายในร้านทำเล็บเล็กน้อย และพูดว่า “หลิงหลิงอยู่ที่ไหนล่ะ?”

“หลิงหลิงกำลังทำเล็บอยู่ข้างในค่ะ อีกไม่นานก็จะเสร็จแล้วค่ะ”

พูดจบเซี่ยซีหว่านก็ส่งสมุดทำเล็บไปให้กู้เยี่ยจิ่นดู “คุณชายกู้ คุณคิดว่าสีไหนสวยคะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี