เขาหมายความว่าอย่างไรกัน?
สายตาของเขามองไปยังริมฝีปากสีแดงของเธออย่างไม่ลดละราวกับกำลังบอกเป็นนัยว่าหมายถึงอะไร ซึ่งวิธีที่ผู้หญิงจะขอบคุณผู้ชายได้ดีที่สุดก็คือการจูบอย่างไรล่ะ
หัวใจของเซี่ยซีหว่านเต้นแรงขึ้นมาทันที และใบหูขาวราวหิมะของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “ฉันไม่เข้าใจค่ะ”
เมื่อเธอพูดจบก็หันหน้าออกไปทางหน้าต่างและไม่สนใจเขาอีก
ลู่หานถิงเห็นเธอหลีกเลี่ยงเขาแบบนี้ก็รู้สึกได้ว่า เธอเป็นคนที่ฉลาด มีไหวพริบ เป็นตัวของตัวเองและไม่ยอมไว้ใจใครง่าย ๆ
เมื่อถึงไฟแดงรถหรูก็จอดนิ่ง เซี่ยซีหว่านก็พิงศีรษะไปที่กระจกรถแล้วมองออกไปยังร้านเค้กที่ดังที่สุดในไห่เฉิง
“อยากกินเค้กเหรอ?” หูของเธอก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของลู่หานถิงดังขึ้นมา
ดวงตาที่สดใสของเซี่ยซีหว่านเศร้าหมองลงเล็กน้อย เธอพูดอย่างแผ่วเบาว่า “เมื่อก่อนแม่ของฉันชอบพาฉันไปซื้อเค้กที่ร้านนั้นล่ะ”
ลู่หานถิงหมุนพวงมาลัยมาจอดรถที่ข้างทาง “ถ้าอยากกินก็ลงไปซื้อสิ”
......
ร้านนี้เป็นร้านเค้กที่เก่าแก่ในไห่เฉิง และเป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะในแวดวงดาราและลูกคนมีเงิน ซึ่งร้านนี้จะขายเค้กที่มีปริมาณจำนวนจำกัดทุกวัน
เซี่ยซีหว่านชอบกินเค้กมาตั้งแต่เด็ก ๆ แม่ของเธอมักพามาซื้อเค้กร้านนี้เป็นประจำ ซึ่งนั้นเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่สวยงามที่สุดในความทรงจำของเธอ
เป็นเวลา 10 ปีแล้วที่เธอไม่ได้กลับมาที่นี่
ดวงตาของเธอแดงขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่อยากให้ขายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ เห็นมันจึงพูดขึ้นว่า “เอ่อ......คุณรอฉันก่อนนะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
เมื่อพูดจบเซี่ยซีหว่านก็เดินไปล้างหน้าในห้องน้ำ
ลู่หานถิงมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวที่เพิ่งเดินจากไป เมื่อครู่นี้เขาเห็นแล้วว่าเธอร้องไห้ ช่างเหมือนเด็กน้อยที่ไม่รู้จักโตเลยจริง ๆ
เขาก้าวขายาว ๆ เข้าไปในร้านเค้ก
เรื่องบังเอิญก็คือ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยและข่งเจินเอ่อร์เพื่อนสนิทของเธอก็อยู่ในร้านเค้กนี้ด้วย
ข่งเจินเอ่อร์สะกิดเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยแล้วถามว่า “เสี่ยวเตี๋ย เมื่อกี้นี้เธอบอกว่ายัยบ้านนอกเซี่ยซีหว่านเลี้ยงเด็กหนุ่มหน้าหล่อไว้คนหนึ่ง นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”
เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “จริงแท้แน่นอน ฉันเห็นกับตาว่าเด็กหนุ่มคนนั้นขับรถมาส่งเซี่ยซีหว่านถึงบ้านเลย”
“สมัยนี้เลี้ยงเด็กใช้เงินเยอะนะ เซี่ยซีหว่านเพิ่งกลับมาจากบ้านนอกคอกนา แล้วเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงเด็กล่ะ?”
เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดต่อว่า “เด็กหนุ่มสมัยนี้ก็มีหลากหลายระดับชนชั้นเหมือนกันนะ ถ้าหน้าตาหล่อเหลามาก ๆ ค่าตัวก็มากโขเลย......”
ขณะนั้นหูของทั้งสองคนก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำนุ่มลึกและน่าชวนฟังเอ่ยขึ้นว่า “ผู้จัดการครับ ผมขอเค้กก้อนหนึ่ง”
ช่างเป็นเสียงที่ไพเราะชวนฝันสุด ๆ
เมื่อเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยและข่งเจินเอ่อร์หันไปมองที่ลู่หานถิง ทั้งสองคนไม่อาจละสายตาได้ราวกับถูกมนต์สะกดไว้
ขณะที่ลู่หานถิงกำลังยืนอย่างสง่างามอยู่ตรงหน้าเคาท์เตอร์พร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีขาวเข้ากับกางเกงสแล็คขายาวสีดำและรูปร่างสูงโปร่งราวกับนายแบบ แน่นอนว่าความเจิดจรัสของเขานั้นสะกดทุกสายตาในที่แห่งนี้
พระเจ้า ชายหนุ่มคนนี้ช่างหล่อเหลาเสียจริง
ข่งเจินเอ่อร์ถึงกับนิ่งอึ้ง เธอดึงแขนเสื้อของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยแล้วพูดอย่างแผ่วเบาว่า “เสี่ยวเตี๋ย ผู้ชายคนนี้ใช่ผู้ชายระดับพรีเมี่ยมที่เราเพิ่งพูดถึงเมื่อกี้นี้ใช่ไหม?”
ช่างหล่อเหลาและรูปร่างดีมาก ๆ ......
เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่ดูดีขนาดนี้มาก่อน ผู้คนมักจะบอกว่า อำนาจ ความร่ำรวย และฐานะทางสังคม คือ เครื่องประดับที่ดีที่สุดของผู้ชาย ความสง่างามที่น่าหลงไหลและความหยิ่งยโสที่ดูไม่สนใจใครของเขานั้น ทำให้ลู่หานถิงเป็นผู้ชายที่ใส่เชิ้ตสีขาวและกางเกงสแล็คขายาวสีดำที่ดูดีที่สุดอย่างไม่มีใครเทียบได้
เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์
คราวนี้ข่งเจินเอ่อร์พูดกระซิบอย่างแผ่วเบาอีกครั้งว่า “เสี่ยวเตี๋ย ที่เธอบอกว่าเซี่ยซีหว่านเลี้ยงเด็กหนุ่มหน้าหล่อน่ะดูเหมือนชายหนุ่มคนนี้หรือเปล่า?”
“พูดไร้สาระอะไรของเธอ!” เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยจ้องไปที่ข่งเจินเอ่อร์และพูดต่อว่า “อย่างเซี่ยซีหว่านน่ะเหรอ เด็กที่เลี้ยงก็คงเป็นพวกคนระดับล่าง ตัวอ้วนน่าเกลียด ถ้าหากว่าเซี่ยซีหว่านมีปัญญาเลี้ยงของผู้ชายระดับพรีเมี่ยมขนาดนี้ได้ล่ะก็ ฉันคงเรียกเธอว่าคุณนายแล้ว!”
อย่างไรก็ตาม เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยก็ไม่เชื่อว่าเด็กหนุ่มที่เซี่ยซีหว่านเลี้ยงดูจะเป็นชายหนุ่มที่ดูดีมีระดับเหมือนกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อหน่อยค่ะ😁😁😁...
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...