บ้านศิทธิศาสตร์โสภณ
“วันนั้น คนที่ไปกับหนูแฟนหรือจ๊ะ” หญิงวัยกลางคนผมสั้น จีบปากจีบคอถามเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ภายนัยน์ตาที่มองเธอนั้นกลับแข็งกร้าว หญิงคนนี้ไม่ได้รักและเอ็นดูเธอเลยสักนิด ไม่มีใครเอะใจกับคำพูดเหล่านี้ของหล่อนเพราะต่างตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารที่อยู่ตรงหน้า เว้นแต่ผู้ถูกถาม ‘เคร้ง’ เสียงช้อนซ้อมที่วางกระแทกจานอย่างแรง ร่างเล็กดีดตัวขึ้นด้วยอารมฉุนเฉียวเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว
“แล้วคุณมีปัญหาอะไรกับเรื่องส่วนตัวของฉันคะ?” หญิงสาวถามขึ้นด้วยความโมโห เพราะเธอเดาทางออก ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจทำให้ผู้เป็นพ่อของเธอเข้าใจเธอผิด หล่อนต้องการทุกอย่าง เงิน ชื่อเสียง และพ่อของเธอ
“ณีเวียทำไมไปขึ้นเสียงใส่แม่นัทอย่างนั้นลูก!” แม่... คำนี้ที่พ่อของเธอสั่งให้เธอเรียกหล่อน แม่ของเธอเพิ่งจากเธอไปไม่ถึงเดือนผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาเป็นทุกอย่างแทนแม่ของเธอ แม่เลี้ยงของเธอ ที่เธอจะไม่มีวันที่เรียกว่า แม่
“พ่อ พ่อไม่เคยรู้อะไรเลย ว่าเขาตั้งใจทำให้พ่อเข้าใจผิด เขายุแยงให้พ่อโกรธหนู” ฉันหันไปบอกพ่อเพื่ออธิบายทุกอย่างให้พ่อฟัง และอยากจะบอกเหลือเกินว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนยังไง!
“เป็นเด็กเป็นเล็กจะมีแฟนไปทำไม แล้วเลิกสักทีนะนิสัยนี้ก้าวร้าว
พ่อปวดหัว” ตึง! ฉันมันก็ผิดอีกนั่นล่ะ พ่อไม่ฟังฉันเลย ไม่เคยตั้งคำถามกลับว่า ทำไม ยังไง ทุกวันนี้ฉันแทบจะเป็นคนนอกอยู่แล้ว
“พอเถอะค่ะคุณ แกยังเด็กฉันไม่ถือ” นางยิ้มเยาะก่อนจะหันมา
จิกตาใส่ฉัน
“ตอแหล”
‘ปึ้ง!’ พ่อลุกขึ้นทุบโต๊ะและชี้ไปที่ประตู
“ณีเวีย! ไปไหนก็ไป ก้าวร้าวแบบนี้ใครสอนมา พ่อรำคาญแล้วนะ!”
ฉันสะดุ้งและตกใจกับสิ่งที่พ่อทำ พ่อไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เลย
“ที่ผ่านมา พ่อเคยฟังหนูบ้างมั้ย? พ่อรู้มั้ยว่าเขาตั้งใจจะแย่งพ่อไปจากหนู เขาทำให้เราทะเลาะกันบ่อยแค่ไหนกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมา พ่อไม่เคยถามความจริงกับหนูเลย ไม่เลย!” มือฉันเริ่มสั่นเทา ตอนนี้ฉันไม่สามารถมองเห็นหน้าพ่อได้ชัด ทุกอย่างมันเริ่มพล่างมัวเพราะน้ำตา
ฉันเสียใจ ฉันไม่คิดว่าคำ คำนี้มันจะออกมาจากปากของพ่อฉัน คนที่ก่อนหน้านี้ เคยปกป้องฉันมาตลอด
“ออกไป อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก พ่อไม่ชอบเด็กก้าวร้าว” ฉันได้แต่
กำมือแน่น แล้วหยิบทุกอย่างออกมาจากกระเป๋าตัวเอง
“ได้ค่ะ แล้วนี่หนูไม่ต้องการ ต่อไปนี้ต่างคนต่างอยู่ และหนูจะไม่ใช้เงินพ่อสักบาท” บัตรเครดิตที่พ่อให้ไว้ กุญแจรถ กุญแจคอนโดที่มหาลัย ฉันจะวางไว้ตรงนี้ไม่ให้เหลือ
“เดี๋ยวก็ซมซานกลับมา เคยใช้เงินมือเปิบ เอาแต่ใจ ก้าวร้าว!”
“คอยดูแล้วกันค่ะ โชคดีค่ะ”
ฉันทิ้งท้ายแล้วรีบเดินขึ้นมาบนห้องเก็บของเสื้อผ้าจำเป็นใส่กระเป๋า
แล้วเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นด้วยความโมโห น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
หลายครั้งหลายคราที่แม่เลี้ยงคนนี้กลั่นแกล้งฉัน ทั้งแกล้งตกบันไดแล้วบอกว่าฉันเป็นคนผลัก แถมยังกล่าวหาว่าฉันไปขโมยเครื่องเพชรของหล่อนถึงในห้อง
ฉันอยู่ที่นี่ระแวงอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้แต่ละวันนางจะมาไม้ไหน และแล้วความโกรธแค้นของฉันยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก เมื่อมาเจอกับเหตุการณ์นี้ ฉันเบื่อจะเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆ แล้ว
“ไปแล้วเหรอ ฮ่า ๆ ฉันรอวันนี้มานานแล้วล่ะ แม่หัวเน่า เชิญไปลำบากข้างนอกเถอะ เงินของพ่อเธอฉันจะใช้เอง อิอิ”
ฉันหันตามเสียงก็เจอเธอเอามือกอดอกยิ้มเยาะใส่ฉัน เหอะใช้เงินพ่อฉันงั้นเหรอ โง่ไปหน่อยมั้ย พอแม่รู้ว่าพ่อมีคนอื่น แม่ก็จัดการโอนบ้านหลังนี้เป็นชื่อฉัน ฉันล่ะอยากให้พ่อมาเห็นเบื้องหลังของแม่นี่จริง ๆ ว่ามันต้องการจะปอกลอกเรา
ฉันทนเห็นหน้าหล่อนไม่ไหวแล้ว!
‘เพี๊ยะ!’ ก่อนจะไปขอตบสักทีเถอะ!
“กรี๊ดนังเด็กบ้า!” เธอร้องโวยวายและตั้งท่าจะพุ่งใส่ฉันกลับ แต่เมื่อเห็นฉันทิ้งของตั้งท่าสู้เหมือนกัน นางเลยชะงัก กระทืบเท้าโวยวาย ฉันได้แต่สมเพชและเดินออกมาจากบ้านแบบโมโหสุด ๆ รถก็ไม่มีขับ อะไรที่เป็นของที่พ่อซื้อให้
ฉันไม่นำมาด้วยสักอย่างเดียวเมื่อพ่อออกปากไล่ฉันอย่างกับหมูกับหมาขนาดนี้
ฉันจะอยู่มันทำไม คิดถึงแม่จัง
ตอนนี้ฉันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสี่แล้ว พอนึก ๆ แล้วก็เครียด ฉันจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเทอม แล้วฉันจะไปอยู่ไหนล่ะเนี่ย คอนโดก็คืนพ่อไป อีกไม่กี่อาทิตย์ก็เปิดเทอมแล้ว เพื่อน ๆ ก็ไป Work and Travel เมืองนอกหมด ทำไมชีวิตฉันต้องมาชีช้ำกะหล่ำปลีแบบนี้นะ!
ฉันได้แต่ทบทวนเรื่องปัญหาชีวิตหน้าป้ายรถเมล์ แต่ต้องไปสะดุดตากับใบประกาศที่ติดอยู่ขอบเสาตรงหน้า รับสมัครพนักงาน MC ขายเหล้า ZER
หน้าตาดี รายได้ดี สามหมื่นบาทต่อเดือน มีสวัสดิการ และที่พักให้
ฉันรีบกดเบอร์โทรหาตามที่เขาแจ้งไว้ทันที สามหมื่นบาทก็ถือว่าใช้ได้ เพราะเขามีที่พักให้ คราวนี้ฉันจะได้มีเงินไปจ่ายค่าเทอมด้วย คอยดูฉันจะไม่ง้อเงินของพ่อสักบาทเดียว!
(สวัสดีครับ)
“ฉันเห็นประกาศที่ติดไว้แล้วสนใจค่ะ ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงบ้างคะ เขียนใบสมัครที่ไหน”
(มาที่ตึก ZER เลยครับ เข้ามากรอกใบสมัครนายจะสัมภาษณ์เอง)
“ขอบคุณค่ะ” ฉันรีบเปิด Map หาตำแหน่งของตึก ZER ว่าพอจะมีรถเมล์ผ่าน พอดิบพอดี นั่งไม่กี่ป้ายนี่เอง การสมัครงานครั้งแรกของฉัน ก็เริ่มด้วยการ
เป็น MC ขายเหล้าแล้ว ดีไปอีก
ไม่นานฉันก็แบกของพะรุงพะรังขึ้นรถเมล์มาถึง
ตึก ZER
ตึกใหญ่ที่มีลักษณะการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังที่เป็นข่าวนี่เอง
สวยและดูทันสมัยมาก ฉันจำได้ในข่าวบอกว่าข้างล่างเป็นห้าง ข้างบนเป็นโรงแรม บนสุดเป็นแพนเฮ้าส์ ของเจ้าของตึกทั้งชั้น ฉันไม่อยากจะคิดเลยถ้าแผ่นดินไหวขึ้นมาจะลงมาทันไหม
ฉันตรงดิ่งไปหายามที่รอเปิดประตูให้
“ขอโทษนะคะ พอดีมาสมัครงานค่ะ ไม่ทราบว่าต้องขึ้นไปชั้นไหนคะ?”
ลุงยามทำท่านึกสักพัก
“อ่อ ชั้นยี่สิบเลยครับ จะมีใบสมัครเขียน ให้กรอกใบสมัครและเข้าไปรอสัมภาษณ์ได้เลย ของนี่ฝากไว้ก่อนนะครับห้ามนำขึ้นไป” ฉันขอบคุณลุงยามและรีบนำกระเป๋าไปฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ และตรงดิ่งไปชั้นยี่สิบทันที
ปิ๊ง เสียงลิฟต์เปิด โอ้ยตื่นเต้นฉันไม่เคยทำงานเลย ฉันจะทำมันได้ไหมเนี่ย พอมาถึงหน้าห้องความคิดมากมายก็ผุดขึ้นในหัวอีก กลัวก็กลัว ตื่นเต้นไปหมด เอาหละกรอกใบสมัครก่อนดีกว่า เดี๋ยวไม่ทัน พนักงาน MC เหล้า กับพนักงานบริการส่วนตัว นี่ไงกล่องนี้พนักงาน MC ฉันหยิบมันขึ้นมากรอกและหนีบรูปที่ติดจากกระเป๋าลงไป เรียบร้อย เอาหล่ะ ฮึบ ๆ สู้ ๆ ณีเวีย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาด