ฉันมองเขาอยู่สักพัก มองรอยยิ้มน่ารัก ๆ ของเขา ที่ทำฉันอบอุ่นขึ้นมาชั่วขณะ
หรือเขาจะเป็นความสุขที่หายไปของฉันจริง ๆ
ฉันไม่ตอบอะไรเขา แต่ลุกขึ้น เดินไปหยิบกล่องกล่องนั้นออกมาจากตู้เสื้อผ้า ก่อนจะเดินถือมันกลับมาหาเขา ที่นั่งมองฉันอยู่บนเตียง
“ซินน์ อย่าสนใจเรื่องเดิม ๆ เลยนะ ฉันไม่อยากเห็นเธอปวดหัว” เขาจับมือฉันแน่น ไม่ยอมให้ฉันเปิดกล่อง กล่องนั้นเด็ดขาด
แต่ฉันไม่สนใจ เปิดมันออกอีกครั้ง พร้อมกับหยิบแหวนทองคำขาววงนั้นยื่นให้เขา
“แหวนใคร?” เขามองฉันแว๊บนึง แล้วจะหยิบมันไปจากมือฉัน แต่ฉันรีบดึงกลับ และจับมือขวาเขาขึ้นมาแทน
“ถ้าฉันให้... ก็ใส่อีกข้างสิ จะถอดทำไม” ฉันค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนวงนั้นไปที่นิ้วนางข้างขวาเขา จนเขาตกใจ มองมันสลับฉันไปมา...
“อย่ารื้อฟื้นเลยซินน์ ฉันบอกแล้วไง ฉันจะเริ่มใหม่...” ฉันไม่ตอบหยิบของออกมาทีละอย่าง ทีละอย่าง หยิบมันออกมาดู เหมือนดูของสะสมของคนอื่น... ที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับฉัน
ฉันพยายามไม่นึกตาม ไม่คิดถึงอดีต ฉันไม่อยากจำอะไรได้อีกแล้ว... ฉันขอรู้แค่ว่าเรื่องมันเป็นยังไงก็พอ
ฉันจะได้เริ่มต้นถูก... ฉันจะได้กลับไปมีความสุขเหมือนเดิม เหมือนที่ใครเขาอยากให้ฉันเป็น...
ฉันเปิดดูรูปถ่ายหลาย ๆ ใบที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตอนนั้นฉันยิ้มกว้างจนตาหยี ถ้าให้มองตัวเองในรูปกับตอนนี้ มันคนละเรื่องกันเลย
ตอนนี้ฉันดูแซ่บกว่าเดิมเยอะ
ตานาวินไม่พูดอะไรเลย... เขานั่งเงียบ ๆ มองฉันไม่ละสายตา
“แต่ก่อน... ฉันแซ่บไหม” เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหยิบรูปในมือฉันไปดู
“ไม่ ไม่เคยชิม” ฉันหันไปจิกตาใส่ทันที ฉันหมายถึงเรื่องนั้นที่ไหนกัน!
“แต่ตอนนี้ชิมแล้ว แซ่บนะ ไหนชิมอีกทีสิ ยังแซ่บเหมือนเมื่อคืนไหม”
“อย่า!” ฉันรีบหันหน้าหนี แล้วดันอกเขาออกไป บ้าจริง แต่ก่อนฉันรอดมาได้ไง ทำไมเขาหื่นแบบนี้เนี่ย!
และเขาก็จับมือฉันออก ก่อนจะโน้มเข้ามาหอมแก้มฉันฟอดใหญ่
ทำฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาสะดื้อ ๆ
“ก่อนหน้านี้... เราไม่เคยมีอะไรกันเหรอ” ฉันกลั้นใจถามเขาไปตรง ๆ เพราะสงสัยว่า เขาหื่นขนาดนี้ฉันรอดมาได้ไง!
“ไม่... เรายังเด็ก พ่อเธอยิงฉันตายพอดี ฉันบอกว่าอย่าถามเรื่องเก่าไง ไปกินข้าวกัน พ่อแม่รออยู่” อยู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้น แล้วดึงมือฉันให้ลุกตาม
เราเดินจับมือกันลงมาข้างล่าง ซึ่งฉันก็ยอมให้เขาจับ ฉันอยากลองดู... บางทีความรู้สึกฉันมันอาจจะกลับมาง่ายขึ้นก็ได้
“เจ๊ น่ารักจุง จับมือกันมาด้วย” กาแฟแซวทันที เมื่อเราสองคนเดินถึงโต๊ะอาหาร
“เอ่อ ลองจับเล่น ๆ แหะ ๆ” ฉันรีบปล่อยทันที ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้าง ๆ น้ำปั่น
“แหม จะย้อนอดีตกันเหรอจ๊ะ ระวังสมองตัวเองด้วย เบา ๆ นะ” ฉันทำนิ้วโอเคให้น้ำปั่น จนมันเบะปากใส่แทน
“ผมขอตัวนะ” ทุกคนนิ่งทันที เมื่ออยู่ ๆ นาวาก็ลุกขึ้น แล้วเดินออกไป
อะไรวะ น้ำปั่นมองฉันสลับกับตานาวินที่กำลังนั่งกินข้าวปกติ เขาไม่สนใจพี่ชายตัวเองเลยสักนิด
“กินข้าว ๆ ฉันบอกแล้วว่าบ้านเราต้องมีจิตแพทย์สักคน บางคนก็ขาด บางคนก็เกิน”
ป้าหวานบ่นไปกินข้าวไป จนกาแฟยิ้มกว้างดีด๊าขึ้นมา
“กาแฟไง กาแฟไหวนะคะป้าหวาน ปรึกษากาแฟได้เลย”
ทุกคนนิ่ง ก่อนจะส่ายหน้ากันทั้งโต๊ะ
“แยกย้ายเถอะ” อาเท็นจากที่ไม่ค่อยพูด ถึงกลับแขวะลูกสาวตัวเองทันที
“พ่อง่ะ ก็กาแฟอารมณ์ดีที่สุดนี่น่า ใช่ไหมคะ ๆ” กาแฟหันไปจับแขนน้าน้ำตาล จนน้าน้ำตาลหัวเราะลั่น
“เหมือนแม่ได้ แต่อย่าเอามาหมดลูก แบ่งจากพ่อมาด้วยก็ดี ไม่แปลกใจเลย ที่กาแฟกับน้ำปั่นอยู่ด้วยกันแล้วพังพินาศ มันเหมือนฉันกับเธอเลยน้ำหวาน ฮ่า ๆ”
“เออ ว่างั้นล่ะ” ป้าหวานอมยิ้มเบา ๆ จนทุกคนยิ้มตาม ยกเว้นน้ำปั่น!
“โอ้ย ทำไมวนมาถึงหนูได้เนี่ย” น้ำปั่นบ่นขึ้นมาทันที ฉันนั่งกินข้าวไปยิ้มไป อดยิ้มตามไม่ได้กับความน่ารัก ของครอบครัวหมอ ๆ นี้
ตอนนี้กาแฟเรียนหมอทั่วไปอยู่ ยังเลือกไม่ถูกว่าจะต่อเฉพาะทางด้านไหน ส่วนน้ำแข็งก็เหมือนกัน แต่น้ำแข็งเลือกได้แล้ว... ว่าจะไปทางระบบประสาทและสมอง ซึ่งเท่มาก!
“เออ มึงไม่ไปผับหน่อยเหรอ ปกติเห็นไปทุกวันตั้งแต่แต่งงานเนี่ยไม่ไปเลยนะ”
เออใช่! ฉันลืมไปเลย! ลืมได้ไง ปกติฉันลงแดงตายแล้ว ฉันแต่งงานมาไม่กี่วันก็จริง แต่ฉันตื่นเช้าทุกวัน อยากไปทำงาน อยากศึกษานั่นนี่ จนลืมไปเที่ยวเลย ลืมได้ไง? งงตัวเองชะมัด
“ไปไหมป้าไปด้วย” ป้าหวานยิ้มกว้างออกมาทันที
“โอ้ยตาย แม่จะพาลูกสะใภ้ไปเที่ยวผับเหรอคะ คุณพระ หนูเพิ่งเคยเห็น ฮ่า ๆ” น้ำปั่นหัวเราะลั่น จนป้าหวานทำหน้างอน
“ทำไม ๆ สมัยไหนแล้ว ผ่อนคลาย ฉันคิดถึงเพื่อน โทรหาณีเวียดีกว่า” แล้วป้าหวานก็เดินยิ้มออกไป ทำไมฉันรู้สึกเบื่อไม่อยากไปไหนเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาด2