"ที่รักครับ ผมว่าเราไปหาอะไรทานกันดีกว่า"
"ฉันว่าจะชวนคุณขวัญ.."
"จะชวนทำไม" ปิ่นมุกยังพูดไม่จบนอร์เวย์ก็รู้แล้วว่าเธอคงจะชวนขวัญตาไปด้วย แต่ก็แอบเอ็นดูภรรยาเพราะช่างไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย
"มีอะไรหรือเปล่าคะ" หญิงสาวถามสามีที่จูงมือเดินออกมาจากจุดรวมพล เพราะดูเหมือนเขามีอะไรในใจ
"จะมีอะไรล่ะคุณไม่เห็นสองคนนั้นเหรอดูแปลกๆ ไหม"
"แปลกตรงไหนคะ"
"เอ้า..ยังไม่รู้อีก"
"แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงถ้าคุณไม่บอก" ที่ปิ่นมุกไม่คิดแบบนั้น เพราะเธอได้ยินบ่อยมากเรื่องที่ไชยาแอบนินทาเซฟตี้ ยิ่งกับขวัญตาด้วยแล้ว เพราะขวัญตาเป็นคนดูหน้างานตรงที่ไชยารับผิดชอบ
"เขาสองคน.." นิ้วชี้ของนอร์เวย์ถูกยกขึ้นมาพร้อมกันทั้งสองข้าง แล้วก็ขยับเข้ามาแนบชิดเพื่อสื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาสองคนกำลัง..
"อะไรนะคะ?" ปิ่นมุกหยุดแล้วหันกลับไปมอง
"คุณเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม"
"พวกเขาสองคนทะเลาะกันเหรอคะ"
ว่าแล้วเธอจะไม่เข้าใจ กับบางเรื่องทำไมเธอถึงเก่งนัก ยิ่งไอ้เรื่องคิดไปเองเนี่ยเก่งกว่าใครเพื่อน
"ไปกินข้าวดีกว่าครับที่รัก อย่าไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านเขาเลย"
"คุณพูดไม่เคลียร์"
"เดี๋ยวผมพากลับไปเคลียร์ที่ห้องเอาไหม เคลียร์ให้หมดเปลือกไปเลย แบบไม่ให้เหลืออะไร" สายตาคมมองต่ำลงไปดูจุดสำคัญ
"คุณนอร์เวย์ พูดเป็นเล่นไปได้ทุกเรื่องเลยนะคุณ"
พอเลิกแถวขวัญตาก็เดินตรงเข้าไปหน้างานที่ตัวเองรับผิดชอบเหมือนทุกวัน เพราะอุปกรณ์เซฟตี้ในตัวเธอใส่มาครบแล้ว ก็เลยไม่จำเป็นต้องได้กลับไปเอาอะไรที่ออฟฟิศ
แต่จะว่าเหมือนทุกวันก็ไม่ใช่..เพราะวันนี้มีคนเดินตามเธอมา
ขวัญตาหันมองกลับไปด้านหลังเพราะได้ยินเสียงฝีเท้า
"ผมก็จะไปหน้างานเหมือนกัน" เมื่อคืนนี้นอนแทบไม่หลับ เพราะคิดคำที่จะพูดกับเธอ แต่พอเจอหน้าเข้าจริงๆ สิ่งที่คิดมาตลอดทั้งคืนกลับพูดไม่ออก
เห็นว่าเขาจะเดินไปหน้างานเธอก็เลยเดินเลี่ยงไปทิศทางอื่น เพราะไม่จำเป็นต้องไปที่จุดเดียวกันก็ได้
พอขวัญตาหันหลังให้ ไชยาก็ถอดหมวกเซฟตี้ออก
"คุณสถาปนิกครับ ใส่อุปกรณ์เซฟตี้ให้ครบด้วย" ประยุทธ์ที่จะไปดูหน้างานตัวเองเดินผ่านมาพอดี
ขวัญตาได้ยินแบบนั้นก็เลยหันกลับมามอง "แล้วคุณจะถอดมันทำไม" เพราะมันอยู่ในเขตรับผิดชอบของเธอ ถ้าประยุทธ์รายงานว่าเธอทำงานบกพร่องก็จะไม่เป็นผลดี
"ผมร้อนนี่"
"ร้อนคุณก็กลับออฟฟิศไปสิ"
ถูกต่อว่ายังดีกว่าเธอไม่พูดอะไรด้วยเลย "เซฟตี้นี้ก็หนัก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ปลด Safety Belt ที่เอวอยู่
"คุณอยากจะหาเรื่องฉันใช่ไหม"
ประยุทธ์เห็นแบบนั้นคงไม่ใช่เรื่องของตัวเองแล้วล่ะ ก็เลยรีบพาตัวเองออกไปจากตรงนั้นก่อน เพราะดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมงานกำลังจะขายออกแล้ว
{"เราก็มาดูเองเถอะ"}
{"บอกมาเลยไม่ได้หรือไงแม่เป็นอะไร"}
{"แค่นี้ก่อนนะพ่อพูดนานไม่ได้ ถ้าแม่รู้ว่าพ่อโทรมาส่งข่าว.."} พูดแค่นี้นสายก็ตัดไป เพื่อให้อีกฝ่ายกระวนกระวายใจ
เมื่อวานนี้ก็ลางานไปแล้วหนึ่งวัน ยิ่งใกล้ถึงวันหยุดยาวถ้าลาอีก สงสัยเงินเดือนไม่ขึ้นแน่เลย
ขวัญตาทิ้งเวลาไว้ชั่วโมงกว่า แล้วก็โทรกลับไปเครื่องของแม่ เผื่อว่าแม่จะเป็นคนรับสาย
{"ฮัลโหลแม่เป็นยังไงบ้างคะ"}
{"เป็นยังไงอะไรเหรอลูก"}
{"แม่สบายดีไหม"}
{"ทำไมถามแบบนั้นล่ะ ตกลงปีใหม่หนูจะกลับบ้านไหม"}
{"กลับค่ะ"} ที่แม่โทรมาบอกให้กลับบ้านหรือว่าเพราะเรื่องนี้ ฟังจากน้ำเสียงของแม่ยังดูสดใส รอให้ถึงวันหยุดยาวก่อน ค่อยกลับคงได้มั้ง
หลายวันต่อมา.. และก็เป็นวันที่ทุกคนรอคอย นั่นคือวันหยุดยาวที่จะได้กลับไปพบครอบครัว
ขวัญตากลับมาเก็บข้าวของ แทบจะเป็นคนสุดท้าย เพราะรู้ดีว่ากลับบ้านไป ต้องเจอคำพูดเกี้ยวพาราสีจากพ่อเลี้ยงแน่
หญิงสาวออกมาจากห้องแล้วก็เดินมาที่รถ ขวัญตาขึ้นไปนั่งบนรถได้ครู่หนึ่ง เพราะเธอกำลังชั่งใจอยู่ว่า ถ้าทำแบบนั้นจะเป็นเหมือนการหนีเสือปะจระเข้ไหม แต่ถ้าเป็นเขาก็ยังดีกว่าพ่อเลี้ยง
ก๊อก.. ก๊อก..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาดรัก